ลูกปิดเทอม พ่อแม่ลาพักร้อน ไปเที่ยวต่างจังหวัดไม่อยู่บ้านเป็นสิบ ๆ วัน อากาศก็ร้อนแต่กลับบ้านเจอบิลค่าไฟแล้วรู้สึกหนาวบอกไม่ถูก เพราะค่าไฟพุ่งเรียกได้ว่า 1.5 – 2 เท่าแบบเต็ม วันนี้สำหรับท่านที่สงสัยและต้องการไขปริศนาว่าทำไมค่าไฟถึงได้ขึ้นมากมายขนาดนี้ วันนี้เรามีบทความดี ๆ น่าสนใจซึ่งเป็นบทความสาระเกี่ยวกับการคิดคำนวณค่าไฟมาบอกต่อกับบทความ “ไขข้อสงสัย ทำไมค่าไฟแพง” ดังนั้นอย่าได้รอช้าเรามาตามไปดูกันเลยว่าเพราะอะไรค่าไฟฟ้าช่วงเดือน มีนาคม – พฤษภาคมนั้นถึงได้แพง
ค่าไฟขึ้นเพราะอะไร
เชื่อเลยว่าสำหรับหลาย ๆ ท่านที่ได้รับบิลค่าไฟ โดยเฉพาะในช่วงเดือนมีนาคม ถึง เดือนพฤษภาคมนั้น คงจะต้องมีความสงสัยกันไม่น้อยอย่างแน่นอนว่าเพราะเหตุใด ค่าไฟฟ้าถึงได้เพิ่มมากขึ้นอย่างมาก ทั้งนี้สาเหตุสำคัญที่ทำให้ค่าไฟฟ้านั้นมีอัตราเพิ่มสูงมากขึ้นคือ การปรับขึ้นของ ค่า FT ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้ค่าไฟฟ้ามีจำนวนเพิ่มสูงมากขึ้นพร้อม ๆ กับค่าใช้จ่ายของต้นทุนการผลิตที่ได้รับผลกระทบมาจากสภาวะสงครามและเศรษฐกิจที่มีความเปลี่ยนแปลง
ค่า FT ไฟฟ้า คืออะไร
ค่า FT ไฟฟ้านั้นเป็นคำย่อมาจากคำว่า “Float time” หรือค่าไฟฟ้าฝันแปร ซึ่งมีความหมายคือ การลอยค่าของต้นทุนการผลิตไฟฟ้าที่การไฟฟ้าไม่สามารถดำเนินการควบคุมได้ โดยจะเป็นกรณีรายละเอียดค่าใช้จ่ายเช่น ราคาเชื้อเพลิง อัตราเงินเฟ้อ อัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ซึ่งทั้งหมดนั้นเป็นอีกหนึ่งตัวแปรที่ส่งผลกระทบทางอ้อมให้ การไฟฟ้ามีค่าดำเนินการต้นทุนในการผลิตกระแสไฟฟ้าที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงไปตามช่วงเวลาและสถานการ์ต่าง ๆ โดยการไฟฟ้าจะดำเนินการกำหนดเป็นกรอบและคำนวณไว้ และจะมีการปรับเปลี่ยนในรอบทุก ๆ 3 เดือนหรือ 4 เดือนเนื่องจาก ช่วงระยเวลาดังกล่าวจะเป็นช่วงที่ราคาต้นทุน วัตถุดิบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องดังที่เราได้นำเสนอได้นั้น จะมีการการปรับเปลี่ยนราคาเช่นกัน
ดังนั้นในส่วนนี้ ทุกท่านคงพอจะทราบแล้วว่า ค่า FT นี่แหละคือตัวการสำคัญที่ส่งผลกระทบอย่างมากต่ออัตราค่าไฟฟ้า เนื่องจากในช่วงระยะเวลาผ่านมานั้น ตลอดช่วงเดือนมกราคม – มีนาคมนั้น ราคาเชื้อเพลิงมีราคาสูงขึ้น ประกอบกับวิกฤติการณ์ด้านพลังงานที่เป็นผลมาจากภาวะสงคราม ซึ่งทำให้การนำเข้าก๊าซธรรมชาติ มีแนวโน้มที่จะปรับตัวสูงขึ้น และประกอบกับอัตราการใช้พลังงานในประเทศที่ทำให้ ค่าไฟฟ้าฐาน เพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วยนั่นเอง
ทำไมค่าไฟฟ้าถึงเพิ่มขึ้น
เรียกได้ว่าเป็นความเดือดร้อนต่อเนื่องกับแทบทุกครัวเรือน เพราะด้วยการดำเนินการปรับเปลี่ยนค่า FT ไฟฟ้าที่มีอัตราเพิ่มสูงขึ้น จนสำหรับหลาย ๆ ท่านนั้นต้องแบกภาระหนักจากการจ่ายค่าไฟฟ้าที่เพิ่มต่อเดือนมากกว่า 50 – 60% ทั้งนี้ในส่วนท้าย เราจึงได้รวบรวมสาเหตุ ที่มาที่ไปของเหตุผลที่ทำให้ทุกท่านต้องจ่ายเงินค่าไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้ทุกท่านสำรวจตนเองและอาจจะปรับพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าให้มีความสอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงนี้ โดยมีประเด็นที่เราสรุปมาให้ทุกท่านแล้วที่นี่ดังนี้
- ช่วงเดือนมกราคม – มีนาคม 2566 มีความต้องการใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจากช่วงก่อนหน้า ซึ่งเป็นช่วงสิ้นปี 2565 โดยเข้าสู่ช่วงฤดูร้อน ก็เป็นปกติที่จะทำให้มีการใช้งานแอร์ หรือเครื่องปรับอากาศเพิ่มมากขึ้น
- ราคานำมันเชื้อเพลิงโดยเฉลี่ยนั้นมีราคาที่ปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ค่า FT ไฟฟ้า มีการเปลี่ยนแปลง พร้อม ๆ กันกับการปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมขึ้นของค่าใช้จ่ายในส่วนอื่น ๆ ทั้งราคาถ่านหิน ราคาก๊าซธรรมชาติ ที่ปรับสูงขึ้นทั้งหมด ดังนั้นค่า FT ไฟฟ้าจึงสูงขึ้นและส่งผลให้ค่าไฟฟ้าของพี่น้องประชาชนทุกท่านจึงมีการปรับสูงขึ้นตามเช่นกัน
- ความเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่มีการปรับเปลี่ยนสูงขึ้น โดย ณ เวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ค่าเงินบาทอ่อนตัว โดยล่าสุดอัตราแลกเปลี่ยนเงินค่าต่างประเทศนั้นมีอัตราที่เพิ่มสูงขึ้น ณ เวลานี้อยู่ที่ ดอลลาร์สหรัฐ/ บาท ที่ 36 – 38 บาทต่อ 1 ดอลลาร์
- สถานการณ์ผู้ผลิต LNG มีการชะลอการลงทุน ทั้งนี้อันเนื่องมาจาก ณ เวลาปัจจุบันมีความต้องการพลังงานที่เปลี่ยนไป ส่งผลให้เหล่าบรรดานักลงทุนเกิดความลังเลและชะลอการลงทุน ดังนั้นอัตราค่าใช้จ่ายในหลาย ๆ ส่วนของกลุ่มธุรกิจพลังงาน จึงทรงตัวและหยุดรอดูสถานการณ์
- สภาวะสงครามรัสเซีย – ยูเครน และประเด็นที่ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในตลาดโลก
จากข้อมูลและรายละเอียดทั้งหมด ทุกท่านคงจะพอจะเห็นแล้วว่าค่า FT นั้นจะเป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่สามารถควบคุมได้ ดังนั้นในอนาคตสำหรับการพิจารณาพลังงานทางเลือก เช่น การติดโซล่าเซลล์ หรือพลังงานทดแทน ก็สามารถเป็นอีกหนึ่งทางออกที่น่าสนใจไม่น้อยสำหรับการลดค่าไฟฟ้า