ช่วงนี้ของปีทีไร เห็นบิลเรียกเก็บค่าไฟแล้วจะเป็นลม เชื่อได้เลยว่าเมื่อได้รับใบแจ้งค่าบริการไฟฟ้าไม่ว่าจะเป็นการไฟฟ้านครหลวงหรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ลายคนคงเริ่มที่จะหาวิธีหรือทางเลือกอื่น ๆ สำหรับการชำระค่าไฟฟ้า ทดแทนการใช้เงินสดกันบ้างแล้ว เพราะด้วยค่าไฟฟ้าและค่า FT รวมค่าธณรมเนียมการจด รวม ๆ แล้วสำหรับบางครอบครัวอาจจะต้องงดไปกินข้าวนอกบ้าน 2 – 3 มื้อ เพื่อนำเงินมาจ่ายค่าไฟกัน
ดังนั้นในครั้งนี้เพื่อเป็นการนำเสนอรายละเอียดและข้อมูลเกี่ยวกับการชำระเงินค่าไฟฟ้าทางเลือกวิธีต่างๆ ซึ่งจะเปิดโอกาสให้คุณสามารถจ่ายผ่านแอพ ใช้บัตรเครดิต จ่ายผ่าน E – Wallet ยืมเงินจากแอพมาจ่ายก่อนได้ โดยอย่าได้เสียเวลาเรามาดูกันเลยว่าทำอย่างไรได้บ้าง
ค่าไฟฟ้า คำนวณอย่างไร
เท้าความกันสักเล็กน้อยสำหรับคนที่ยังไม่ทราบรายละเอียดหรือวิธีการคำนวณอัตราค่าไฟฟ้าในปัจจุบัน ซึ่งมีการรวมเอาค่าดำเนินการและค่าใช้จ่ายในส่วนต่าง ๆ ที่ต้องมีการเรียกเก็บเข้ามารวม ก่อนจะแจ้งออกมาในใบแจ้งค่าบริการ ซึ่งในบางเดือนนั้น ก็แทบจะเป็นลมเพราะค่าไฟฟ้านั้นแพงเอาเรื่องเลยทีเดียว ดังนั้นก่อนที่เราจะพาไปดูวิธีการจ่ายค่าไฟแบบต่าง ๆ เราควรมาทำความเข้าใจกับวิธีการคำนวณอัตราค่าไฟฟ้ากันเสียก่อน ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้
ค่าไฟฟ้าที่เราต่างต้องเตรียมเพื่อชำระเป็นรายเดือนนั้น เป็นการคิดคำนวณมาจากผลรวมของ ค่าไฟฟ้าพื้นฐาน + ค่า FT + ภาษีมูลค่าเพิ่ม + ค่าบริการ โดยค่าไฟฟ้าพื้นฐานนั้นสำหรับทุกครัวเรือน จะเป็นการใช้ไฟฟ้าที่มีการจัดหมวดหมู่ค่าไฟฟ้าพื้นฐานอยู่ในกลุ่มประเภทที่ คือ บ้านที่อยู่อาศัย และรวมเข้ากับค่า FT หรือ “Float Time” หรือค่าไฟฟ้าผันแปร และรวมกับค่าบริการอื่น ๆ ดังนั้นจึงออกมาเป็นจำนวนรวมของค่าไฟฟ้าในแต่ละเดือน ยกตัวอย่างเข่น
- ค่าไฟฟ้าพื้นฐาน จำนวนที่ใช้ 702 หน่วย สรุปเป็น 2,878.08 บาท โดยการไฟฟ้าจะมีตารางสรุปอัตราค่าไฟฟ้าต่อหน่วย ซึ่งสามารถเข้าดูรายละเอียดได้ ที่นี่ สำหรับการำฟฟ้านครหลวงและ ที่นี่ สำหรับ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค)
- ค่า FT ที่ 0.9119 สรุปเป็น 640.15 บาท
- ค่าบริการรายเดือน 62 บาท
- ภาษีมลค่าเพิ่ม ที่ 7% เป็นจำนวน 248.00 บาท
- รวมค่าไฟฟ้าเป็น 3,790.85 บาท
และเมื่อทุกคนได้รับรายละเอียดและข้อมูลเกี่ยวกับการคิดคำนวณค่าไฟฟ้าเบื้องต้นไปบ้างแล้ว ในส่วนต่อจากนี้ก็จะเป็นการนำเสนอรายละเอียดของวิธีการชำระเงินค่าไฟฟ้า ซึ่งในปัจจุบันนั้นมีทางเลือกมากมายให้เลือกพิจารณา โดยเราหยิบยกมานำเสนอ ดังนี้
ชำระค่าไฟฟ้าออนไลน์ ที่ไหนได้บ้าง
นอกการเข้าไปติดต่อจุดให้บริการ MEA หรือ PEA Front Office ของการไฟฟ้า หรือการเดินทางเข้าไปติดต่อเพื่อชำระเงินค่าไฟฟ้าที่ธนาคารแล้ว เพื่อเป็นการอำนวยควาสะดวกและรวดเร็วให้กับพี่น้องประชาชน ณ เวลานี้การไฟฟ้านครหลวงและการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคนั้นได้ดำเนินการพัฒนาแอพพลิเคชั่น MEA Smart Life และ PEA Smart Plus ซึ่งสามารถใช้เป็นช่องทางหลักในการดำเนินการชำระเงินค่าไฟฟ้า การแจ้งความผิดปติหรือข้อขัดข้องต่าง ๆ ซึ่งอาจจะเกิดขึ้น โดยสำหรับการชำระเงินค่าไฟฟ้าออนไลน์ผ่านแอพนี้ ทุกคนจะสามารถดำเนินการได้ทันทีผ่านทางเลือกในการหักจ่ายเงิน ซึ่งประกอบไปด้วย
- การ Scan QR Code
- การจ่ายผ่านบัญชีธนาคารออนไลน์
- การจ่ายผ่านบัตรเครดิต
- True Money Wallet
โดยบทความของเราในครั้งจะเน้นไปที่ วิธีการจ่ายค่าด้วยบัตรเครดิตเป็นสำคัญ ซึ่งทุกท่านจะสามารถดำเนินการจ่ายค่าไฟด้วยบัตรเครดิตได้ ตามวิธีการดังต่อไปนี้ มาดูกัน
ผ่านแอพ MEA และ PEA Smart Life
เข้าใช้งานแอพ MEA Smart Life หรือ PEA Smart Plus และหลังจากนั้นให้กดชำระเงินค่าไฟฟ้าด้วยบัตรเครดิต ซึ่งระบบ easybill จะนำท่านเข้าสู่กระบวนการชำระเงิน โดยให้ท่านกรอกหมายเลขบัตรเครดิต 16 หลัก พร้อมด้วย ชื่อ – นามสกุลบนบัตร ตามด้วยวัน/ เดือน/ ปี หมดอายุของบัตร และท้ายที่สุดคือการกรอกรหัสหลังบัตร 3 ตัวเลขตามด้วยหมายเลขโทรศัพท์ที่ได้ดำเนินการลงทะเบียนไว้กับธนาคารเพื่อนำส่งรหัส OTP หลังจากนั้นก็นำรหัส OTP มากรอก เพียงเท่านี้ก็เป็นอันเสร็จสิ้นการชำระเงินค่าไฟฟ้าด้วยบัตรเครดิตผ่านแอพ MEA Smart Life หรือ PEA Smart Plus
หักบัญชีบัตรเครดิต
สำหรับท่านที่ต้องการชำระค่าไฟฟ้าด้วยบัตรเครดิต นอกจากการจ่ายผ่านแอพแล้ว การทำเรื่องให้มีการหักจ่ายโดยอัตโนมัติผ่านบัญชีบัตรเครดิตก็เป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย ทั้งนี้ในปัจจุบันไม่ใช่ทุกธนาคารที่ท่านจะสามารถดำเนินการหักจ่ายผ่านบัญชีบัตรเครดิตได้ โดยจะสามารถทำเรื่องหักจ่ายได้เฉพาะท่านที่ถือบัตรของธนาคาร ดังนี้
- บัตรเครดิตธนาคารยูโอบี
- บัตรธนาคารกรุงเทพ
- บัตรธนาคารกสิกรไทย
- บัตรเครดิต KTC
- บัตร Central Credit Card
- Citibank
- บัตรเครดิตธนาคารกรุงศรี
บัตรเครดิตจ่ายค่าไฟที่น่าสนใจ
พอเราได้รับรายละเอียดและข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการ พร้อมด้วยช่องทางการรับชำระค่าไฟฟ้าด้วยบัตรเครดิตกันไปแล้ว ในส่วนนี้จะเป็นการนำเสนอบัตรเครดิตแนะนำที่เหมาะสมและดีต่อการนำไปชำระค่าไฟฟ้ากัน โดย ณ เวลานี้มีอยู่ใบด้วยกันซึ่งทุกท่านสามารถเข้าดำเนินการศึกษาและเก็บข้อมูลได้ ดังนี้
บัตร UOB TMRW
บัตรเครดิตน่าสนใจและเหมาะมาก ๆ สำหรับการชำระค่าไฟฟ้าด้วยบัตรเครดิต โดยบัตรจากธนาคารยูโอบีใบนี้สามารถช่วยคุณได้รับ Cashback ถึง 3% ใน 3 หมวดการใช้จ่ายที่เลือกเองได้และ 1% สพกรับทุกการใช้จ่ายในหมวดอื่น ๆ ทั้งนี้ความพิเศษของบัตรเครดิต TMRW จะอยู่ที่การแบ่งชำระเพื่อผ่อนจ่ายได้แบบสบาย ๆ ทั้ง 3, 6 และ 10 เดือน ดังนั้นหากค่าไฟฟ้าช่วงนี้พุ่งสูงสุด ๆ ก็สามารถแบ่งจ่ายได้เบา ๆ รอเดือนหน้าประหยัดหรือลูก ๆ ไปโรงเรียนหมดแล้วค่าไฟฟ้าก็จะลดลง สำหรับท่านที่สนใจและต้องการข้อมูลเพิ่มเติมก็สามารถตามไปดูได้ ที่นี่ บัตรเครดิต TMRW
ข้อดี
- ผ่อนจ่ายได้ 0% สำหรับร้านค้าและรายการที่ร่วมการชำระ เพียงมียอด 5,000 บาทขึ้นไป
- มีโอกาสได้เครดิตเงินคืนสูงสุดถึง 3%
ข้อเสีย
- การชำระค่าสาธารณูปโภคไม่ได้เข้าร่วมรายการเครดิตเงินคืน
- กำหนดเกณฑ์รายได้ขั้นต่ำสำหรับผู้สมัครไว้สูง ที่ไม่ต่ำกว่า 15,000 บาทต่อเดือน
บัตร Lotus Platinum Reward
อีกหนึ่งบัตรเครดิตที่ร่วมรายการจากธนาคารกรุงศรีอยูธยา ไม่เพียงแต่เป็นบัตรเครดิตที่ใช้งานง่ายและหลากหลาย ทั้งเติมน้ำมัน ซื้อสินค้าจากโลตัส แต่ยังสามารถนำมาใช้เพื่อการชำระค่าไฟฟ้าด้วยบัตรเครดิตได้อีกด้วย ทั้งนี้ ด้วยการกำหนดเงื่อนไขการสมัครเริ่มต้น ขอเพียงท่านมีรายได้ต่อเดือน 15,000 บาท เท่านี้ก็เป็นผู้ถือบัตรได้ทันที ยิ่งไปกว่านั้นยังมีโอกาสได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติมอีกหลายข้อ เช่น
- สิทธิผ่อนประกันภัยที่โลตัส มันนี่ พลัส 0% นาน 10 เดือน
- ผ่อนสินค้าที่โลตัสได้ 0% นาน 10 เดือน โดยเฉพาะกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า
- เติมน้ำมันที่เอสโซ่รับเครดิตเงินคืน 3%
- ใช้จ่ายได้หลากหลายทั้งซื้อสินค้า ช้อปที่โลตัสหรือจ่ายบิลค่าสาธารณูปโภคก็สามารถผ่อนชำระได้สบาย ๆ
ดังนั้นหากท่านสนใจและต้องการสมัครบัตรเครดิตใบนี้ ก็สามารถเข้าติดต่อและสมัครได้ทันทีที่โลตัสทุกสาขาใกล้บ้านท่าน หรือต้องการเข้าศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่
ข้อดี
- สามารถใช้งานได้หลากหลายไม่เพียงเฉพาะชำระค่าไฟฟ้า
- ได้รับสิทธิประโยชน์มากมาย โดยเฉพาะสำหรับท่านที่เป็นลูกค้าประจำของโลตัสและปั๊มน้ำมันเอสโซ่
ข้อเสีย
- แม้จะเป็นบัตรเครดิตร่วมรายการระหว่างโลตัสกับธนาคารกรุงศรี แต่ก็ยังใช้เกณฑ์การพิจารณาเดียวกับกับบัตรเครดิตอื่น ๆ ซึ่งผู้สมัครจะต้องมีรายได้ต่อเดือนไม่ต่ำกว่า 15,000 บาท และควรมีรายได้ประจำ
บัตร XU Digital
บัตรเอ็กซ์ยู บัตรเครดิต ดิจิทัล เปิดประสบการณ์ใหม่ในการใช้จ่ายด้วยบัตรเครดิตรูปแบบใหม่ ซึ่งจะช่วยให้คุณได้รับสิทธิประโยชน์มากมาย ใช้ชีวิตได้อย่างจัดเต็ม ทั้งนี้บัตรเครดิตใบนี้มาพร้อมกับจุดเด่นที่น่าสนใจ คือ ไม่มีการเก็บค่าธรรมเนียมแรกเข้าและรายปี สามารถใช้จ่ายบนโลกออนไลน์ได้อย่างปลอดภัยด้วยระบบ Payment Gateway คุ้มครองสูงสุดที่ 20,000 บาท และสำหรับคนที่กำลังหาบัตรเครดิตสักใบเพื่อการใช้จ่ายบิลรายเดือน ไม่ว่าจะเป็นค่าไฟฟ้า ค่าน้ำประปา ค่าโทรศัพท์และค่าอินเตอร์เน็ต บัตรใบนี้สามารถเป็นทางออกให้ท่านได้สบาย ๆ สมัครได้ทันทีผ่านแอพ UCHOOSE หรือที่ศูนย์ให้บริการของกรงศรีเฟิร์สช้อยส์
ข้อดี
- เป็นบัตรเครดิตที่สามารถใช้งานได้หลากหลาย ด้วยสิทธิประโยชน์และโปรโมชั่นมากมาย อัปเดตเป็นรายเดือน เหมาะมาก ๆ สำหรับคนรุ่นใหม่และทุกท่านที่ชอบการใช้จ่ายออนไลน์
- สมัครง่าย รู้ผลการพิจารณาอย่างรวดเร็ว
ข้อเสีย
- หากท่านเป็นผู้ที่มีบัตรเครดิตกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์อยู่แล้ว จะไม่สามารถสมัครบัตรเครดิต XU ได้ เพราะเป็นวงเงินเดียวกัน
บริการ SCB EASY BILL
เน้นใช้จ่ายค่าสาธารณูปโภค ไม่ว่าจะเป็นการชำระค่าบริการอัตโนมัติหรือชำระค่าไฟฟ้าด้วยบัตรเครดิตก็สามารถทำได้ทันทีโดยไม่มีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียม ทั้งนี้สำหรับการเข้าร่วมบริการนั้น ท่านจะต้องใช้เพื่อชำระค่าไฟฟ้าของการไฟฟ้านครหลวง ซึ่งจะจำกัดยอดสูงสุดไว้ที่ไม่เกิน 30,000 บาท ต่อรอบบิลเท่านั้น โดยท่านสามารถสมัครเข้ารับการให้บริการได้เพียงโทร 02 – 777 – 7777 ติดต่อที่ SCB Call Center เพื่อดำเนินการผูกบัญชีหักบัตรเครดิต หรืออาจจะเข้าติดต่อเจ้าหน้าที่ธนาคารได้ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ทุกสาขา โดยท่านจะต้องเป็นผู้ถือบัตรเครดิตของ SCB เสียก่อน ซึ่งทางธนาคารนั้นก็มีรายการบัตรเครดิตที่น่าสนใจมากมาย ที่นี่
ข้อดี
- บริการนี้เป็นบริการที่สามารถอำนวยความสะดวกให้ทุกท่านที่เป็นผู้ถือบัตร SCB และ CardX ให้สามารถชำระค่าไฟฟ้าได้โดยอัตโนมัติ ด้วยวิธีการหักผ่านบัญชี
ข้อเสีย
- แม้จะเป็นการให้บริการที่หลากหลายรูปแบบ หลายผลิตภัณฑ์ แต่บัตรส่วนใหญ่จะเป็นบัตรเครดิตที่เน้นการช้อป การท่องเที่ยวมากกว่าการใช้เป็นบัตรเครดิตเพื่อชำระค่าสาธารณูปโภค
บทส่งท้ายสำหรับการชำระค่าไฟฟ้าด้วยบัตรเครดิต
การชำระค่าไฟฟ้าด้วยบัตรเครดิตนั้น จะมีความสะดวกรวดเร็วที่สุดหากท่านดำเนินการชำระผ่านแอพของการไฟฟ้า คือ MEA และ PEA ซึ่งสามารถทำรายการได้เพียงกรอกรายละเอียดและข้อมูล พร้อมกับรหัส OTP ซึ่งจะมีการจัดส่งไปยังหมายเลขโทรศัพท์ที่ลงทะเบียนไว้ และสำหรับการชำระค่าไฟฟ้าด้วยบัตรเครดิตที่จุดให้บริการของการไฟฟ้า เคาน์เตอร์เซอร์วิสและที่ 7 – Eleven นั้น ณ เวลานี้ ยังไม่สามารถดำเนินการได้ ดังนั้นหากท่านต้องการจ่ายค่าไฟผ่านบัตรเครดิต ก็ควรจะศึกษาวิธีการและทดลองเข้าดำเนินการดูตามแนวทางที่เรานำเสนอไป
