ในยุคที่ใคร ๆ ก็สามารถโอนเงินผ่านมือถือได้ การหลอกลวงทางออนไลน์ก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยเฉพาะกลโกงแบบ “หลอกให้โอนก่อน” เช่น บอกว่าต้องจ่ายค่ามัดจำ ค่าส่งของ หรือค่าธรรมเนียมก่อนจะได้เงินหรือสินค้า บางคนไม่รู้ทัน โอนเงินไป แล้วก็หายเงียบ ติดต่อไม่ได้อีกเลย
เพราะฉะนั้น ก่อนจะโอนเงินให้ใคร โดยเฉพาะคนที่เราไม่รู้จักมาก่อน ควร “เช็ครายชื่อห้ามโอนเงิน 2568” ให้มั่นใจว่าปลายทางไม่ใช่มิจฉาชีพ
บทความนี้จะอธิบายแบบเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับคุณพ่อคุณแม่ หรือผู้สูงวัยวัย 60 ปีขึ้นไป พร้อมแนะนำวิธี “ตรวจสอบคนโกง” ผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชันที่น่าเชื่อถือ
ทำไมต้อง “เช็คก่อนโอน”?
ทุกวันนี้มีคนถูกหลอกโอนเงินวันละหลายร้อยคน บางคนสูญเงินหลักหมื่น บางคนหลักแสน มิจฉาชีพจะอ้างเหตุผลต่าง ๆ เช่น
-
ขายของราคาถูกในเฟซบุ๊ก แต่ขอให้โอนก่อน
-
อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ หลอกว่าได้เงินคืนภาษี
-
ส่ง SMS ปลอมให้คลิกลิงก์ แล้วขอข้อมูลบัญชี
คนที่หลงเชื่อจะเสียเงินไปง่าย ๆ เพราะ “ไม่ทันได้เช็คข้อมูลก่อนโอน”
ดังนั้นก่อนจะโอน ควร เช็ครายชื่อคนโกง 2568 ให้แน่ใจก่อนทุกครั้ง
วิธีเช็ครายชื่อห้ามโอนเงิน 2568 แบบเข้าใจง่าย
1. ตรวจสอบคนโกงผ่านเว็บไซต์ “Blacklistseller.com”
เว็บไซต์นี้คืออะไร?
เป็นเว็บไซต์ที่รวบรวมรายชื่อบัญชีธนาคารและชื่อบุคคลที่เคยโกงเงินผู้อื่น โดยผู้เสียหายสามารถมารายงาน และแชร์ประสบการณ์
ขั้นตอนการใช้งาน:
-
เปิดเว็บไซต์: www.blacklistseller.com
-
พิมพ์ “ชื่อ-นามสกุล” หรือ “เลขบัญชี” หรือ “เบอร์โทรศัพท์” ที่ต้องการตรวจสอบ
-
กด “ค้นหา”
-
ระบบจะแสดงข้อมูลว่าเคยมีประวัติโกงหรือไม่
ข้อดี:
-
ใช้งานฟรี
-
ไม่ต้องสมัครสมาชิก
-
ข้อมูลอัปเดตต่อเนื่อง
2. ตรวจสอบรายชื่อห้ามโอนเงินจาก “เว็บไซต์ ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (PCT)”
เว็บไซต์นี้คืออะไร?
เป็นเว็บไซต์ที่จัดทำโดยตำรวจ ให้ประชาชนสามารถตรวจสอบบัญชีต้องสงสัยที่อาจเป็นมิจฉาชีพ
ขั้นตอนการใช้งาน:
-
เข้าเว็บไซต์: www.thaipoliceonline.com
-
คลิกเมนู “ตรวจสอบบัญชีต้องสงสัย”
-
พิมพ์เลขบัญชี หรือเบอร์โทรศัพท์
-
หากเป็นบัญชีที่เคยมีประวัติ จะมีข้อความแจ้งเตือน
ข้อดี:
-
เป็นข้อมูลจากตำรวจโดยตรง
-
มีระบบแจ้งความออนไลน์ในเว็บเดียวกัน
3. เช็คเบอร์มิจฉาชีพผ่าน “Whoscall” (โหลดแอปฟรี)
แอปนี้คืออะไร?
เป็นแอปโทรศัพท์ที่จะแจ้งเตือนเมื่อมีเบอร์แปลกโทรเข้าว่าเป็น “เบอร์มิจฉาชีพ” หรือไม่ พร้อมบอกว่าเคยมีคนรายงานหรือเปล่า
วิธีใช้งาน:
-
ดาวน์โหลดแอป “Whoscall” จาก App Store หรือ Play Store
-
เปิดแอปและอนุญาตให้เข้าถึงเบอร์ที่โทรเข้า
-
เมื่อมีเบอร์โทรแปลกโทรมา ระบบจะขึ้นแจ้งเตือนว่า “เบอร์นี้มีรายงานว่าโกง” หรือไม่
-
สามารถพิมพ์เบอร์ในช่องค้นหาเพื่อตรวจสอบเองได้
ข้อดี:
-
ใช้ได้ทั้งโทรศัพท์ Android และ iPhone
-
ป้องกันเบอร์หลอกให้โอนเงินได้ตั้งแต่เริ่มโทรมา
4. ตรวจสอบผ่านเพจ “อย่าหลงเชื่อ” หรือ “ชัวร์ก่อนแชร์”
เพจเหล่านี้จะรวบรวมข่าวสารและตัวอย่างมิจฉาชีพจากทั่วประเทศ พร้อมเบอร์และบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้อง
วิธีใช้งาน:
-
เข้าเฟซบุ๊ก
-
ค้นหาชื่อเพจ “อย่าหลงเชื่อ” หรือ “ชัวร์ก่อนแชร์”
-
อ่านโพสต์ล่าสุด หรือใช้ช่องค้นหาพิมพ์เลขบัญชี
-
ถ้ามีรายชื่อซ้ำ หรือมีคนแจ้งว่าถูกโกง ควรหลีกเลี่ยงทันที
เคล็ดลับสังเกตคนโกงก่อนโอนเงิน
-
ขายของราคาถูกเกินจริง เช่น ไอโฟนมือสอง 3,000 บาท
-
บัญชีธนาคารไม่ตรงกับชื่อผู้ขาย
-
อ้างว่า “รีบโอนตอนนี้ ไม่งั้นของหมด”
-
พูดจารีบเร่ง ไม่ยอมให้ตรวจสอบ
-
ไม่มีรีวิว หรือโปรไฟล์ในเฟซบุ๊กเปิดใหม่
หากเจอลักษณะแบบนี้ หยุดไว้ก่อน แล้วใช้วิธีตรวจสอบคนโกง ที่แนะนำไปด้านบน
ถาม – ตอบ: เช็ครายชื่อห้ามโอนเงิน
Q: ใช้มือถือธรรมดา (ไม่ใช่สมาร์ตโฟน) เช็คได้ไหม?
A: ต้องใช้มือถือที่ต่ออินเทอร์เน็ตได้ เช่น สมาร์ตโฟน หากไม่มี สามารถให้ลูกหลานช่วยตรวจสอบให้ผ่านเว็บไซต์ได้
Q: มีคนโทรมาหลอกให้โอนเงิน แต่ไม่รู้ว่าโกงไหม?
A: อย่าเพิ่งโอนเด็ดขาด ให้จดเบอร์โทรไว้ แล้วเข้าไป “เช็คเบอร์มิจฉาชีพ” ผ่านแอป Whoscall หรือเว็บไซต์ PCT
Q: เช็คแล้วไม่มีชื่อ แปลว่าไม่โกงแน่นอนหรือเปล่า?
A: ไม่แน่เสมอไป เพราะบางรายอาจเป็นมิจฉาชีพหน้าใหม่ ควรพิจารณาจากลักษณะการพูด การขายของ และอย่าโอนหากไม่มั่นใจ
Q: ถูกหลอกไปแล้ว แจ้งความได้ที่ไหน?
A: เข้าเว็บไซต์ www.thaipoliceonline.com เพื่อแจ้งความออนไลน์ได้เลย หรือไปที่สถานีตำรวจพร้อมหลักฐาน เช่น สลิปโอนเงิน และข้อความแชท
ในปี 2568 มิจฉาชีพมีวิธีการหลอกลวงที่หลากหลายมากขึ้น แต่เราสามารถป้องกันตัวเองได้ด้วยการ “ตรวจสอบรายชื่อห้ามโอนเงิน” ก่อนทุกครั้ง โดยสามารถใช้เครื่องมือฟรี เช่น
-
เว็บไซต์ Blacklistseller
-
เว็บไซต์ตำรวจ www.thaipoliceonline.com
-
แอป Whoscall
-
เพจแจ้งเตือนมิจฉาชีพบน Facebook
อย่าคิดว่า 5,000 หรือ 10,000 บาทเป็นเงินไม่มาก เพราะเมื่อรวมกันหลายร้อยคนต่อวัน มิจฉาชีพได้ไปหลายล้าน
ก่อนโอนเงินให้ใคร ถามตัวเองก่อนว่า เราเช็คคนนี้หรือยัง?
ถ้า “ยัง” อย่าเพิ่งโอน ให้ “เช็คก่อนโอน” ทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัยของเงินในกระเป๋าเรา