หลายคนอาจสงสัยว่าขอสินเชื่อไม่ผ่านเพราะอะไร เป็นเพราะดวงหรือเปล่า หรือเป็นเพราะกรุ๊ปเลือดหรือเปล่า แล้วคนที่สมัครกู้เงินไม่ผ่านสักที มีวิธีอะไรที่ช่วยให้สมัครสินเชื่อผ่านแบบสบาย ๆ แบบคนอื่นเขาบ้าง ผมได้สำรวจสาเหตุที่คนจำนวนมากสมัครสินเชื่อไม่ผ่านจาก Pantip และโซเชียลมีเดีย ทำให้ได้ข้อสรุปว่าทำไมหลายคนถึงสมัครกู้เงินไม่ผ่านสักที แม้จะปรับโน่นปรับนี่ เป็นทุกอย่างให้เธอแล้วแต่ทำไมสมัครสินเชื่อไม่ผ่าน วันนี้ผมได้เตรียมคำตอบมาให้ทุกท่านแล้วครับ
ขอสินเชื่อไม่ผ่านเพราะอะไร?
1.มีภาระหนี้สินคงค้างมากเกินไป
สาเหตุอันดับหนึ่งที่ทำให้หลายคนขอสินเชื่อไม่ผ่าน เป็นเพราะว่ามีภาระหนี้คงค้างมากเกินไปจนมีความเสี่ยงสูงที่จะผิดนัดชำระหนี้ อย่างที่ทุกคนทราบกันดี การขอสินเชื่อก็คือการกู้หนี้ยืมสินกับผู้ให้บริการสินเชื่อซึ่งเมื่อมีการทำสัญญากู้เงินก็จะแปรสภาพเป็นเจ้าหนี้ของเรา หากเจ้าหนี้เห็นแล้วว่าภาระหนี้ที่มากมายเกินรับไหวจะทำให้เรามีโอกาสเบี้ยวหนี้สูง และอาจจะไม่ได้รับเงินต้นคืนภายในเวลาที่กำหนด ก็อาจจะลดความเสี่ยงด้วยการไม่อนุมัติเงินกู้ตั้งแต่แรก เฉพาะอย่างยิ่ง ปัจจุบันที่มีปัญหาหนี้เสียจำนวนมาก สถาบันการเงินหลายแห่งจึงเลือกที่จะเข้มงวดมากเป็นพิเศษ ทำให้หลายคนสมัครสินเชื่อไม่ผ่านนั่นเอง เพราะฉะนั้น ก่อนขอสินเชื่อ ท่านอาจลองตรวจสอบภาระหนี้สินคงค้างของตนเองว่ามีสัดส่วนต่อรายได้เท่าไหร่ หากภาระหนี้สินมากกว่า 40% ของรายได้ต่อเดือน ก็มีโอกาสสูงที่จะขอสินเชื่อไม่ผ่านครับผม
2.ติดเครดิตบูโร/ติดแบล็คลิส
อีกสาเหตุใหญ่ที่ทำให้คนจำนวนมากสมัครสินเชื่อไม่ผ่าน เป็นเพราะว่ามีประวัติการชำระหนี้ไม่สู้ดีเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะหากที่ผ่านมา เคยผิดนัดชำระหนี้หรือค้างชำระหนี้จนทำให้ชื่อติดเครดิตบูโรหรือถูกขึ้นแบล็คลิส ทำให้การสมัครยืมเงินด่วนกับบางสถาบันการเงินที่เข้มงวดสูง มีโอกาสไม่ผ่านแทบจะ 100% ด้วยเหตุนี้ การรักษาวินัยทางการเงินจึงมีความสำคัญเป็นอย่างมากครับ
3.เอกสารไม่ครบถ้วน
สาเหตุที่ทำให้สมัครสินเชื่อไม่ผ่าน โดยเฉพาะการสมัครสินเชื่อออนไลน์ผ่านแอพยืมเงิน คือ เอกสารไม่ครบถ้วน เมื่อ AI พิจารณาสินเชื่อแล้วไม่พบเอกสารที่สามารถใช้ประมวลความสามารถในการชำระหนี้ หรือระบุตัวตนและที่อยู่ของผู้ยื่นกู้ได้อย่างชัดเจน ก็จะทำให้ไม่สามารถอนุมัติสินเชื่อได้ในท้ายที่สุด เหตุผลข้อนี้ทำให้หลายคนขอสินเชื่อไม่ผ่านมานักต่อนักแล้ว แม้กระทั่งคนที่มีความพร้อมและฐานเงินเดือนสูง ดังนั้น ขอให้ทุกท่านเตรียมเอกสารให้พร้อม ตรวจเช็คให้ดีก่อนกดยื่นกู้ผ่านแอพยืมเงินด่วนออนไลน์ เพราะหากสินเชื่อไม่ผ่านการอนุมัติแล้ว อาจจะต้องใช้เวลาหลายสัปดาห์ หรือหลายเดือนกว่าจะสามารถยื่นกู้ใหม่อีกครั้งได้ครับ
4.ที่มาของรายได้คลุมเครือ
หากเป็นมนุษย์เงินเดือนที่มีหลักฐานรายได้เป็นสลิปเงินเดือนชัดเจนก็คงจัดปัญหาข้อนี้ไปได้ แต่หากท่านทำธุรกิจส่วนตัวหรือทำมาค้าขาย อาจจะไม่มีสลิปเงินเดือน และจำเป็นต้องใช้ Statement เพื่อแสดงให้เห็นรายรับ-รายจ่ายในแต่ละเดือน ซึ่งบางครั้ง Statement อาจจะไม่ได้ระบุชัดเจนว่าแหล่งที่มาของเงินรายได้มาจากไหน ด้วยเหตุนี้ การเตรียมข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งที่มาของรายได้จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก เพราะจะช่วยชี้แจงให้ธนาคารหรือสถาบันการเงินทราบเกี่ยวกับที่มาของรายได้ว่ามีความสม่ำเสมอมากน้อยเพียงใด ซึ่งหลายกรณีท่านอาจละเลยตรงนี้ไป ทำให้ธนาคารไม่ทราบความสม่ำเสมอของเงินรายได้ จึงปฏิเสธการอนุมัติสินเชื่อ เพราะไม่มั่นใจว่าจะมีรายได้ที่สม่ำเสมอเพียงพอสำหรับการชำระหนี้ในแต่ละงวดหรือไม่นั่นเอง
ทำยังไงให้สมัครยืมเงินด่วนผ่าน 2566
1.สมัครสินเชื่อนาโนไม่เช็คบูโร 2023
ใครที่รู้ตัวว่าติดเครดิตบูโรหรือแบล็คลิส วิธีที่ทุกท่านจะสามารถสมัครยืมเงินด่วน ถูกกฎหมายได้จริง แบบไม่ต้องพึ่งแหล่งเงินกู้นอกระบบ คือ การสมัครสินเชื่อนาโนไม่เช็คบูโร หรือ สินเชื่อเพื่อคนติดแบล็คลิส เช่น ฟินนิกซ์ เงินทันเด้อ พรอมิส หรือ เพื่อนแท้เงินด่วน ซึ่งสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์จะมีจุดเด่นตรงที่ไม่ต้องใช้บุคคลหรือหลักทรัพย์ค้ำประกัน เงินเดือนน้อยกว่า 10,000 บาท ก็สมัครได้ ไม่ต้องใช้สลิปเงินเดือน ค่อนข้างสะดวกสบายในการผ่อนชำระ เพราะดอกเบี้ยไม่แพงเหมือนเงินกู้นอกระบบ เหมาะสำหรับคนที่ไม่มั่นใจว่าจะสมัครยืมเงินด่วนกับสินเชื่อธนาคารพาณิชย์ผ่านหรือไม่
2.รวมหนี้เป็นก้อนเดียว
อีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยให้สมัครสินเชื่อผ่าน คือ การรวมหนี้เป็นก้อนเดียวด้วยสินเชื่อปลดหนี้ หรือสินเชื่อรวมหนี้เป็นก้อนเดียว ซึ่งปัจจุบันมีให้สมัครหลายแห่ง ทั้งธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินต่าง ๆ การสมัครสินเชื่อประเภทนี้จะเป็นการช่วยจัดการภาระหนี้สินของท่าน ทั้งหนี้บัตรเครดิต บัตรเงินสด ไปจนถึงหนี้นอกระบบมาไว้ที่เดียวเพื่อลดอัตราดอกเบี้ย ช่วยให้บริการจัดการหนี้ได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น
3.อย่าใช้เงินหมดบัญชี ให้เหลือเงินติดบัญชีไว้บ้าง
สิ่งหนึ่งที่ไม่สามารถโกหกได้คือ Statement ของท่านที่จะแสดงยอดเงินเข้า-ออกบัญชี หากท่านใช้เงินหมดบัญชีทุกเดือน ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะไม่ได้รับการอนุมัติสินเชื่อ เพราะธนาคารจะคิดว่าพฤติกรรมการใช้จ่ายของท่านสะท้อนความสามารถในการชำระหนี้ได้ เพราะฉะนั้น ผมขอแนะนำให้ลองเหลือเงินติดบัญชีไว้อย่างน้อย 500 – 1000 บาท ต่อเดือน อย่าใช้จนหมดเกลี้ยงบัญชี ก็อาจจะช่วยปรับ Statement ให้มีโอกาสได้รับการอนุมัติสินเชื่อ หรือ สมัครยืมเงินด่วนผ่านได้มากขึ้นครับผม
