การโอนรถหรือการโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์นั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายหลังจากที่ได้มีการทำสัญญาซื้อ-ขายกันเสร็จสิ้นแล้ว ผู้ซื้อและผู้ขายควรนัดหมายกันไปดำเนินการโอนรถให้เสร็จสิ้นในโอกาสแรก เพื่อให้ผู้ซื้อมีกรรมสิทธิ์ในรถที่ได้โอนเงินซื้อไปอย่างรวดเร็วที่สุด แต่หลายคนอาจจะสงสัยว่าการโอนรถนั้น เค้าทำกันที่ไหน ใช้เอกสารอะไรบ้าง และที่สำคัญคือมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ ใครเป็นคนจ่าย วันนี้เราได้เตรียมข้อมูลมาให้คำตอบแก่คุณแล้ว ดังนี้
ลิงก์ผู้สนับสนุน
โอนรถที่ไหน
หนึ่งในคำถามที่คนจำนวนมากสงสัย คือ เมื่อเราซื้อ-ขายรถเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปต้องไปโอนรถที่ไหน คำตอบก็ง่ายนิดเดียว นั่นคือไปโอนรถที่สำนักงานขนส่งนั่นเอง สำหรับชาว กทม. คุณสามารถเดินทางไปโอนรถได้ที่สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครซึ่งมีอยู่จำนวน 5 พื้นที่ด้วยกัน ได้แก่ เขตจตุจักร เขตบางขุนเทียน เขตพระโขนง เขตตลิ่งชัน และเขตหนองจอก สำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ในต่างจังหวัดก็สามารถเดินทางไปโอนรถได้ที่สำนักงานขนส่งจังหวัดซึ่งเข้าไปดูแผนที่และตำแหน่งที่ตั้งได้ที่เว็บไซต์ของกรมการขนส่งทางบก
โอนรถต้องใช้เอกสารอะไรบ้าง
สิ่งที่คุณควรจะต้องเตือนตนเองให้ดีเมื่อต้องเดินทางไปโอนรถ คือ การเตรียมเอกสารให้พร้อมและครบถ้วน โดยปกติแล้ว การโอนรถ ไม่ว่าเป็นการโอนรถในจังหวัดเดียวกัน หรือการโอนรถข้ามจังหวัด เอกสารที่คุณต้องเตรียมก็เหมือนกัน ประกอบด้วย
– เอกสารยืนยันบุคคล ได้แก่ บัตรประจำตัวประชาชน และสำเนาทะเบียนบ้านของผู้โอนและผู้รับโอนรถ
– หลักฐานการซื้อ-ขายรถยนต์ อาทิ หนังสือสัญญา ใบเสร็จ หรือใบกำกับภาษี
– สมุดทะเบียนรถ หรือ เล่มรถ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญมาก ห้ามลืมโดยเด็ดขาด
– แบบฟอร์มคำขอโอนรถที่สามารถเข้าไปดาวน์โหลดได้ที่นี่ โดยให้กรอกข้อมูลให้เรียบร้อย พร้อมลงนามกำกับทั้งผู้โอนและผู้รับโอนเพื่อประหยัดเวลาด้านธุรการ
ค่าโอนรถ 2566 กี่บาท ใครจ่าย
สำหรับค่าใช้จ่ายในการโอนรถ คุณจะต้องเสียค่าธรรมเนียม จำนวน 905 บาท (แบ่งเป็น ค่าอากรแสตมป์ 500 บาท ค่าเปลี่ยนแผ่นป้ายทะเบียน 200 บาท ค่าเปลี่ยนเล่มทะเบียนรถ 100 บาท และค่าคำขอ 5 บาท) สำหรับคำถามว่าค่าโอนรถ ใครจ่ายนั้น ก็ขึ้นอยู่กับการตกลงระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย แต่ส่วนใหญ่ก็มักจะแบ่งค่าโอนกันคนละครึ่ง หรือเป็นความรับผิดชอบของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ขอให้ตกลงให้เรียบร้อยก่อนที่จะมาชำระเงินค่าธรรมเนียมที่กรมการขนส่งจะได้ไม่เป็นการเสียเวลา
โอนรถ ตรวจสภาพ หรือไม่ตรวจสภาพ?
อีกคำถามหนึ่งที่หลายคนสงสัยคือการโอนรถนั้นจำเป็นที่จะต้องนำรถเข้าตรวจสภาพหรือไม่ คำตอบสามารถแบ่งได้เป็น 2 กรณี นั่นคือต้องนำรถเข้าตรวจสภาพให้เรียบร้อยก่อนจึงจะสามารถดำเนินการโอนรถต่อไปได้ และอีกกรณีหนึ่งที่เป็นการโอนปิดบัญชีจากผู้ให้เช่าซื้อไปยังผู้เช่าซื้อซึ่งเป็นผู้ครอบครองรถตามรายการจดทะเบียน กรณีนี้ไม่จำเป็นต้องนำรถเข้าตรวจสภาพ แต่ดำเนินการด้านธุรการโอนรถได้เลย
โอนรถ ใช้เวลากี่วันได้เล่ม
สำหรับระยะเวลาที่ใช้ในการโอนรถนั้นจะใช้เวลาไม่เกิน 1 สัปดาห์นับตั้งแต่วันที่ได้ดำเนินการธุรการโอนรถเรียบร้อยแล้ว โดยเจ้าของรถคนใหม่หรือผู้รับโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์จะต้องเดินทางไปรับสมุดทะเบียนหรือเล่มรถด้วยตนเอง พร้อมกับเปลี่ยนแผ่นป้ายทะเบียน (กรณีที่ต้องการเปลี่ยน)
การโอนรถมีขั้นตอนอะไรบ้าง
สำหรับการโอนรถนั้น มีขั้นตอนง่าย ๆ เพียงไม่กี่ขั้นตอน แต่สำคัญตรงที่การเตรียมเอกสารให้พร้อมและครบถ้วนก็จะช่วยประหยัดเวลาได้มาก
– ขั้นตอนแรกให้คุณนำรถเข้าตรวจสภาพรถยนต์ให้เรียบร้อย ยกเว้นรถที่เข้าเงื่อนไขยกเว้นตามที่กล่าวไปข้างต้น
– ให้ผู้โอนและผู้รับโอนยื่นเอกสารโอนกรรมสิทธิ์รถ และชำระค่าธรรมเนียมให้เรียบร้อยที่งานทะเบียนรถ สำนักงานขนส่ง
– หลังจากดำเนินการเรียบร้อยแล้วก็จะมีนัดหมายรับใบคู่มือจดทะเบียนรถหรือเล่มทะเบียน พร้อมเครื่องหมายการเสียภาษี และแผ่นป้ายทะเบียนรถอีกครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะใช้เวลาไม่นาน ไม่เกิน 7 วัน
การโอนรถข้ามจังหวัด ต้องทำอย่างไร
ขั้นตอนและเอกสารการโอนรถข้ามจังหวัดนั้นมีรายละเอียดเหมือนกับการโอนรถในจังหวัดเดียวกันทุกประการ แตกต่างกันตรงที่การโอนรถข้ามจังหวัดนั้น ผู้โอนรถจะต้องเดินทางไปดำเนินการในจังหวัดที่ผู้รับโอนอาศัยอยู่ สมมติว่าผู้รับโอนอาศัยอยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ แต่ผู้โอนกรรมสิทธิ์หรือเจ้าของรถคนเก่าอยู่ใน กทม. ก็ต้องเดินทางไปยังยื่นเรื่องโอนรถที่จังหวัดเชียงใหม่ เพราะเป็นจังหวัดที่ผู้รับโอนกรรมสิทธิ์จะใช้งานรถเป็นหลัก หรือหากมีธุระจริงก็อาจมอบอำนาจให้ผู้อื่นไปดำเนินการโอนรถข้ามจังหวัดแทนได้เช่นกัน
