Lazada Affiliate 2025 หาเงินออนไลน์กับลาซาด้า

ถ้าเราจะพูดถึงการหาเงินออนไลน์ในปี 2568 หนึ่งในวิธีที่ยังคงถูกพูดถึงอย่างต่อเนื่องคือ การทำ Lazada Affiliate หรือการเป็นพันธมิตรขายสินค้าออนไลน์ หลายคนอาจคิดว่าเป็นเรื่องเก่าแล้ว รายได้คงไม่มากเหมือนช่วงแรก ๆ แต่คลิปจากช่อง “เซียนเป็ด” ที่กำลังถูกแชร์ในโลกออนไลน์ได้ยืนยันว่า วิธีนี้ยังสร้างรายได้ได้จริง เพียงแต่ต้องปรับกลยุทธ์ให้เข้ากับพฤติกรรมผู้บริโภคและแพลตฟอร์มในยุคปัจจุบัน

บทความนี้จะพาคุณมาดูว่า การทำ Affiliate ผ่าน Lazada และ Shopee ยังมีความน่าสนใจอย่างไร วิธีการทำงานจริงเป็นแบบไหน และที่สำคัญคือจะโยงเข้ากับบริบทของคนไทย ว่าทำไมการปั้นเพจ ลงวิดีโอ และแปะลิงก์ขายของออนไลน์ จึงยังเป็นโอกาสสร้างรายได้เสริมสำหรับใครหลายคน

โลกของ Affiliate Marketing ในปี 2568

Affiliate Marketing คือรูปแบบการตลาดที่คนทั่วไปสามารถโปรโมทสินค้าของแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ เช่น Lazada หรือ Shopee ผ่านลิงก์พิเศษของตัวเอง เมื่อมีคนกดลิงก์แล้วสั่งซื้อ คุณก็จะได้รับค่าคอมมิชชั่นกลับมา ฟังดูเหมือนง่าย แต่ในทางปฏิบัติการสร้างรายได้หลักหมื่นหลักแสนต่อเดือนจำเป็นต้องมีเทคนิค

ในประเทศไทย Affiliate Marketing เคยบูมมากช่วงโควิด-19 คนตกงานและหันมาหารายได้ออนไลน์ แต่หลังจากนั้นกระแสเริ่มซาลงเพราะการแข่งขันสูง และผู้ใช้บางคนรู้สึกว่า “ยุ่งยาก” หรือ “ได้ไม่คุ้มค่าแรง” ทว่าในความเป็นจริง การทำ Affiliate ไม่ได้ตายไปไหน เพียงแต่เปลี่ยนรูปแบบจากการ “สแปมลิงก์” ไปสู่การทำคอนเทนต์ที่สร้างความน่าเชื่อถือ

ทำไม Lazada Affiliate ยังน่าทำ

จากประสบการณ์ของ “เซียนเป็ด” เขายอมรับว่าตัวเองเน้น Shopee มากกว่า แต่ก็ยังคงวางลิงก์ Lazada ไว้เสมอ และที่น่าสนใจคือ แม้ไม่ได้โปรโมทจริงจัง Lazada ก็ยังสร้างยอดขายได้จำนวนไม่น้อย สะท้อนว่า ผู้บริโภคไทยจำนวนมากยังชอบ Lazada โดยเฉพาะสินค้าที่เกี่ยวกับเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือสินค้าที่มีดีลร่วมกับบัตรเครดิต

สิ่งนี้สะท้อนความจริงของตลาดไทยที่ Lazada และ Shopee ไม่ได้มาแทนกัน แต่ “เกื้อหนุนกัน” ผู้บริโภคมักเช็กราคาทั้งสองที่ก่อนตัดสินใจซื้อ ดังนั้นถ้าคุณแปะลิงก์ทั้งคู่ก็จะเพิ่มโอกาสในการได้ค่าคอมฯ อย่างชาญฉลาด

เครื่องมือช่วยที่ทำให้การทำ Affiliate ง่ายขึ้น

ยุคนี้การทำเพจ Facebook หรือ TikTok เพื่อขายของไม่จำเป็นต้องเก่งการเขียนเหมือนเมื่อก่อน เพราะมี AI อย่าง ChatGPT ช่วยคิดแคปชั่นดึงดูดใจ ตัวอย่างเช่น ถ้าจะโปรโมท “ลำโพงเชอร์แมน” คุณเพียงใส่ชื่อสินค้าและคุณสมบัติคร่าว ๆ แล้วขอให้ ChatGPT เขียนข้อความสั้น ๆ กระตุ้นการซื้อสำหรับโพสต์บน Facebook เพียงเท่านี้ก็มีคอนเทนต์พร้อมใช้ในไม่กี่วินาที

เมื่อได้คอนเทนต์แล้ว ขั้นตอนสำคัญคือการสร้างลิงก์ Affiliate ทั้ง Shopee และ Lazada โดยต้องไม่ลืมใส่ Sub ID ทุกครั้ง เพื่อเช็กได้ว่ารายได้มาจากสินค้าตัวใด การติดตามข้อมูลนี้ทำให้สามารถปรับกลยุทธ์ได้ตรงจุด เช่น สินค้าไหนขายดี ควรโปรโมทเพิ่ม สินค้าไหนเงียบ ก็เปลี่ยนแนวทาง

เคล็ดลับการวางลิงก์ให้คลิกจริง

ความต่างสำคัญของ Lazada กับ Shopee คือ Shopee สามารถแปะลิงก์ในวิดีโอได้ แต่ Lazada ต้องแปะไว้ที่โพสต์เท่านั้น ทำให้หลายคนรู้สึกว่า Lazada เสียเปรียบ แต่ “เซียนเป็ด” กลับมองว่านี่คือโอกาส

เขาแนะนำว่าโพสต์บน Facebook ที่ดีควรมี 3 บรรทัดหลัก คือ

  • บรรทัดแรก เขียนชื่อสินค้า

  • บรรทัดสอง ใส่ลิงก์ Shopee พร้อมอิโมจิ

  • บรรทัดสาม ใส่ลิงก์ Lazada พร้อมอิโมจิ

วิธีนี้อาศัยพฤติกรรมคนไทยที่มักอ่านแค่ 2–3 บรรทัดแรกก่อนกด “อ่านเพิ่มเติม” ดังนั้นการวางลิงก์ให้อยู่ในตำแหน่งที่คนเห็นทันทีคือการเพิ่มโอกาสให้คลิกได้มากขึ้น

ลงวิดีโอหลายช่องทาง รายได้หลายทางเข้า

อีกหนึ่งเทคนิคคือการ “ไม่พึ่งแพลตฟอร์มเดียว” เซียนเป็ดลงวิดีโอทั้ง TikTok, Shopee Video และ Facebook Reels ซึ่งแต่ละแพลตฟอร์มมีผู้ชมต่างกัน ทำให้เขาสามารถสร้างรายได้จากหลายช่องทางพร้อมกัน

ลองมองในมุมของคนไทย TikTok อาจโดดเด่นในเรื่องไวรัลและความเร็ว Shopee Video ได้ความตรงกลุ่มผู้ซื้อ ส่วน Facebook Reel ได้กลุ่มคนทำงานและแม่บ้านที่ยังเล่น Facebook เป็นหลัก การใช้หลายแพลตฟอร์มจึงเป็นการกระจายความเสี่ยง และเพิ่มรายได้โดยไม่ต้องลงทุนเพิ่มมากนัก

YouTube: พื้นที่ที่ยังติดข้อจำกัด

แม้ YouTube จะเป็นอีกช่องทางที่คนไทยนิยม แต่ข้อจำกัดคือสามารถใส่ลิงก์ Shopee ได้ แต่ยังไม่รองรับ Lazada ซึ่งหมายความว่า หากจะทำ Affiliate กับ Lazada จำเป็นต้องใช้ Facebook หรือ TikTok เป็นหลัก อย่างไรก็ตาม YouTube ยังเหมาะสำหรับสร้าง “คอนเทนต์รีวิวเจาะลึก” ที่สร้างความน่าเชื่อถือและอาจดึงผู้ชมไปซื้อผ่าน Shopee ก่อน แล้วค่อยเสริม Lazada บนเพจหรือกลุ่มชุมชน

ไทยกับวัฒนธรรมการซื้อของออนไลน์

สิ่งที่ทำให้ Affiliate Marketing ในไทยน่าสนใจคือ พฤติกรรมผู้บริโภคที่ “เสพคอนเทนต์ควบคู่กับการซื้อ” คนไทยไม่ใช่แค่เข้าแอปเพื่อซื้อ แต่ยังเข้าไปเพื่อดูรีวิว ดูคลิปสนุก ๆ แล้วค่อยตัดสินใจ ซึ่งต่างจากบางประเทศที่เน้นเสิร์ชหาอย่างเดียว

ในไทย TikTok Shop เคยสร้างกระแสแรงมาก แต่เมื่อถูกจำกัด บทบาทของ Lazada และ Shopee จึงกลับมาชัดเจนขึ้น ช่องทางการปั้นเพจ ทำคลิปรีวิวสั้น ๆ แล้วใส่ลิงก์ Affiliate จึงยังมีที่ยืนและสามารถสร้างรายได้ที่มั่นคงหากทำอย่างต่อเนื่อง

การเรียนรู้และการพัฒนาตัวเอง

“เซียนเป็ด” ยังชี้ด้วยว่าหากอยากเข้าใจลึกซึ้งกว่านี้ ปัจจุบันมีคอร์สสอน Affiliate โดยตรง เช่น คอร์ส “Affiliate Passive Income” ที่รวมความรู้ตั้งแต่การสร้างเพจ การแปะลิงก์ เทคนิค Shopee Video, TikTok และ YouTube ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าการทำ Affiliate ได้ถูกพัฒนาเป็น “ศาสตร์การตลาดเต็มรูปแบบ” แล้ว ไม่ใช่แค่การสุ่มโพสต์ลิงก์เหมือนสมัยก่อน

การทำ Lazada Affiliate ในปี 2568 ไม่ได้เป็นเพียงการ “แปะลิงก์รอคลิก” แต่เป็นการสร้างคอนเทนต์ที่เข้ากับพฤติกรรมผู้บริโภคไทย การปั้นเพจ Facebook, ทำ TikTok, Shopee Video และใช้ ChatGPT ช่วยเขียนแคปชั่น ทำให้กระบวนการทั้งหมดง่ายขึ้นและเข้าถึงผู้ซื้อได้มากขึ้น

แม้จะมีข้อจำกัด เช่น การใส่ลิงก์ Lazada ที่ยังไม่สะดวกเหมือน Shopee หรือการที่ YouTube ยังไม่เปิดกว้าง แต่หากใช้เทคนิคการจัดวางลิงก์อย่างชาญฉลาด และกระจายช่องทางการโปรโมท ก็ยังคงเป็นวิธีสร้างรายได้เสริมที่จับต้องได้สำหรับคนไทยในปีนี้

การทำ Affiliate ไม่ได้ต่างอะไรจากการค้าขายทั่วไป เพียงแต่ย้ายสนามมาที่โลกออนไลน์ หากใครเข้าใจจริตคนไทย รู้จักใช้เครื่องมือใหม่ ๆ และมีความสม่ำเสมอ ก็ยังสามารถเปลี่ยน “ลิงก์” ธรรมดาให้กลายเป็นเงินเข้ากระเป๋าได้จริงในปี 2568