การสมัครสินเชื่อกับธนาคารกรุงไทยเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับทุกท่านที่กำลังต้องการเงินด่วนฉุกเฉิน เนื่องจากเป็นสินเชื่อออนไลน์ที่ให้บริการด้วยธนาคารกรุงไทย มีความน่าเชื่อถือสูง ไม่ใช่แอปเงินกู้เถื่อน สามารถสมัครกู้เงินได้จากหลายช่องทาง ทั้งแอพกรุงไทย NEXT และแอปเป๋าตังที่หลายคนใช้ซื้อสลากรัฐบาลออนไลน์เป็นประจำ
สมัครสินเชื่อกรุงไทยใจป้ำ ผ่านแอพเป๋าตัง
สินเชื่อกรุงไทยใจป้ำ เป็นสินเชื่อส่วนบุคคล ธนาคารกรุงไทย ที่มีวงเงินสูงสุด 5 เท่าของรายได้ประจำ แต่เพดานเงินกู้สูงสุดจะอยู่ที่ 1 ล้านบาท สินเชื่อกรุงไทยใจป้ำ เป็นสินเชื่อไม่ต้องใช้หลักทรัพย์หรือบุคคลคำประกัน ผู้สมัครไม่จำเป็นต้องมีบัญชีเงินเดือนกับธนาคารกรุงไทย ขอเพียงแค่มีรายได้ประจำขั้นต่ำ 15,000 บาท ต่อเดือน ไม่ว่าจะเป็นพนักงานประจำหรือประกอบอาชีพอิสระก็สามารถสมัครกู้เงินด่วนกับสินเชื่อกรุงไทยใจป้ำได้ทั้งสิ้น อย่างไรก็ดี สำหรับท่านที่สงสัยว่าสินเชื่อกรุงไทยใจป้ำ เช็คบูโรไหม ก็ต้องบอกว่าเนื่องจากเป็นสินเชื่อส่วนบุคคล และมีเงื่อนไขที่แน่นอน เพื่อกลั่นกรองผู้มีความสามารถในการชำระเงิน จึงสรุปได้ว่าสินเชื่อกรุงไทยใจป้ำ เช็คบูโรครับ
สำหรับการสมัครสินเชื่อกรุงไทยใจป้ำผ่านแอพเป๋าตังนั้น ขอเพียงเปิดบัญชีออมทรัพย์ เป๋ามีตัง ผ่านแอปเป๋าตัง ก็จะสามารถสมัครสินเชื่อกรุงไทยใจป้ำผ่านแอปเป๋าตังได้เลย ซึ่งการยืมเงินผ่านแอปเป๋าตังจะมีข้อดีตรงที่ได้รับเงินด่วนโอนเข้าบัญชีเลยโดยตรง อัตราการผ่อนอยู่ที่หมื่นละ 10 บาท/วัน นานสูงสุด 60 เดือน ส่วนอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ร้อยละ 22 ต่อปี ดังนั้น ใครที่มีเป๋าตังอยู่ในเครื่องอยู่แล้ว ก็สมัครยืมเงินด่วนฉุกเฉินกับสินเชื่อกรุงไทยใจป้ำได้เลย
สมัครสินเชื่อกรุงไทยใจป้ำ ไม่ได้ ยืมเงินเป๋าตังไม่ผ่าน เพราะอะไร
อย่างที่กล่าวไป สินเชื่อกรุงไทยใจป้ำนั้นเช็คบูโรและเช็คแบล็คลิส รวมถึงกำหนดเงื่อนไขไว้ชัดเจนว่าผู้สมัครจะต้องมีรายได้ประจำขั้นต่ำ 15,000 บาท/เดือน เพราะฉะนั้น หากใครมีคุณสมบัติไม่ตรงตามเงื่อนไขก็มีโอกาสสูงที่จะสมัครสินเชื่อกรุงไทยใจป้ำไม่ผ่าน ส่วนอีกสาเหตุหนึ่งที่ไม่สามารถยืมเงินเป๋าตังได้ เป็นเพราะคุณยังไม่ได้สมัครเปิดบัญชี เป๋ามีตัง เสียก่อน ทำให้ไม่สามารถใช้งานเมนูสมัครสินเชื่อออนไลน์ในแอปเป๋าตังได้ ดังนั้น ขอให้เปิดบัญชีเงินฝากกับแอปเป๋าตังก่อนก็จะทำให้สามารถกู้เงินด่วนกับกรุงไทยใจป้ำได้อย่างไม่มีปัญหา
หากคุณสมัครสินเชื่อ “กรุงไทยใจป้ำ” แล้วไม่ผ่านการอนุมัติ มีสาเหตุและแนวทางแก้ไขที่สามารถพิจารณาได้ดังนี้:
สาเหตุที่อาจทำให้สมัครไม่ผ่าน
1. รายได้ไม่ถึงเกณฑ์ขั้นต่ำ
ธนาคารกำหนดว่าผู้สมัครต้องมีรายได้ต่อเดือนอย่างน้อย 15,000 บาท หากรายได้ต่ำกว่านี้ อาจทำให้ไม่ผ่านการพิจารณา
2. เอกสารไม่ครบถ้วนหรือไม่ถูกต้อง
ผู้สมัครต้องอัปโหลดเอกสารให้ครบภายใน 7 วันทำการหลังจากส่งใบสมัคร เช่น สลิปเงินเดือนล่าสุด และ Bank Statement ย้อนหลัง 3 เดือน หากเอกสารไม่ครบหรือไม่ถูกต้อง อาจส่งผลต่อการพิจารณา
3. ภาระหนี้สูงเกินไป
หากคุณมีภาระหนี้ที่ต้องชำระในแต่ละเดือนสูงเกินไปเมื่อเทียบกับรายได้ อาจทำให้ธนาคารพิจารณาว่าคุณมีความเสี่ยงในการชำระหนี้เพิ่มเติม
4. ประวัติการชำระหนี้ไม่ดี
หากคุณมีประวัติการชำระหนี้ที่ไม่ดี เช่น การผิดนัดชำระหนี้ หรือมีหนี้ค้างชำระ อาจส่งผลต่อการพิจารณาสินเชื่อ
5. ข้อมูลส่วนบุคคลไม่ถูกต้องหรือไม่เป็นปัจจุบัน
หากข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไม่ถูกต้องหรือไม่เป็นปัจจุบัน เช่น ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ หรือสถานที่ทำงาน อาจทำให้ธนาคารไม่สามารถติดต่อคุณได้ และส่งผลต่อการพิจารณาสินเชื่อ
แนวทางแก้ไข
1. ตรวจสอบและปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคล
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในระบบ Krungthai NEXT หรือแอปเป๋าตังถูกต้องและเป็นปัจจุบัน หากต้องการแก้ไขข้อมูลบางส่วน อาจต้องติดต่อสาขาธนาคารกรุงไทยเพื่อดำเนินการ
2. เตรียมเอกสารให้ครบถ้วน
ตรวจสอบว่าเอกสารที่ต้องใช้ในการสมัครสินเชื่อครบถ้วนและถูกต้อง เช่น สลิปเงินเดือนล่าสุด และ Bank Statement ย้อนหลัง 3 เดือน หากคุณเป็นผู้ประกอบการ ควรเตรียมเอกสารเพิ่มเติม เช่น หนังสือรับรองการจดทะเบียน หรือทะเบียนพาณิชย์
3. ลดภาระหนี้
พยายามลดภาระหนี้ที่มีอยู่ เช่น การชำระหนี้บางส่วนก่อนที่จะสมัครสินเชื่อใหม่ เพื่อให้ภาระหนี้รวมลดลง และเพิ่มโอกาสในการได้รับอนุมัติสินเชื่อ 4. ปรับปรุงประวัติการชำระหนี้
หากคุณเคยมีประวัติการชำระหนี้ที่ไม่ดี ควรปรับปรุงโดยการชำระหนี้ตรงเวลา และหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ เพื่อให้ประวัติการชำระหนี้ของคุณดีขึ้น
5. รอระยะเวลาและสมัครใหม่
หากคุณได้รับการปฏิเสธการสมัครสินเชื่อ ธนาคารแนะนำให้รอระยะเวลาอย่างน้อย 6 เดือนก่อนที่จะสมัครใหม่ เพื่อให้คุณมีเวลาปรับปรุงสถานะทางการเงินและประวัติการชำระหนี้
หมายเหตุ: หากคุณต้องการข้อมูลเพิ่มเติมหรือคำแนะนำเฉพาะบุคคล ควรติดต่อสาขาธนาคารกรุงไทยใกล้บ้าน หรือโทรสอบถามที่ Krungthai Contact Center โทร. 02-111-1111 เพื่อขอคำปรึกษาและข้อมูลที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของคุณ
