ขายอะไรดีลงทุนไม่มากแต่สามารถสร้างรายได้และมีกำไรงาม ๆ หากคำถามนี้เป็นคำถามในใจคุณ วันนี้เรามีรายละเอียดและข้อมูลเกี่ยวกับการเปิดร้าน “ขายน้ำปั่น” มาเล่าต่อและแชร์ความคิดเห็น เพื่อให้เป็นไอเดียและเสริมข้อมูลสำหรับคุณซึ่งอาจจะกำลังมองธุรกิจที่น่าสนใจสำหรับลงทุน
ขายน้ำปั่น น่าลงทุนไหม
การขายน้ำผลไม้ปั่นเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่น่าสนใจในปัจจุบัน เนื่องจากความนิยมของเทรนด์และแนวคิดรักสุขภาพ ซึ่งสามารถเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้คนที่กำลังมองหาเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ ประกอบเข้ากับจุดเด่นของประเทศไทยที่เป็นเมืองผลไม้ มีพืช ผัก ผลไม้ให้ได้เก็บกินตลาดทั้งปี ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ธุรกิจขายน้ำปั่นหรือน้ำผลไม้ปั่นมีข้อดีและความน่าสนใจอย่างมาก ซึ่งในส่วนต่อจากนี้ เราได้เข้าไปรวบรวมความคิดเห็นของเหล่ากูรูสายธุรกิจที่ต่างลงความเห็นมองธุรกิจขายน้ำปั่นว่ามีความน่าสนใจ อย่างไรบ้างมาดูกัน
ดีต่อสุขภาพ
น้ำผลไม้ปั่นเป็นแหล่งของวิตามิน ใยอาหาร และสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย การดื่มน้ำผลไม้ปั่นช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยให้ร่างกายแข็งแรงและป้องกันการเจ็บป่วยได้ดี ทั้งนี้ด้วยสูตรน้ำปั่นที่มีอยู่มากมาย จะหยิบจับอะไรมาผสมกันก็ดูดี รสชาติเยี่ยมไปเสียหมด ดังนั้น จุดเด่นแรกของธุรกิจนี้ก็น่าจะนำไปเป็นจุดขายได้แบบสบาย ๆ
รสชาติอร่อย ดื่มง่าย
น้ำผลไม้ปั่นมีรสชาติสดชื่นและหวานอร่อย โดยเมื่อท่านเริ่มธุรกิจน้ำปั่นก็สามารถผสมผสานสูตรน้ำปั่นเด็ด ๆ ได้ทันที ไม่ว่าจะเป็นระหว่างผลไม้ต่าง ๆ ได้ตามความชอบหรือผสมผัก ทั้งหมดก็จะทำให้สามารถคุณเองสร้างสูตรน้ำผลไม้ปั่นที่หลากหลายและเพลิดเพลินได้ทุกครั้งที่ดื่ม
สร้างความสดชื่น
อากาศร้อน ๆ เมื่อได้ลองน้ำผลไม้ปั่นสักแก้วทุกอย่างก็จะเย็นขึ้นทันตา ทั้งนี้น้ำผลไม้ปั่นสามารถเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยบรรเทาความร้อนและสร้างความสดชื่นได้ทุกฤดู ไม่เพียงเฉพาะช่วงฤดูร้อน แต่สำหรับช่วงฤดูกาลอื่น ๆ กลางวันก็ร้อนพอ ๆ กัน ซึ่งการดื่มน้ำผลไม้ปั่นจะสามารถช่วยฟื้นฟูความสดชื่นและความรู้สึกสดชื่นให้กับร่างกายได้แน่นอน
คุณค่าทางธุรกิจ
คุณค่าทางธุรกิจหรือ Soft power แบบอ่อน ๆ ก็เป็นได้ สำหรับการนำผลไม้ซึ่งเป็นของวิเศษของไทย ผสมผสานมาเป็นธุรกิจน้ำผลไม้ปั่น เท่านี้ก็สามารถทำให้เมนูน้ำผลไม้ธรรมดา กลายเป็นน้ำผลไม้ปั่นสไตล์ สมู้ตตี้ได้ทันที หรือเป็นเครื่องดื่ม Booster เพิ่มความสดชื่นได้ โดยในส่วนนี้ น้ำผลไม้ปั่นจะมีความต้องการเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากความนิยมของผู้บริโภคที่มองหาเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพและดึงดูดชาวต่างชาติและนักท่องเที่ยวให้ต้องมาลอง ดังนั้น ธุรกิจขายน้ำปั่นจึงเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจได้ไม่ยาก
ขายน้ำปั่น ลงทุนเท่าไหร่
ในความเป็นจริงการเลือกเปิดร้านขายน้ำปั่น ทุกท่านสามารถเลือกต้นทุน ขนาดร้าน รูปแบบของร้านได้หลากหลาย ตั้งแต่ร้านขายน้ำปั่นในโรงเรียน ราคาเริ่มต้นลงทุนอาจจะอยู่ที่ 4,000 – 5,000 บาท หรืออาจจะเป็นร้านเต็มรูปแบบครบทุกเมนูทั้งน้ำผลไม้ปั่น ชา กาแฟ ซึ่งราคาเริ่มต้นสำหรับการลงทุนก็จะสูงตามอุปกรณ์และของตกแต่งร้าน โดยอาจจะไปได้ไกลถึง 80,000 – 100,000 บาทได้ง่าย ๆ โดยในส่วนนี้เรามีรายละเอียดและข้อมูลเกี่ยวกับการเริ่มต้นเปิดร้านขายน้ำปั่นมานำเสนอ โดยมีรายละเอียดและต้นทุนแรกเริ่ม ดังนี้
ร้านขายน้ำปั่นขนาดเล็ก
งบประมาณที่ทุกท่านควรมีสำหรับร้านขายน้ำปั่นไซส์เล็กนั้น อาจจะเริ่มต้นได้ที่ 4,000 – 5,000 บาท ซึ่งค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่สำหรับการลงทุนเปิดร้าน ก็คงหนีไม่พ้นราคาของเครื่องปั่น โดยสามารถเริ่มต้นเปิดร้านด้วยเครื่องปั่นเพียง 1 ตัว ซึ่งเราขอแนะนำว่าไม่ว่าท่านจะเลือกเปิดร้านขายน้ำปั่นรูปแบบใด แต่การเลือกพิจารณาเครื่องปั่นน้ำนั้น จะต้องเป็นเครื่องที่ดีและมีคุณภาพ และจะต้องแยกออกจากเครื่องปั่นที่ท่านมีและใช้ภายในครัวเรือน เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนและเพื่อการขายน้ำปั่นหรือน้ำผลไม้ปั่นที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งราคาจะอยู่ที่ประมาณ 1,200 บาทสำหรับเครื่องปั่น 2 ลิตร ด้วยกำลังปั่น 1,000 วัตต์
ทั้งนี้นอกจากประเด็นเครื่องปั่นแล้ว รายการอุปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวก อุปกรณ์เสริมการขายนั้น สำหรับร้านขายน้ำปั่นขนนาดเล็ก ก็ควรจะมีรายการดังต่อไปนี้
- ที่คั้นน้ำผลไม้ ราคาประมาณ 200 – 300 บาท
- มีด ราคา 100 บาท
- เขียงหั่นผลไม้ ราคา 100 บาท
- ชุดภาชนะสำหรับการตวงส่วนผสม ควรเป็นอุปกรณ์ที่ทำจากสแตนเลส ราคารวมประมาณ 1000 บาท
- ช้อนยาวสำหรับคนส่วนผสม ราคา 100 บาท
- ถังน้ำแข็งขนาด 10 – 15 ลิตร ราคาประมาณ 800 – 1,000 บาท
- แก้วพลาสติก แพ็คละ 120 บาท (50 ใบ)
- ฝาโดม แพ็คละ 50 บาท (50 ฝา)
- หลอด แพ็คละ 30 บาท (200 หลอด)
- วัตถุดิบ เช่น ผลไม้สด ผลไม้แช่แข็ง โยเกิร์ต ยาคู นมสด และอื่น ๆ ประมาณ 1,000 – 1,500 บาท
- รวมทั้งหมดประมาณ 3,000 – 3,500 บาท
ดังนั้นสำหรับการเปิดร้านขายน้ำปั่นขนาดเล็ก ทุกท่านจะสามารถเลือกพิจารณาต้นทุนแรกเริ่มที่ประมาณ 4,000 – 5,000 บาท โดยเป็นราคาที่รวมค่าเครื่องปั่นและวัสดุอุปกรณ์สำหรับการขายทั้งหมดแล้ว ซึ่งก็เป็นเงินจำนวนที่น่าสนใจและสามารถเริ่มธุรกิจได้ไม่ยากมากนัก ซึ่งหากท่านมีทำเลหรือมีสถานที่ซึ่งเอื้อต่อการทำธุรกิจ ใกล้แหล่งชุมชน การเลือกเปิดร้านขนาดเล็กที่เคลื่อนที่ได้สะดวกหรือเป็นร้านตั้งตามตลาดนัดนี้ก็น่าจะทำให้ประสบความสำเร็จได้ และสำหรับการเพิ่มเติมในส่วนของร้านขนาดเล็ก การมีโต๊ะพับ เก้าอี้ เต้นท์หรือร่มสนามก็อาจจะเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็น โดยท่านสามารถเลือกพิจารณาตามความเหมาะสมได้ โดยงบประมาณของต้นทุนก็จะเพิ่มขึ้นตามลำดับเช่นกัน
เปิดร้านขายน้ำปั่นขนาดใหญ่หรือเป็นคาเฟ่
ร้านสไตล์นี้หลาย ๆ แห่งจะเป็นการผสมผสานร้านน้ำผลไม้ปั่นเข้ากับร้านขายเครื่องดื่มชนิดอื่น ๆ ซึ่งในเมื่อท่านลงทุนสร้างร้านขนาดใหญ่ เมนูเครื่องดื่ม อาหารหรือสินค้าอื่น ๆ ก็ควรจะมีเพิ่มเติมมากขึ้น เพื่อให้สามารถใช้พื้นที่สำหรับการขายสินค้าให้คุ้มค่าสูงสุด โดยการดำเนินธุรกิจในรูปแบบนี้เงินทุนอาจจะพุ่งสูงไปถึงหลักหลายแสนหรือหลักล้านบาทได้ ทั้งนี้สำหรับท่านที่พอจะมีเงินทุนและต้องการลงทุนเปิดร้านขายน้ำปั่นขนาดใหญ่การเลือกพิจารณาร้านที่เป็นแฟรนไชส์ก็สามารถเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ ซึ่งในส่วนต่อจากนี้จะเป็นการนำเสนอรายละเอียดและข้อมูลของแฟรนไชส์น้ำผลไม้ปั่นที่น่าสนใจโดยจะมีรายละเอียดอย่างไรบ้าง ลองตามไปดูกันเลย
แฟรนไชส์ร้านน้ำปั่น น่าลงทุน 2023
1.แมงโก้ มาเนีย
แฟรนไชส์น้ำผลไม้ น้ำผลไม้ปั่น ซึ่งมีการประมาณเงินทุนสำหรับการเริ่มต้นลงทุนอยู่ที่ 1 – 1.5 ล้านบาท โดยเป็นการทำสัญญาอยู่ที่ 3 ปี โดยจะมีการเก็บค่าแฟรนไชส์ 2 รูปแบบสำคัญคือ ร้านในรูปแบบ Take Away อยู่ที่ 120,000 บาท และร้านสำหรับมีพื้นที่นั่งดื่มโดยจะมีค่าใช้จ่ายสำหรับค่าแฟรนไชส์ที่ 180,000 บาท โดยสิ่งที่ทุกท่านจะได้รับจากแฟรนไชส์แมงโก้ มาเนียนั้น จะประกอบไปด้วย
- สิทธิ์ในการใช้เครื่องหมายการค้า 3 ปี (ฟรี )อุปกรณ์หลักที่ใช้สำหรับทำเมนูทั้งหมด สามารถขายได้ทันที
- ฟรีวัตถุดิบชุดแรกพร้อมขาย 200 แก้ว (เป็นเงินประมาณ 15,000บาท)
- แฟรนไชส์จะมีหลักสูตรการจัดอบรมวิธีการเปิดร้าน ณ สถานที่จริง การบริหารจัดการร้านและการฝึกอบรมพนักงานจะถูกจัดขึ้นเพื่อให้พนักงานมีความพร้อมในการปฏิบัติงาน โดยการฝึกอบรมจะเน้นทั้งการขายและการบริการลูกค้า
- ระบบ POS แมงโก้มาเนีย ซึ่งได้นำระบบปฏิบัติการโดยใช้ระบบคอมพิวเตอร์เชื่อมโยงระหว่างสาขาและสำนักงานใหญ่ ทำให้ท่านสามารถบริหารธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- การให้ความช่วยเหลือในช่วงเปิดร้าน โดยทางบริษัทจะให้คำแนะนำช่วยเหลือตามความเหมาะสมเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานและแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น
- การจัดกิจกรรมทางการตลาด จะมีการโฆษณาประชาสัมพันธ์ รวมทั้งจัดให้มีกิจกรรมการส่งเสริมการขาย เพื่อเป็นการสร้างการจดจำให้กับผู้บริโภค
- คู่มือปฏิบัติงาน ที่บรรจุความรู้ในการดำเนินธุรกิจ เพื่อให้ท่านสามารถนำความรู้ไปใช้ในการบริหารจัดการร้านให้ได้ตามมาตรฐานที่กำหนด
โดยสำหรับท่านที่สนใจและต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมก็สามารถเข้าศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนได้ทันทีด้วยตัวท่านเอง ที่นี่ หรือสามารถโทรติดต่อเพื่อขอข้อมูลที่หมายเลข 081 – 6424240 หรือ 092 – 2769595
2.Fruiturday
อีกหนึ่งแฟรนไชส์ขายน้ำปั่นที่ทุกท่านสามารถเริ่มต้นลงทุนได้ตั้งแต่ 300,000 – 1,800,000 บาท โดยแฟรนไชส์น้ำผลไม้ปั่นรายการมาพร้อมกับความช่วยเหลือและการนำเสนอโอกาสทางธุรกิจที่เพียบพร้อมโดยมีทั้งน้ำผลไม้ น้ำผลไม้ปั่นและน้ำผลไม้บรรจุขวด ซึ่งสามารถจัดจำหน่ายได้โดยตามเป้านั้น จะสามารถคืนทุนได้ภายในระยะเวลาเพียง 6 – 12 เดือน โดยสำหรับท่านที่สนใจและต้องการลงทุนจะได้รับสิทธิ์เบื้องต้นดังนี้
- สิทธิ์ในการใช้เครื่องหมายการค้าของ Fruiturday
- หลักสูตรการฝึกอบรม การบริหารจัดการร้าน การคัดเลือกวัตถุดิบ การทำเมนูต่าง ๆ ที่สาขาหลัก
- บริการให้ความช่วยเหลือโดยทีมงานของบริษัท ซึ่งพร้อมเข้าช่วยเปิดร้านและแนะนำการบริหารจัดการหน้าร้านในช่วง 3 – 7 วันแรก
- บริการโปรแกรมและซอฟแวร์เก็บเงินเต็มรูปแบบ
- ข้อมูลและรายละเอียดซึ่งเป็นเอกสารสำหรับการให้ความช่วยเหลือจัดการร้าน
โดยหากท่านสนใจก็สามารถเข้าดูรายละเอียดเกี่ยวกับแฟรนไชส์น้ำปั่นนี้ได้ ที่นี่ หรือติดต่อ ฟรุตเทอร์เดย์ 100 หมู่ 5 ต.สันนาเม็ง อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ 50210 โทร. 062 – 6655989
บทส่งท้าย
สำหรับการลงทุนทำธุรกิจเปิดร้านขายน้ำปั่นนั้น ไม่ว่าท่านจะเลือกพิจารณาร้านขนาดเล็ก หรือร้านขนาดใหญ่ซึ่งอาจจะเป็นแฟรนไชส์ก็ตาม ความสดใหม่และรสชาติที่ดี จะเป็นปัจจัยสำคัญสูงสุดที่จะทำให้ร้านของท่านมีลูกค้าและสามารถอยู่รอดได้ในตลาดนี้ เพราะหลายครั้งที่เราเจอร้านที่ตกแต่งดูดี ร้านน่ารัก แต่รสชาติของเครื่องดื่มนั้นไม่ได้ ก็ไม่ต่างอะไรจากการพบเจอคนหล่อคนสวยที่ดูดีแต่ภายนอก โดยเนื้อแท้นั้นอาจจะเป็นคนนิสัยแย่ก็เป็นได้ ดังนั้น เมื่อจะทำธุรกิจใด ๆ ก็ตาม คุณภาพและการคงมาตรฐานของสินค้าจะเป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้ท่านประสบความสำเร็จได้
