การซื้อรถ ณ เวลานี้คงจะเป็นเป้าหมายและความใฝ่ฝันของหลาย ๆ ท่าน แต่ด้วยสถานการณ์และสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน จึงส่งผลให้การซื้อรถส่วนใหญ่จะต้องพึ่งพาสินเชื่อรถยนต์จากสถาบันการเงินและธนาคารไม่ว่าจะเป็นรถมือ 1 หรือแม้กระทั่งรถมือ 2 และเมื่อเกิดปัญหาในการจัดการค่าใช้จ่าย เริ่มผ่อนรถไม่ไหว คำถามสำคัญที่จะเกิดขึ้นแน่ ๆ ก็คือ “ผ่อนรถไม่ไหว ทำไง” วันนี้ด้วยรายละเอียดและข้อมูลของเรา ทุกท่านจะสามารถทราบแนวทางและวิธีการแก้ไขปัญหานี้ เพื่อให้มีรถขับและไม่เสียเครดิตต่อไปได้
ผ่อนรถไม่ไหว สินเชื่อรถ 2565
เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดสำหรับเรา ๆ นั้น เป็นสิ่งที่ยากต่อการคาดเดา วันนี้อาจจะยังมีงานทำ แต่เข้าวันรุ่งขึ้น งานที่ทำก็อาจจะกลายเป็นงานที่ “เคย” ทำ ส่งผลต่อเนื่องให้รายได้อาจจะเริ่มไม่เพียงพอต่อการใช้จ่าย และหนึ่งในประเด็นหลักสำคัญที่ทำให้เราต้องมาถกกันในครั้งนี้คือ ผ่อนรถไม่ไหว ทำยังไงดี ทั้งนี้สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาการผ่อนรถไม่ไหวนั้น จากรายละเอียดและข้อมูลของเจ้าหน้าที่ให้คำปรึกษาทางด้านการเงินของธนาคารหลายแห่งต่างพร้อมใจกันนำเสนอทางออก ซึ่งมีมากมายหลากหลายวิธีการ ซึ่งมีทั้งการยกให้คนอื่นผ่อนแทน การเปลี่ยนแปลงสัญญา การพักชำระหนี้และรวมไปถึงการมองหาสินเชื่อรีไฟแนนซ์รถ ย้ายไปรับสินเชื่ออื่นที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า โดยทั้งหมดนั้นทุกท่านสามารถติดตามและศึกษาได้จากรายละเอียดที่เราจะนำเสนอดังต่อไปนี้
ผ่อนรถไม่ไหว ทำไง วิธีแก้ไข
สำหรับท่านที่กำลังประสบปัญหาหมุนเงินไม่ทัน หรือส่อแววว่าจะผ่อนรถไม่ไหว ต้องมาดูรายละเอียดและวิธีดังต่อไปนี้ ซึ่งทั้งหมดนั้นจะสามารถเป็นทางออกสำหรับท่านให้สามารถรักษาเครดิตและอาจจะยังรักษาสถานะการผ่อนชำระหนี้ต่อไปได้ โดยในส่วนต่อจากนี้จะเป็นข้อมูลและแนวทางการแก้ไขปัญหาการผ่อนรถไม่ไหว ซึ่งมีดังนี้
1.ปรับโครงสร้างหนี้
ทั้งนี้เมื่อท่านทราบแน่ชัดแล้วว่า ตัวท่านเองนั้นจะประสบปัญหาการผ่อนชำระหนี้รถหรือสินเชื่อรถ แต่ท่านเองยังคงมีความต้องการที่จะดำเนินการผ่อนชำระต่อไปและยังอยากจะใช้รถคันเดิมอยู่ สิ่งที่จะสามารถดำเนินการได้ทันทีก็คือ การติดต่อเจ้าหน้าที่สถาบันการเงินหรือธนาคารเจ้าของสินเชื่อเพื่อปรับโครงสร้างหนี้ โดยจะเป็นวิธีการที่จะสามารถช่วยให้ท่านได้รับข้อเสนอใหม่ที่อาจจะมีความเหมาะสมกับสภาวะทางการเงินในปัจจุบันมากกว่า ซึ่งสามารถเป็นไปได้ทั้ง การปรับลดค่างวด ยืดเระยะเวลาการผ่อนชำระออกไป หรืออาจจะเป็นการนำเสนอการผ่อนชำระแบบขั้นบันได โดยวิธีการดังกล่าวนั้นจะสามารถช่วยให้ท่านรักษาสถานะทางเครดิต ความน่าเชื่อถือและที่สำคัญคือ ท่านอาจจะยังสามารถผ่อนชำระหนี้รถต่อไปได้นั่นเอง
2.รีไฟแนนซ์
นอกจากการดำเนินการขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์บ้านหรือที่อยู่อาศัยเพื่อรับเงินก้อน ซึ่งจะเป็นส่วนต่างและการผ่อนชำระค่างวดที่ลดลงแล้วนั้น รายการสินเชื่อรีไฟแนนซ์รถก็สามารถเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยสำหรับการแก้ไขปัญหาและเอาตัวรอดจากสถานการณ์การผ่อนรถไม่ไหว ซึ่งในส่วนนี้ การรีไฟแนนซ์รถส่วนใหญ่นั้น ทุกท่านจะสามารถดำเนินการได้ทันที 2 ทางเลือกคือ
- รีไฟแนนซ์กับธนาคารเดิม ทั้งนี้สำหรับท่านที่ดำเนินการขอสินเชื่อรถกับธนาคารใดก็ตาม ท่านก็สามารถยื่นขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์ได้จากสถาบันการเงินเดิม โดยสินเชื่อรีไฟแนนซ์นั้นอาจจะมีเงื่อนไขหรืออัตราดอกเบี้ยที่ถูกลง ซึ่งจะต้องประเมินจากราคารถยนต์ของท่านประกอบกับการผ่อนชำระเงินต้นไปแล้วนั่นเอง
- รีไฟแนนซ์ด้วยการย้ายธนาคารหรือสถาบันการเงินใหม่ โดยช่องทางนี้จะเป็นการปรับเงื่อนไขของสัญญาสินเชื่อที่อาจจะตรงกับความต้องการของท่านได้มากขึ้น โดยข้อดีสำหรับการรีไฟแนนซ์ลักษณะนี้จะมาในรูปแบบของการปรับอัตราดอกเบี้ย เพิ่มเติมด้วยเงื่อนไขพิเศษซึ่งท่านจะได้รับจากการเป็นลูกค้าใหม่ ซึ่งผลที่ได้นั้นอาจจะส่งผลให้ท่านผ่อนชำระเงินค่างวดที่ลดลงและได้รับระยะเวลาการผ่อนชำระที่นานขึ้น แต่อย่างไรก็ตามวิธีการนี้ ท่านเองอาจจะต้องพิจารณาเปรียบเทียบกับค่าปรับหรือค่าธรรมเนียมที่อาจจะเกิดขึ้นจากการไถ่ถอนก่อนกำหนดด้วยอีกหนึ่งประเด็น
3.การเปลี่ยนโอนสิทธิ์ผู้เช่าซื้อ
วิธีการสุดท้าย คือ การเปลี่ยนโอนสิทธิ์ผู้เช่าซื้อ ซึ่งจะเป็นการดำเนินการเปลี่ยนสัญญาซื้อรถหรือพูดง่าย ๆ ก็คือการเปลี่ยนคนผ่อนชำระ ทั้งนี้หากท่านผ่อนรถไม่ไหวและไม่ต้องจะเก็บรถคันนี้ไว้แล้ว ท่านก็สามารถดำเนินติดต่อและร้องขอต่อธนาคารหรือสถาบันการเงินเพื่อเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขของสัญญาและเปลี่ยนชื่อซึ่งทั้งหมดนั้นจะต้องเป็นการโอนชื่อไปเป็นชื่อของผู้เช่าซื้อรายใหม่ โดยผู้เช่าซื้อรายใหม่นั้นจะต้องดำเนินการผ่อนชำระเงินค่างวดต่อจากท่านและในท้ายที่สุดผู้เช่าซื้อรายใหม่นั้นก็จะเป็นเจ้าของรถคันนั้นนั่นเอง
สุดท้ายนี้ สำหรับท่านที่ผ่อนรถไม่ไหว การพิจารณาและมองหาแนวทางการแก้ไขปัญหาด้วย 3 วิธีการที่เราได้นำเสนอไปแล้วนั้น จะสามารถช่วยให้ทุกท่านรักษาเครดิตและความน่าเชื่อถือต่อไปได้ เนื่องจากในปัจจุบันนั้น ข้อมูลและสถานะทางเครดิตเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมาก ดังนั้นหากรู้ตัวและแน่ใจว่าผ่อนรถไม่ไหว ยังไงก็ควรจะปล่อยไปจะดีว่าที่จะแบกภาระแล้วเสียเครดิตนั่นเอง