การขอสัญชาติไทย 2568 ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง

การขอสัญชาติไทย 2568 ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง

เมื่อรัฐเดินหน้าแก้ปัญหา “คนไร้สัญชาติ” อย่างจริงจัง

ประเทศไทยในปี 2568 ได้เข้าสู่ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่สำคัญในการแก้ไขปัญหาความไร้สัญชาติของประชาชนบางกลุ่ม โดยเฉพาะผู้ที่เกิดในไทย มีชื่อในทะเบียนราษฎร แต่กลับไม่ได้รับการรับรองสัญชาติไทย แม้จะใช้ชีวิตในประเทศมาตลอดหลายสิบปี

จากมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2567 ได้มีการเห็นชอบแนวทางใหม่เพื่อให้บุคคลกลุ่มนี้สามารถ “ยื่นขอสัญชาติไทยได้” อย่างเป็นทางการ โดยเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป ซึ่งถือเป็นการเปิดทางครั้งใหญ่ของรัฐไทยในการปลดล็อกสถานะทางกฎหมายให้กับประชาชนกลุ่มเปราะบางหลายหมื่นคน

คำถามคือ ใครที่เข้าเกณฑ์ และต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้างถึงจะยื่นเรื่องได้อย่างถูกต้อง?


คุณสมบัติผู้มีสิทธิยื่นขอสัญชาติไทย

  1. ต้องมีชื่อในทะเบียนราษฎรหรือทะเบียนประวัติ (เช่น ทร.38 ก.) และมีเลขประจำตัว 13 หลักที่ขึ้นต้นด้วย 0, 5, 6 หรือ 8

  2. ต้องเกิดในประเทศไทย และมีหลักฐานการเกิด เช่น สูติบัตร หนังสือรับรองการเกิด หรือ ท.ร.20/1

  3. มีความประพฤติดี ไม่เคยต้องโทษคดีร้ายแรง หรือหากเคยถูกจำคุก ต้องพ้นโทษมาแล้วอย่างน้อย 5–10 ปีตามลักษณะคดี

  4. สามารถพูดและเข้าใจภาษาไทยได้ (เว้นแต่เป็นเด็กเล็กหรือผู้มีความพิการ)

  5. มีภูมิลำเนาในประเทศไทยตั้งแต่ก่อนวันที่ 25 พฤศจิกายน 2542 และยังอาศัยอยู่ในไทยอย่างต่อเนื่อง

  6. จงรักภักดีต่อระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข


เอกสารที่ต้องเตรียม

การเตรียมเอกสารอย่างครบถ้วนคือหัวใจของกระบวนการนี้ เพื่อไม่ให้ถูกตีกลับหรือถูกขอเอกสารเพิ่มเติมในภายหลัง ควรเตรียมดังนี้

  • สำเนาทะเบียนบ้าน หรือทะเบียนประวัติ (ทร.38 ก.) ที่แสดงชื่อผู้ขอ

  • บัตรประจำตัวตามกฎหมายทะเบียนราษฎร เช่น บัตรประจำตัวผู้ไม่มีสัญชาติไทย

  • สูติบัตร หนังสือรับรองการเกิด หรือ ท.ร.20/1 ที่ยืนยันว่าผู้ขอเกิดในประเทศไทย

  • หลักฐานการศึกษา หรือหนังสือรับรองว่าเข้าใจภาษาไทย หากไม่ได้เข้าเรียนในระบบการศึกษาไทย

  • หนังสือรับรองความประพฤติจากสถานีตำรวจระดับผู้กำกับหรือสูงกว่า

  • เอกสารจากหน่วยงานท้องถิ่นหรือผู้ปกครองที่ยืนยันว่าผู้ขออาศัยอยู่ในประเทศไทยมาโดยตลอด

  • หากเคยต้องโทษ ต้องมีหลักฐานว่าพ้นโทษและไม่มีพฤติกรรมที่เป็นภัยต่อความมั่นคง


ขั้นตอนการยื่นขอสัญชาติไทย

  1. เตรียมเอกสารทั้งหมดให้ครบตามรายการ

  2. ยื่นคำขอได้ที่ที่ว่าการอำเภอ หรือสำนักงานเขตในพื้นที่ที่มีชื่ออยู่ในทะเบียน

  3. สำหรับกรุงเทพฯ สามารถยื่นที่กรมการปกครอง โดยมีการเปิดให้จองคิวล่วงหน้าได้ 60 วัน

  4. หลังยื่นคำขอ เจ้าหน้าที่จะตรวจสอบคุณสมบัติและเอกสาร

  5. หากผ่านการพิจารณา จะมีการเพิ่มชื่อในทะเบียนบ้าน และออกบัตรประชาชนภายในไม่เกิน 5 วันทำการ

ขั้นตอนทั้งหมดจะดำเนินการภายใน 5 วัน หากไม่มีเอกสารตกหล่นหรือปัญหาอื่นเพิ่มเติม


ถาม-ตอบ: เข้าใจขั้นตอนให้ชัด ก่อนยื่นจริง

ผู้ไม่มีสูติบัตรเลย จะขอได้หรือไม่
หากไม่มีสูติบัตร แต่มีพยานหลักฐานอื่นประกอบ เช่น ท.ร.20/1 หรือหนังสือรับรองจากโรงพยาบาลหรือผู้ใหญ่บ้าน ก็สามารถยื่นคำขอได้ โดยต้องแสดงหลักฐานว่าผู้ขอเกิดในประเทศไทยจริง

เคยต้องโทษคดีอาญา ยังยื่นได้หรือไม่
สามารถยื่นได้ หากพ้นโทษมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี สำหรับคดีทั่วไป หรือ 10 ปีสำหรับคดียาเสพติดในฐานะผู้ค้า โดยจะพิจารณาร่วมกับพฤติกรรมหลังพ้นโทษ

คนที่เคยถูกตัดสิทธิ์มาก่อน จะยื่นใหม่ได้หรือไม่
หากมีมติ ครม. ใหม่ครอบคลุมสถานะของผู้ขอ และมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ที่ประกาศในปี 2568 ก็สามารถยื่นใหม่ได้

ต้องเสียค่าธรรมเนียมหรือไม่
สำหรับกลุ่มเป้าหมายที่เข้าข่ายตามมติ ครม. ปี 2567 และ 2568 ไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียม


บทสรุป

มติ ครม. ปี 2568 ถือเป็นก้าวสำคัญของนโยบายด้านสิทธิมนุษยชนของไทย ที่ตั้งใจแก้ปัญหาความไร้สัญชาติอย่างจริงจัง โดยเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีชีวิตอยู่ในประเทศไทยมายาวนานแต่ขาดสถานะทางกฎหมาย ได้รับสัญชาติไทยอย่างถูกต้องตามกระบวนการ

การยื่นขอสัญชาติไทยในรอบนี้ไม่ใช่เพียงการยื่นเอกสาร แต่คือการฟื้นฟูศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และการมอบอนาคตใหม่ให้กับกลุ่มคนที่เคยอยู่ในความเงียบของกฎหมายมายาวนาน