
เป็นความรู้สำหรับน้อง ๆ ที่พึ่งจบใหม่หรือคนที่กำลังเริ่มมองหางาน โดยสิ่งแรกที่จะเป็นเครื่องวัดความรับผิดชอบและความตั้งใจของคุณสำหรับการทำงานก็คือ การเตรียมเอกสารสมัครงานครับ
เพราะหลายบริษัทจะเริ่มพิจารณาคัดเลือกพนักงานและรับคนเข้ามทำงานจากการพิจารณาความพร้อมในการเตรียมเอกสารสมัครงาน เช่นเดียวกันกับการสมัครพาร์ทไทม์ ที่แม้จะเป็นงานพาร์ทไทม์ แต่การเตรียมเอกสารสมัครงานพาร์ทไทม์ก็ต้องมีความเรียบร้อยและความพร้อมไม่แพ้กันครับ
โดยในวันนี้ เราจะมาพูดคุยกันครับว่า การเตรียมเอกสารสมัครงานในปัจจุบัน 2565 นั้น เราจะต้องเตรียมเอกสารสมัครงานอย่างไรบ้าง โดยจะยกตัวอย่างเอกสารสมัครงาน อ้างอิงจากบริษัทและนายจ้างที่น่าเชื่อถือ โดยมีรายละเอียดและรายการตัวอย่างเอกสารสมัครงานดังนี้ครับ
ลิงก์ผู้สนับสนุน
รูปถ่าย
เอกสารสมัครงานชิ้นแรกที่เหมือนจะเตรียมง่าย แต่ไม่ง่ายนะครับ เพราะคุณจะต้องเตรียมรูปถ่ายที่เป็นปัจจุบันที่สุด และจะต้องเป็นรูปถ่ายในชุดสุภาพ หน้าตรงเท่านั้นครับ ไม่ใช้รูปถ่ายที่ไม่เป็นทางการ เช่น ภาพโปรไฟล์หรือภาพถ่ายจาก Facebook และที่ห้ามเด็ดขาดสำหรับรูปถ่ายสำหรับเอกสารสมัครงานคือ ภาพด้วยท่าทางที่ไม่สุภาพ หรือชุดที่ไม่เหมาะสม
เพราะคิดว่าจะทำคะแนนจากนายจ้าง ห้ามเด็ดขาดครับ เพราะฝ่ายบุคคลจะคัดใบสมัครของคุณออกทันที อีกประการที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ ขนาดของรูปถ่ายครับ คุณจะต้องเตรียมรูปถ่ายหน้าตรงของคุณ ไว้อย่างน้อย 2 ขนาดมาตรฐานคือ 1 นิ้วและ 2 นิ้ว และถ้าเป็นกรณีเตรียมเอกสารสมัครงานกับบริษัทต่างชาติ ก็ต้องตรวจสอบข้อกำหนดเรื่องขนาดรูปถ่ายอีกครั้งครับ เพราะบางบริษัทอาจใช้รูปถ่ายสำหรับเอกสารสมัครงานขนาดอื่น ซึ่งคุณต้องถ่ายใหม่ครับ
เรซูเม่ (Resume)
Resume เป็นเอกสารสมัครงานชิ้นที่มีความสำคัญสูงสุดเลยก็ว่าได้ครับ ไม่ว่าจะเป็นเอกสารสมัครงานพาร์ทไทม์ หรืองานประจำ เพราะตัวอย่างเอกสารสมัครงานนี้จะเป็นเอกสารที่จะบอกเล่าข้อมูลพื้นฐาน ความเป็นตัวตนและความสามารถของคุณอย่างย่อได้ดีที่สุด
ซึ่งส่วนใหญ่เอกสารสมัครงานชิ้นนี้แหละครับ ที่จะเข้าไปลึกที่สุด ซึ่งอาจจะเข้าไปถึงหัวหน้าหรือบุคคลที่มีอำนาจพิจารณารับคุณเข้าทำงาน แตกต่างจากเอกสารสมัครงานอื่น ๆ ซึ่งมีลักษณะทั่วไปที่จะพิจารณาและตรวจสอบโดยฝ่ายบุคคล ดังนั้นคุณต้องฝึกเขียน Resume ให้ดีให้ดูโปรเข้าไว้ครับ และต้องมีเอกสารสมัครงานชิ้นนี้ทุกครั้งที่ยื่นสมัครงาน เพื่อโอกาสในการได้งานของคุณครับ

สำเนาใบรับรองผลการศึกษา (Transcript)
แม้ว่าข้อมูลเรื่องประวัติการศึกษาของคุณจะปรากฏใน Resume แล้ว แต่รายละเอียดของวิชาเอก วิชาโท และรายวิชาอื่น ๆ นั้นนายจ้างจะต้องพิจารณาจาก transcript ครับ โดยเอกสารสมัครงานชิ้นนี้สามารถบอกเล่าได้ถึงองค์ความรู้ที่คุณได้รับการเรียนการสอนมา และยังบอกถึงผลการเรียน ซึ่งแม้จะเป็นเพียงตัวเลข แต่ก็สามารถบ่งบอกได้ถึงความเพียรพยายามของคุณ อีกทั้งในใบ Transcript ยังมีรายละเอียดของกิจกรรมที่คุณทำ เพราะแม้คุณจะเกรดเฉลี่ยไม่สูง แต่คุณเป็นนักกิจกรรม นายจ้างก็อาจจะพิจารณารับคุณครับ
หนังสือรับรองการทำงาน/ หนังสือรับรองใบผ่านงาน/ หนังสือรับรองการฝึกอบรม/ เกียรติบัตรการอบรมหลักสูตรต่าง ๆ
ประสบการณ์เป็นสิ่งหนึ่งครับ ที่ไม่สามารถสอนกันได้เวลาทำงาน เพราะประสบการณ์และทักษะจะนำมาซึ่งผลของงานที่มีความแตกต่างจากผลงานที่ได้จากคนที่ขาดประสบการณ์ ดังนั้นเอกสารสมัครงานที่มีข้อมูลของการผ่านงานและการฝึกอบรมต่าง ๆ จึงจะเป็นเครื่องยืนยันถึงความสามารถและประสบการณ์ของคุณ ซึ่งย่อมมีผลต่อการพิจารณารับคุณเข้าทำงานแน่นอนครับ เพราะเหล่าบริษัทและนายจ้างย่อมชอบและพอใจกับคนทำงานที่จะสามารถสร้าง “Impact at Day 1” มากกว่าคนที่ต้องมาฝึกและสอนงานครับ
ผลคะแนนหรือผลสอบภาษาอังกฤษ
ปัจจุบันนี้หลายบริษัทได้ให้ความสำคัญกับความสามารถทางภาษาครับ ไม่เพียงแต่ภาษาอังกฤษ แต่ภาษาต่างประเทศอื่น ๆ ก็เช่นกันครับ ซึ่งเอกสารสมัครงานด้านภาษานี้อาจจะเป็นสิ่งที่สามารถเพิ่มค่าจ้างให้คุณได้อีกหลายพันบาทเลยครับ ในกรณีของผลคะแนนด้านภาษาจึงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญ แต่อาจจะไม่บังคับทุกสายงายหรือทุกบริษัทครับ ดังนั้นหากคุณมีเอกสารสมัครงานชิ้นนี้ก็ควรสอบถามฝ่ายบุคคลก่อนการยื่นเอกสารครับ เพราะเอกสารสมัครงานชิ้นนี้อาจจะเพิ่มโอกาสในการได้งานสำหรับคุณมากขึ้นไปอีกครับ
ใบรับรองแพทย์
เอกสารสมัครงานสำคัญซึ่งจะให้ข้อมูลทางการแพทย์ โดยทั่วไปอาจจะไม่เข็มงวดเท่าไหร่ แต่ขอให้มีเพื่อเป็นเครื่องยืนยัน ด้านโรคติดต่อและความทุพพลภาพ แต่ในปัจจุบัน เอกสารสมัครงานนี้สำคัญสุด ๆ ครับ เพื่อเป็นการแสดงข้อมูลด้านโรคติดต่อ และสำหรับสายงานด้านอาหารและโภชนาการ การตรวจไวรัส B หรือเชื้ออื่น ๆ เป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากครับ เช่นเดียวกับการตรวจตาบอดสี สำหรับงานบางประเภทเช่น พนักงานขับรถ พนักงานคัดแยกวัสดุและงานสายการแพทย์
นอกจากนี้ สถานพยาบาลที่ออกใบรับรองแพทย์ให้คุณก็สำคัญด้วยเช่นกันครับ เพราะ หากคุณกำลังเตรียมเอกสารสมัครงานสายราชการ ใบรับรองแพทย์จะต้องออกโดยโรงพยาบาลของรัฐเท่านั้นครับ และอาจมีความยืดหยุ่นลงบ้างสำหรับกรณีบริษัทเอกชนที่สามารถใช้ใบรับรองแพทย์ที่ออกโดยโรงพยาบาลเอกชนได้ แต่สำหรับใบรับรองแพทย์จากคลินิกนั้น เราแนะนำว่าควรหลีกเลี่ยงนำมาใช้เป็นเอกสารสมัครงานครับ
เอกสารทางราชการส่วนตัว/ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน/ สำเนาทะเบียนบ้าน/ สำเนาใบสำคัญเปลี่ยนชื่อ – สกุล/ เอกสารใบผ่านการเกณฑ์ทหาร
ข้อนี้เป็นรายการเอกสารสมัครงานพื้นฐานที่คุณจะต้องเตรียมครับ โดยทั่วไปแล้วหลายท่านคงพอจะทราบรายละเอียดอยู่แล้วครับว่า จะต้องมีเอกสารสมัครงานใดบ้าง อาทิ สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน หากคุณมีการเปลี่ยนชื่อ หรือนามสกุลก็จะต้องมีเอกสารใบสำคัญเปลี่ยนชื่อด้วย และโดยเฉพาะผู้สมัครชาย คุณจะต้องเตรียมเอกสารสมัครงานใบผ่านการเกณฑ์ทหารให้เรียบร้อยครับ
แต่ประเด็นที่ต้องตรวจสอบและให้ความสำคัญคือ การทำสำเนาครับ คุณควรเตรียมเอกสารสมัครงานเหล่านี้ไปเผื่อเยอะ ๆ ครับ อาจจะต้องเตรียมอย่างละ 5 – 6 ชุดเพื่อป้องกันการเซ็นรับรองผิดหรือมีเอกสารไม่พอ และอีกประการที่สำคัญคือ คุณจะต้องตรวจสอบวันสิ้นสุดอายุของเอกสารด้วยครับ เพราะหากบัตรประจำตัวประชาชนหมดอายุ เอกสารสมัครงานของคุณก็จะไม่สมบูรณ์ ฝ่ายบุคคลอาจจะคัดใบสมัครของคุณออกทันทีครับ

สำเนาใบอนุญาตขับขี่
เอกสารสมัครงานชิ้นนี้สำคัญมากครับ สำหรับคุณที่กำลังสมัครงานที่ต้องขับรถ เพราะถ้าคุณสมัครงานตำแหน่งคนขับรถ ทางบริษัทจำเป็นที่จะต้องให้คุณเตรียมเอกสารสมัครงานโดยมีสำเนาใบขับขี่อยู่ด้วยครับ และจะต้องเป็นใบอนุญาตขับขี่ ที่ถูกประเภทด้วยนะครับ ไม่ใช่สมัครตำแหน่งคนขับรถบรรทุก หรือรถขนส่ง แต่คุณยังไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถบรรทุกหรือรถขนส่ง แล้วจะใช้สำเนาใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ส่วนตัวแทน ซึ่งไม่ได้นะครับ ดังนั้นคุณควรจะเตรียมเอกสารสมัครงานชิ้นนี้ไว้ให้เรียบร้อยก่อนที่จะยื่นเอกสารสมัครงานทั้งหมดครับ
การเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง
การเซ็นเอกสารรับรองสำเนาถูกต้องก็เป็นอีกขั้นตอนที่มีความสำคัญสำหรับการเตรียมเอกสารสมัครงานครับ เพราะหลายคนเซ็นผิดและเซ็นไม่ถูกต้อง จนก่อให้เกิดปัญหาตามมามากมายครับทั้ง ต้องเปลี่ยนเอกสาร หรืออาจจะถูกนำสำเนานั้นไปใช้ประโยชน์ในทางผิดกฎหมาย ซึ่งวิธีการเซ็นที่ถูกต้อง คือ การเซ็นเส้นตรง 2 ขีดทับสำเนาเอกสาร โดยไม่ควรเซ็นทับรูปภาพในบัตรประจำตัวประชาชน และเขียน”สำเนาถูกต้อง” กำกับพร้อมเซ็นชื่อ ด้วยตัวบรรจง พร้อมระบุวัตถุประสงค์ของเอกสารครับ ด้วยวิธีนี้คุณก็จะสามารถเตรียมเอกสารสมัครงานได้อย่างถูกต้องและครบถ้วนครับ