ในวันที่ค่าครองชีพพุ่งไม่หยุด หลายคนเริ่มมองหาช่องทางหารายได้เสริม และสำหรับคนที่อยากลองขายของครั้งแรก คำถามยอดฮิตคือ “แม่ค้ามือใหม่ขายอะไรดี” เพราะสินค้ามีให้เลือกมากมายตั้งแต่ของกิน ของใช้ ไปจนถึงสินค้าดิจิทัล แต่ไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะขายง่าย หรือทำกำไรได้จริง
บทความนี้เราจะพาคุณสำรวจตั้งแต่การเลือกสินค้าที่เหมาะกับมือใหม่ เทคนิคตั้งตัว ไปจนถึง 15 ไอเดียสินค้าขายดีที่เริ่มได้ทันที พร้อมคำแนะนำสำหรับคนที่อยาก ขายอะไรให้ได้เงินวันละ 1000 อย่างยั่งยืน
1. รู้ก่อนเริ่ม: ปัจจัยเลือกสินค้าสำหรับแม่ค้ามือใหม่
ก่อนจะตัดสินใจขายอะไร ต้องตอบคำถาม 3 ข้อนี้ให้ได้
-
ทุนและความเสี่ยง – มีทุนเริ่มต้นเท่าไหร่ และพร้อมรับความเสี่ยงแค่ไหน
-
ความถนัดและความชอบ – สินค้าที่เราชอบจะทำให้ขายได้นานและสื่อสารได้จริงใจ
-
ตลาดและความต้องการ – ต้องมีลูกค้าพร้อมซื้อ ไม่ใช่เลือกเพราะเราชอบอย่างเดียว
2. 15 ไอเดียสินค้าสำหรับแม่ค้ามือใหม่
เพื่อให้เห็นภาพชัด เราจะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ได้แก่ ของกิน ของใช้ และสินค้าดิจิทัล
กลุ่มที่ 1: ของกิน
เหมาะสำหรับคนที่อยากเห็นเงินหมุนไว กำไรต่อชิ้นชัดเจน
1) อาหารกล่อง/อาหารเดลิเวอรี่
-
เมนูง่าย เช่น ข้าวกะเพรา, ไก่ทอด, ผัดซีอิ๊ว
-
ขายผ่าน GrabFood, Foodpanda หรือเพจ Facebook
-
เหมาะสำหรับคนทำอาหารเป็น
2) ขนมอบโฮมเมด
-
คุกกี้ บราวนี่ ขนมปัง
-
ลงทุนเริ่มต้นต่ำ ใช้เตาอบเล็กได้
-
ตลาดออนไลน์ต้องการตลอด
3) อาหารแช่แข็ง
-
ตัวเลือกสำหรับคนมองหา ทำอะไรขายดี เก็บได้นาน
-
เช่น ลาบหมูแช่แข็ง, ผัดไทยแช่แข็ง, น้ำพริกแช่แข็ง
-
เก็บสต็อกได้ ลดความเสี่ยงขายไม่ทัน
4) น้ำผลไม้และเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ
-
น้ำสมุนไพร, น้ำผลไม้คั้นสด
-
ทำแบรนด์เล็ก ๆ ขายผ่านออนไลน์หรือหน้าบ้าน
5) ขนมขบเคี้ยวในแพ็กเกจจิ้งสวย
-
กล้วยอบกรอบ, ถั่วปรุงรส, มันฝรั่งทอด
-
เก็บได้นาน ส่งไปรษณีย์ได้ทั่วประเทศ
กลุ่มที่ 2: ของใช้และแฟชั่น
ลงทุนครั้งเดียว เก็บขายได้เรื่อย ๆ
6) เสื้อผ้าแฟชั่นราคาย่อมเยา
-
เสื้อ Oversize, ชุดออกกำลังกาย, เสื้อผ้าเด็ก
-
ใช้ Facebook Marketplace และ TikTok Shop
7) เครื่องประดับและแอ็กเซสซอรี
-
ต่างหู สร้อยข้อมือ แหวนแฟชั่น
-
ของชิ้นเล็ก เก็บง่าย ส่งง่าย
8) สกินแคร์และเครื่องสำอาง
-
เลือกสินค้าที่มี อย. และมีรีวิว
-
สร้างแบรนด์หรือเป็นตัวแทนจำหน่ายก็ได้
9) อุปกรณ์ตกแต่งบ้าน
-
โคมไฟ, แจกัน, กล่องเก็บของ
-
เป็นกลุ่มที่ตลาดออนไลน์โตมากในช่วง Work from Home
10) ของใช้สำหรับสัตว์เลี้ยง
-
เสื้อผ้าหมาแมว, ของเล่น, อาหารสัตว์
-
ตลาดนี้มีแฟนเหนียวแน่นและยินดีจ่าย
กลุ่มที่ 3: สินค้าดิจิทัลและบริการออนไลน์
แทบไม่ต้องสต็อกของ ไม่ต้องกังวลเรื่องการจัดส่ง
11) E-book หรือคู่มือออนไลน์
-
ทำเองหรือขายของคนอื่นแบบ Affiliate
-
ต้นทุนต่ำ กำไรเกือบเต็ม
12) คอร์สออนไลน์สอนทักษะ
-
เช่น ทำอาหาร, ถ่ายภาพ, ตัดต่อวิดีโอ
-
ใช้ Zoom หรือแพลตฟอร์มเรียนออนไลน์
13) งานพิมพ์และออกแบบ
-
การ์ดเชิญ, นามบัตร, ป้ายร้าน
-
ทำเสร็จส่งไฟล์ให้ลูกค้า ไม่ต้องส่งของจริง
14) ขายรูปภาพสต็อก
-
เหมาะกับคนที่ชอบถ่ายรูป
-
ขายผ่าน Shutterstock, Adobe Stock
15) รับงานแปลและเขียนคอนเทนต์
-
หางานได้จาก Fastwork, Fiverr
-
รายได้ต่อชิ้นอาจมากกว่า 500–1,000 บาท
3. ทำอย่างไรให้ขายแล้วได้เงินวันละ 1,000 บาท
สำหรับแม่ค้ามือใหม่ การตั้งเป้า ขายอะไรให้ได้เงินวันละ 1000 ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน แต่อาจต้องผสมหลายวิธีเข้าด้วยกัน
-
เพิ่มช่องทางขาย – ไม่พึ่งแพลตฟอร์มเดียว เช่น ขายทั้ง TikTok, Shopee และ Facebook
-
ขยายสินค้าที่เกี่ยวข้อง – ถ้าขายขนม ให้เพิ่มรสชาติหรือไซซ์
-
ตั้งโปรโมชั่นดึงลูกค้าใหม่ – เช่น ส่งฟรี หรือซื้อ 2 แถม 1
-
เน้นซ้ำซื้อ – ทำคุณภาพให้ดี ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำจะทำให้ยอดนิ่ง
4. เทคนิคเอาตัวรอดในตลาดมือใหม่
-
อย่าซื้อสต็อกเยอะเกินไป ถ้ายังไม่มั่นใจยอดขาย
-
ศึกษาคู่แข่ง ทั้งราคาและการนำเสนอ
-
ฝึกถ่ายรูปสินค้า ให้ดูน่าสนใจ
-
ใช้รีวิวจริงจากลูกค้า เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ
ถาม–ตอบ: แม่ค้ามือใหม่ขายอะไรดี
Q: ถ้าทุนน้อยมาก ควรเริ่มขายอะไร?
A: เริ่มจากสินค้าที่ไม่ต้องสต็อกเยอะ เช่น อาหารทำตามออเดอร์, สินค้าพรีออร์เดอร์, หรือขายสินค้าดิจิทัล
Q: อยากขายของออนไลน์แต่ไม่มีความรู้ เริ่มอย่างไร?
A: ศึกษาจากยูทูบและเพจสอนขายของ ลองเริ่มจากการขายของใช้ส่วนตัวเพื่อฝึกขั้นตอน
Q: ทำอะไรขายดี เก็บได้นาน เหมาะกับมือใหม่?
A: ขนมขบเคี้ยว, อาหารแห้ง, สกินแคร์, ของใช้ในบ้าน เป็นสินค้าที่เก็บได้นานและไม่เสียง่าย
Q: ใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะขายได้วันละ 1,000 บาท?
A: ถ้าขายของที่ตลาดต้องการและโปรโมทต่อเนื่อง บางคนใช้เวลาเพียง 1–3 เดือนก็ถึงเป้า
Q: ต้องจดทะเบียนพาณิชย์ไหม?
A: ถ้าขายเล็ก ๆ ในช่วงแรกไม่จำเป็น แต่ถ้ารายได้มากและขายต่อเนื่อง ควรจดเพื่อความน่าเชื่อถือและถูกต้องตามกฎหมาย