เปิดร้านจิ้มจุ่ม (หมูจุ่ม) เล็กๆ ใช้เงินเท่าไหร่ ต้องเตรียมอะไรบ้าง 2568

ร้านจิ้มจุ่ม หรือร้านชาบูหมูกระทะ เป็นธุรกิจที่ได้รับความนิยมพุ่งแรงเป็นอย่างมาก เพราะหากจับกลุ่มลูกค้าถูกแล้ว ก็บอกได้เลยว่าขายดีเป็นเทน้ำเทท่าเป็นแน่ อย่างไรก็ดี ขึ้นชื่อว่าธุรกิจแล้วไม่มีอะไรง่าย การวางแผนคำนวณต้นทุน ทำเล และค่าใช้จ่ายทุกอย่างที่เกี่ยวข้องเป็นปัจจัยที่ต้องให้ความสำคัญสูงสุด เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง ก่อนที่เราจะใช้ที่เก็บสั่งสมไปกับการลงทุน หรือกู้หนี้ยืมสินมาลงทุนนั้น เราควรต้องวางแผนธุรกิจอย่างเป็นขั้นเป็นตอนเสียก่อน หรือที่บางคนบอกว่า “ล้มบนกระดาษ” เพราะฉะนั้น วันนี้เว็บไซต์ Bkklovehoro ของเราจึงได้เตรียมข้อมูลมาตอบคำถามทุกคนที่สนใจอยากเข้ามาในธุรกิจร้านจิ้มจุ่ม ไม่ว่าจะมีความฝันอยากเปิดร้านจิ้มจุ่มเล็กๆ ของตนเอง หรือต้องการเปิดร้านจิ้มจุ่มหม้อดินให้เป็นสาขาแรกของธุรกิจแฟรนไชส์ในฝัน พร้อมแล้วมาดูกันเลยครับ

 

ลิงก์ผู้สนับสนุน

เปิดร้านจิ้มจุ่มเล็กๆ ใช้เงินเท่าไหร่

 

เปิดร้านจิ้มจุ่มเล็กๆ ใช้เงินเท่าไหร่

คำว่า “เล็ก” ในความคิดของหลายคนแตกต่างกันออกไป เมื่อกล่าวถึงร้านชาบูเล็ก ๆ บางคนอาจมองว่ามีแค่ 3-4 โต๊ะก็พอ แต่เล็กก็บางคนอาจไปไกลถึง 10 – 15 โต๊ะได้เช่นกัน เพราะฉะนั้น การเลือกขนาดของร้านจิ้มจุ่มจึงมีความสำคัญกับการคำนวณต้นทุนเพื่อให้ท่านสามารถบริหารธุรกิจไปได้ตลอดรอดฝั่ง สำหรับการเปิดร้านจิ้มจุ่มที่มีขนาดประมาณ 10 โต๊ะ จะใช้เงินประมาณ 30,000 – 50,000 บาท ในการลงทุนเปิดร้านขนาดเล็กๆ กะทัดรัด ซึ่งร้านจิ้มจุ่มในที่นี้หากเป็นร้าน Open door หรือร้านกลางแจ้งไม่มีแอร์ก็จะช่วยประหยัดต้นทุนไปได้อีกพอสมควรเลย ที่สำคัญหากสถานที่เปิดร้านจิ้มจุ่มเป็นบ้านของท่านเองที่ไม่ต้องเสียค่าเช่าก็นับว่าได้เปรียบพอสมควร เพราะปกติแล้วร้านอาหารที่ไปไม่รอดก็มาจากต้นทุนคงที่อย่างค่าเช่าและค่าจ้างพนักงานนั่นเอง

ทั้งนี้ ต้นทุนคงที่เหล่านี้ควรอยู่ที่ 15 – 20% บวกกับต้นทุนผันแปร (ค่าใช้จ่ายที่ไม่เท่ากันทุกเดือน) ได้แก่ ค่าไฟ ค่าน้ำ ค่าแก๊ส ที่ควรอยู่ที่ประมาณ 10 – 15% ต่อเดือน เพราะฉะนั้น เมื่อคำนวณต้นทุนในการเปิดร้านแล้ว หากร้านจิ้มจุ่มเล็ก ๆ ของท่านมีโต๊ะประมาณ 10 โต๊ะ หากจะขายให้ได้กำไรควรจะมียอดขายขั้นต่ำวันละ 10,000 บาท ขึ้นไป ซึ่งหากคิดว่าจะทำยอดขายได้ไม่ถึงจำนวนนี้ อีกวิธีที่ใช้ได้คือพยายามลดต้นทุน โดยเฉพาะต้นทุนผันแปรอย่างค่าไฟ ค่าน้ำ แต่ไม่ควรลดต้นทุนอาหาร เพราะนี่คือจุดขายของร้านจิ้มจุ่ม หากทำร้านอาหาร แล้วใช้ของไม่มีคุณภาพ ก็ไม่ควรเปิดตั้งแต่แรกครับ

เปิดร้านจิ้มจุ่ม ต้องเตรียมอะไรบ้าง

 

เปิดร้านจิ้มจุ่มเล็กๆ ใช้เงินเท่าไหร่

สิ่งสำคัญที่สุดของการทำธุรกิจในยุคสมัยนี้ คือ การประชาสัมพันธ์ (PR) เพราะต่อให้ร้านจิ้มจุ่มของเราอร่อยมากแค่ไหน แต่ไม่มีคนรู้จักก็ยากที่จะประสบความสำเร็จ เพราะฉะนั้น การทำ PR ควรเริ่มตั้งแต่ในช่วงที่ร้านใกล้เสร็จ โดยใช้โซเชียลมีเดียทุกช่องทาง ทั้ง TikTok Facebook X Instagram และ YouTube โดยเฉพาะยิ่งหากทำคอนเทนต์ให้ร้านจิ้มจุ่มของเรามีความน่าสนใจก็จะสามารถเรียกลูกค้าได้อีก อย่างไรก็ดี สิ่งสำคัญที่จะทำให้ลูกค้ากลับมาซ้ำร้านจิ้มจุ่มของเราก็คือรสชาติและความคุ้มค่า การตั้งราคาจึงต้องมีความเหมาะสม และทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าเงินที่จ่ายไปคุ้มค่ากับชุดจิ้มจุ่มที่ได้รับ ดังนั้น การตั้งราคาจิ้มจุ่มจึงควรมีความน่าสนใจ และอยู่ในระดับที่ Win-Win ทั้งเจ้าของร้านและลูกค้า เช่น ชุด 199 299 หรือ 399 ควรมีวัตถุดิบที่แตกต่างกัน

อย่างไรก็ดี ควรระวังเรื่องการจัดโปรโมชั่น ไม่ควรโปรโมทอะไรให้เว่อร์วังจนเกินพอดี เพราะหลังจากโปรโมชั่นแล้วลูกค้าน้อยลงย่อมส่งผลเสียต่อธุรกิจของเรา นอกจากนี้ การบริหารของเสียยังเป็นหัวใจสำคัญของธุรกิจร้านอาหาร หากเราสามารถจัดการของเสียด้วยการนำมาใช้ประโยชน์ได้ก็จะช่วยลดต้นทุนหลายประการ เพราะสิ่งที่จะทำให้ร้านจิ้มจุ่มอยู่รอดได้ก็คือการควบคุมต้นทุนให้ดี อะไรที่ลดได้ก็ลด แต่อะไรที่ไม่ควรลด อย่างคุณภาพของวัตถุดิบก็ควรเลือกใช้ตามความเหมาะสม ไม่ให้เหลือทิ้งเสียเปล่า

สรุปงบประมาณ “เปิดร้านจิ้มจุ่ม” — ต้องเตรียมเงินเท่าไร?


1. เลือกโมเดลก่อน แล้วค่อยคำนวณ

  1. รถเข็น / ซุ้มตลาดนัด (5–10 โต๊ะ)
    • งบเริ่มต้น ≈ 40,000–120,000 บาท

    • ค่าโครงซุ้ม-รถเข็น + เตาจิ้มจุ่มดินเผา/แก๊ส

    • โต๊ะ-เก้าอี้พับ / อ่างล้างจานแบบพกพา

    • สต็อกวัตถุดิบเปิดร้าน 1-2 วัน

    • เงินสำรองค่าเช่าล็อกตลาดนัด 1-2 เดือน

  2. ร้านห้องแถว 1 คูหา (20–30 โต๊ะ)
    • งบเริ่มต้น ≈ 250,000–600,000 บาท

    • มัดจำเช่าพื้นที่ + ปรับปรุงพื้น-ผนัง-ไฟ-น้ำ

    • เตาถ่าน/แก๊ส + โต๊ะ-เก้าอี้ไม้หรือเหล็ก

    • เครื่องครัว สต็อกวัตถุดิบ 7-14 วัน

    • ระบบดูดควันเบื้องต้น พัดลมดูดอากาศ

    • เงินเดือนพนักงาน 2-3 คน และทุนหมุนเวียน 3 เดือน

  3. ร้านใหญ่สไตล์บุฟเฟต์ (40 โต๊ะขึ้นไป)
    • งบเริ่มต้น ≈ 800,000–1,800,000 บาท

    • ค่าตกแต่ง-รีโนเวตเต็มรูปแบบ + ระบบดูดควันท่อสแตนเลส

    • เตาอินดักชัน/แก๊สหัวคู่ โต๊ะ + เก้าอี้วัสดุดี

    • ห้องเย็นหรือตู้แช่เชิงพาณิชย์หลายใบ

    • POS, กล้องวงจรปิด, ป้ายไฟ-สื่อโซเชียล

    • เงินเดือนทีมงาน 6–10 คน และเงินทุนหมุนเวียนอย่างน้อย 3 เดือน


2. ค่าใช้จ่ายหลัก 7 หมวด (ทุกรูปแบบต้องเจอ)

  • ค่าพื้นที่ – มัดจำ 1-3 เดือน + ค่าเช่าล่วงหน้า

  • ค่าปรับปรุงและตกแต่ง – พื้น, ไฟ, น้ำ, ห้องน้ำ, ป้ายหน้าร้าน

  • อุปกรณ์ครัวและเตา – เตาไฟดินเผา/แก๊ส, หม้อดิน, ถังแก๊สสำรอง, ตู้แช่

  • โต๊ะ-เก้าอี้และภาชนะ – จาน-ชามเมลามีน, ช้อน-ส้อม, ถังน้ำแข็ง

  • วัตถุดิบเปิดร้าน – หมู, เนื้อ, เครื่องใน, ชุดผัก, น้ำจิ้ม, ถ่าน/แก๊ส

  • ระบบสนับสนุน – พัดลม, ดูดควัน, POS, ลิ้นชักเก็บเงิน, ซอฟต์แวร์ขาย

  • เงินทุนหมุนเวียน 2-3 เดือน – ค่าแรง, ค่าน้ำ-ไฟ, ค่าแก๊ส, ซื้อของเข้าสต็อก


3. ปัจจัยที่ทำให้ “บานปลาย” ได้ง่าย

  • เลือกทำเลพรีเมียมเกินจำเป็น ค่าเช่าสูงเกิน 10 % ของยอดขายที่คาด

  • ตกแต่งหรูเกินโมเดลราคา ทำให้คืนทุนช้า

  • ซื้ออุปกรณ์ใหม่ทั้งหมด แทนการมิกซ์มือ-สองสภาพดี

  • สต็อกวัตถุดิบสดมากเกินไป ทำให้เน่าเสียขาดทุน


4. ทางเลือก “แฟรนไชส์จิ้มจุ่ม”

  • ค่าแฟรนไชส์ครั้งแรกราว 100,000–300,000 บาท

  • ส่วนแบ่งยอดขาย 3–5 % หรือรายเดือนคงที่ 5,000–15,000 บาท

  • แลกกับสูตรน้ำจิ้ม-น้ำซุป ซัพพลายวัตถุดิบ และแบรนด์ที่ลูกค้ารู้จัก

  • ใช้งบรวมสูงกว่าร้านอิสระราว 15–25 % แต่เสี่ยงลองผิดลองถูกน้อยลง


5. เคล็ดลับลดต้นทุน แต่ยังมืออาชีพ

  1. เช่าอุปกรณ์บางอย่าง – ตู้แช่, เตา, โต๊ะ-เก้าอี้ เช่า-ผ่อนรายเดือนแทนซื้อเงินสด

  2. ใช้หม้อดินแท้-เตาถ่านช่วงเปิดร้าน ก่อนอัปเกรดเป็นเตาอินดักชันเมื่อมีเงินหมุน

  3. ต่อรองกับซัพพลายเออร์รายใหญ่ รวมออร์เดอร์กับร้านเพื่อน หรือเข้ากลุ่มแฟรนไชส์

  4. ยืดวงจรเงินสด – ขอเครดิต 15-30 วันจากผู้ขายวัตถุดิบ ช่วยลดเงินหมุนเวียน


สรุปสั้น ๆ

  • ซุ้มตลาดนัด: เริ่มได้ตั้งแต่ ≈ 40,000 บาท

  • ร้านห้องแถว: วงเงิน ≈ 250,000–600,000 บาท

  • ร้านใหญ่บุฟเฟต์: เตรียม ≈ 800,000–1,800,000 บาท

จิ้มจุ่มเป็นเมนูฮิตต้นทุนวัตถุดิบไม่สูง แต่ต้องบริหารความสดและรสมือให้คงที่ — ยิ่งโต๊ะหมุนเร็ว กำไรยิ่งเด่น อย่าลืมกันงบปรับปรุงสถานที่และทุนหมุนเวียนอย่างน้อย 3 เดือน เพียงเท่านี้ก็พร้อมเสิร์ฟหม้อดินร้อน ๆ ให้ลูกค้าซดน้ำซุปหอมสมุนไพรได้ทุกค่ำคืน.

 

 

ลิงก์ผู้สนับสนุน