ออมเงินให้ลูก ธนาคารไหนดี ดอกเบี้ยสูง 2568

การออมเงินเพื่ออนาคตของลูกนับเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับคุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ เพราะการวางแผนทางการเงินแต่เนิ่น ๆ จะช่วยสร้างความมั่นคงให้กับอนาคตของเด็กในระยะยาว หนึ่งในทางเลือกยอดนิยมคือการเปิด “บัญชีออมทรัพย์สำหรับเด็ก” หรือ “บัญชีออมทรัพย์พิเศษ” ซึ่งหลายธนาคารได้ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับการออมเงินของบุตรหลาน ในบทความนี้ เราจะพาทุกท่านมาดูข้อดี-ข้อเสียของการเปิดบัญชีออมทรัพย์ให้ลูก วิธีการเลือกบัญชีที่ให้ดอกเบี้ยสูง และแนะนำ 5 บัญชีออมทรัพย์ดอกเบี้ยสูงในประเทศไทย พร้อมรีวิวสั้น ๆ และลิงก์อ้างอิงไปยังเว็บไซต์ของธนาคารนั้น ๆ สุดท้ายเราจะพูดถึงแนวทางการลงทุนอื่น ๆ ให้กับลูก เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

ยาวไป เลือกอ่าน


ทำไมถึงควรเปิดบัญชีออมทรัพย์ให้ลูก

1. ปลูกฝังวินัยในการออม

การเปิดบัญชีออมทรัพย์ตั้งแต่ลูกยังเล็กเป็นการปลูกฝังวินัยทางการเงินที่ดี ทำให้เด็กได้เรียนรู้คุณค่าของเงิน และรู้จักแนวทางการเก็บออมตั้งแต่เยาว์วัย เมื่อลูกได้เห็นจำนวนเงินที่สะสมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เขาจะตระหนักถึงความสำคัญของการออม มีแรงจูงใจในการออมเงินต่อไป

2. สิทธิประโยชน์ทางภาษี (อาจมีการเปลี่ยนแปลง)

หลายธนาคารมักจะออกโปรโมชั่นสำหรับบัญชีออมทรัพย์เด็ก ซึ่งอาจมอบสิทธิพิเศษต่าง ๆ เช่น อัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าบัญชีออมทรัพย์ปกติ หรืออาจมีข้อเสนอเกี่ยวกับวงเงินที่ได้รับการยกเว้นภาษีดอกเบี้ย หากอยู่ในเงื่อนไขที่กำหนด ทั้งนี้ควรตรวจสอบข้อมูลกับธนาคารหรือกรมสรรพากรเพื่อความถูกต้อง

3. เพิ่มความปลอดภัยในการเก็บเงิน

หากคุณพ่อคุณแม่ตั้งใจจะเก็บเงินสดไว้ที่บ้าน การฝากเงินเข้าธนาคารเป็นทางออกที่ปลอดภัยมากกว่า เพราะไม่มีความเสี่ยงจากการสูญหายหรือโจรกรรม และยังได้รับดอกเบี้ยเป็นผลตอบแทน แม้จะไม่สูงมากแต่ก็ดีกว่าการเก็บไว้เฉย ๆ

4. เครื่องมือในการเรียนรู้ของลูก

บางธนาคารมีแอปพลิเคชันหรือระบบออนไลน์ที่สามารถให้เด็กเข้ามาดูยอดเงินในบัญชีของตนได้ (โดยต้องอยู่ภายใต้การดูแลของผู้ปกครอง) สิ่งนี้จะช่วยสร้างประสบการณ์การเรียนรู้เพื่อให้ลูกเข้าใจเกี่ยวกับการเงินดิจิทัล และเทคโนโลยีที่ใช้ในยุคสมัยใหม่


ข้อดีของการเปิดบัญชีออมทรัพย์ให้ลูก

  1. ฝึกวินัยทางการเงินและความรับผิดชอบ
    เด็กจะเห็นตัวเลขของเงินออมในบัญชีที่ค่อย ๆ เติบโต ทำให้เขามีแรงผลักดันในการเก็บเงินและใช้จ่ายอย่างมีสติ

  2. อัตราดอกเบี้ยบางแห่งค่อนข้างสูง
    บัญชีออมทรัพย์สำหรับเด็กที่ออกแบบโดยเฉพาะ มักมีอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าบัญชีออมทรัพย์ปกติ เพราะต้องการสนับสนุนการออมของกลุ่มครอบครัว

  3. สิทธิพิเศษอื่น ๆ
    บางธนาคารอาจมีโปรโมชัน หรือของสมนาคุณต่าง ๆ เช่น สมุดบัญชีลายพิเศษ ของขวัญวันเกิด คะแนนสะสมเมื่อฝากเงินถึงระดับหนึ่ง หรือแม้กระทั่งประกันอุบัติเหตุเล็ก ๆ น้อย ๆ

  4. เพิ่มความปลอดภัยในการถือเงินสด
    การนำเงินสดมาเก็บในบัญชีธนาคารย่อมปลอดภัยกว่าการเก็บไว้ที่บ้าน เพราะไม่มีความเสี่ยงจากการสูญหายและยังได้รับดอกเบี้ยไปพร้อม ๆ กัน


ข้อเสียของการเปิดบัญชีออมทรัพย์ให้ลูก

  1. ดอกเบี้ยอาจไม่สูงมากพอเทียบกับเครื่องมือการลงทุนอื่น
    แม้อัตราดอกเบี้ยของบัญชีออมทรัพย์เด็กบางแห่งจะสูงกว่าบัญชีปกติ แต่เมื่อเทียบกับการลงทุนระยะยาวอื่น ๆ เช่น กองทุนรวม หุ้นกู้ หรือหุ้นสามัญ ดอกเบี้ยออมทรัพย์อาจถือว่ายังต่ำอยู่

  2. มีเงื่อนไขและข้อกำหนดที่ต้องปฏิบัติตาม
    บัญชีออมทรัพย์สำหรับเด็กอาจมีเงื่อนไขพิเศษ เช่น วงเงินฝากขั้นต่ำต่อเดือน ระยะเวลาในการฝาก อัตราดอกเบี้ยที่เปลี่ยนแปลงตามยอดเงินคงเหลือ เป็นต้น จำเป็นต้องศึกษาละเอียดก่อนเปิดบัญชี

  3. มีค่าธรรมเนียมบางกรณี
    บางธนาคารอาจมีค่าธรรมเนียมด้านบัตร ATM หรือค่าธรรมเนียมอื่น ๆ หากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไข เช่น ยอดเงินฝากคงเหลือไม่ถึงขั้นต่ำ หรือฝาก/ถอนเกินจำนวนครั้งที่กำหนด

  4. ต้องใช้เอกสารตามกฎหมาย
    เนื่องจากเป็นบัญชีในนามเด็ก บางครั้งผู้ปกครองอาจต้องเตรียมเอกสารเพิ่มเติม เช่น สูติบัตร บัตรประชาชนของผู้ปกครอง ใบเปลี่ยนชื่อ-นามสกุล (ถ้ามี) ซึ่งอาจต้องเสียเวลาในการจัดเตรียมและยื่น


วิธีเลือกบัญชีออมทรัพย์ให้ลูก

  1. ดูอัตราดอกเบี้ยเป็นสำคัญ
    เมื่อวัตถุประสงค์คือ “ออมเงินระยะยาว” เพื่อผลตอบแทนในรูปของดอกเบี้ย จึงควรพิจารณาเลือกบัญชีที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าบัญชีทั่วไป หรือบัญชีอื่น ๆ ที่อยู่ในเงื่อนไขใกล้เคียงกัน

  2. ความน่าเชื่อถือและความปลอดภัย
    ควรเลือกธนาคารที่มีความน่าเชื่อถือสูง มีประวัติยาวนาน และเครือข่ายสาขาที่สะดวกต่อการทำธุรกรรม

  3. ตรวจสอบเงื่อนไขและค่าธรรมเนียม
    ธนาคารบางแห่งอาจกำหนดยอดเงินฝากขั้นต่ำเพื่อคงสถานะการได้รับดอกเบี้ยสูง หรืออาจมีจำนวนครั้งในการถอนที่กำหนด ค่าธรรมเนียมกรณีไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไข ซึ่งควรเปรียบเทียบระหว่างธนาคารก่อนตัดสินใจ

  4. ฟีเจอร์เสริม
    เช่น บัตรเดบิตสำหรับเด็ก (กรณีอายุมากพอหรืออยู่ในเงื่อนไขธนาคาร) ระบบออนไลน์/โมบายแบงก์กิ้งที่ใช้งานง่าย มีของขวัญพิเศษหรือส่วนลดต่าง ๆ เพื่อจูงใจในการออม


5 บัญชีออมทรัพย์ ดอกเบี้ยสูงในไทย ปี 2568

จากการสำรวจในตลาดปัจจุบัน ธนาคารหลายแห่งได้ออกผลิตภัณฑ์บัญชีออมทรัพย์สำหรับเด็ก หรือบัญชีออมทรัพย์แบบพิเศษที่เหมาะกับครอบครัว โดยในปี 2568 นี้ มีตัวเลือกที่น่าสนใจดังต่อไปนี้ (อัตราดอกเบี้ยอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามประกาศของแต่ละธนาคาร โปรดตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากเว็บไซต์ทางการของธนาคาร)

  1.  

สิ่งที่ผู้ปกครองควรพิจารณาก่อนเปิดบัญชีออมทรัพย์เด็ก

  1. ตรวจสอบเงื่อนไขเกี่ยวกับการฝาก-ถอน
    เนื่องจากบัญชีออมทรัพย์สำหรับเด็กบางแห่งให้ดอกเบี้ยสูงต่อเมื่อมีการฝากอย่างสม่ำเสมอและมีจำนวนครั้งในการถอนจำกัด หากเราต้องการใช้เงินหมุนเวียนบ่อย ๆ อาจไม่ได้รับประโยชน์จากอัตราดอกเบี้ยสูง

  2. เตรียมเอกสารอย่างครบถ้วน
    เช่น สำเนาสูติบัตรลูก บัตรประชาชนผู้ปกครอง ทะเบียนบ้าน เพื่อให้กระบวนการเปิดบัญชีเป็นไปอย่างรวดเร็ว

  3. เช็กค่าธรรมเนียมต่าง ๆ

    • ค่าธรรมเนียมบัตร ATM หรือบัตรเดบิต
    • ค่าธรรมเนียมรายเดือน (ถ้ามี)
    • ค่าธรรมเนียมกรณียอดเงินต่ำกว่าที่กำหนด
      การเช็กข้อมูลล่วงหน้าจะช่วยลดปัญหาจุกจิกในอนาคต
  4. เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยหลาย ๆ ธนาคาร
    บัญชีที่เหมาะสำหรับครอบครัวหนึ่งอาจไม่เหมาะกับอีกครอบครัวหนึ่งเสมอไป เนื่องจากความต้องการทางการเงินและพฤติกรรมการออมแตกต่างกัน จึงควรเปรียบเทียบหลาย ๆ ทางเลือกก่อนตัดสินใจ

  5. ความสะดวกในการทำธุรกรรม
    หากต้องฝากหรือถอนเงินบ่อย ๆ ควรเลือกธนาคารที่มีสาขาหรือจุดบริการใกล้บ้าน หรือใช้โมบายแบงก์กิ้งอย่างคล่องตัว


ขั้นตอนในการเปิดบัญชีออมทรัพย์ให้ลูก

  1. เตรียมเอกสาร

    • สูติบัตรตัวจริงของลูก พร้อมสำเนา
    • บัตรประชาชนของผู้ปกครอง (บิดา/มารดา/ผู้พิทักษ์)
    • ทะเบียนบ้านของเด็กและผู้ปกครอง (กรณีธนาคารขอ)
    • หนังสือรับรองการเป็นผู้แทนโดยชอบธรรม (หากมีกรณีพิพาทหรือกรณีพิเศษ)
  2. เลือกธนาคาร
    เลือกจากปัจจัยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นความคุ้นเคย ความสะดวกในการเดินทาง อัตราดอกเบี้ย และเงื่อนไขบัญชี

  3. กรอกแบบฟอร์มและลงนาม
    ไปที่สาขาของธนาคารที่ต้องการ ขอเปิดบัญชีออมทรัพย์ในนามเด็ก กรอกข้อมูลตามที่ธนาคารร้องขอ และผู้ปกครองจะต้องลงนามรับรอง

  4. ฝากเงินขั้นต่ำ
    ธนาคารจะกำหนดจำนวนเงินขั้นต่ำในการเปิดบัญชี บางธนาคารอาจมีโปรโมชั่นพิเศษ หากฝากเกินเกณฑ์จะได้รับของพรีเมียมหรืออัตราดอกเบี้ยสูงขึ้น

  5. รับสมุดบัญชีและเอกสารสรุปเงื่อนไข
    หลังเปิดบัญชีเสร็จ เจ้าหน้าที่จะแจ้งอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง เงื่อนไขการฝากถอน ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ หากมี ควรเก็บเอกสารนี้ไว้ให้ดีเพื่อเป็นหลักฐาน


การวางแผนและประเมินผลอย่างสม่ำเสมอ

  • กำหนดเป้าหมายการออม: เช่น ต้องการใช้เงินเมื่อเด็กอายุ 18 ปี เพื่อนำไปจ่ายค่าเทอมมหาวิทยาลัย หรือต้องการออมเพื่อใช้ในกรณีฉุกเฉิน
  • ประเมินผลทุก 6 เดือนหรือ 1 ปี: เพื่อตรวจสอบว่าอัตราดอกเบี้ยยังคงคุ้มค่ากับเงื่อนไขที่ปฏิบัติอยู่หรือไม่ หากพบว่ามีบัญชีใหม่ในตลาดที่ให้ผลตอบแทนดีกว่าและเงื่อนไขใกล้เคียงกัน อาจพิจารณาเปลี่ยนหรือเปิดบัญชีใหม่เพิ่มเติม
  • สอนลูกให้มีส่วนร่วม: ในช่วงที่ลูกอายุประมาณ 7–10 ปีขึ้นไป สามารถพาลูกมาฝากเงินด้วยตนเอง หรือสอนให้ดูยอดเงินผ่านแอป เพื่อให้เขาเกิดความรู้สึกภูมิใจในเงินออมของตน

5 บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ ดอกเบี้ยสูง 2568

  1. บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ชิลดี (Chill D) – ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย

    • อัตราดอกเบี้ย: สูงสุด 2.88% ต่อปี สำหรับยอดเงินฝากส่วนที่เกิน 50,000 บาท ถึง 100,000 บาท

    • รายละเอียด: บัญชีสำหรับลูกค้าบุคคลธรรมดา เปิดบัญชีผ่าน Mobile Application หรือสาขาที่ธนาคารกำหนด ไม่มีขั้นต่ำในการเปิดบัญชี และจ่ายดอกเบี้ยเป็นรายเดือนแบบขั้นบันได

  2. บัญชี ทีทีบี ดิ เอ็กซ์คลูซีฟ ออมทรัพย์พิเศษ (ttb the exclusive savings) – ธนาคารทหารไทยธนชาต

    • อัตราดอกเบี้ย: สูงสุด 2.75% ต่อปี

    • รายละเอียด: บัญชีสำหรับลูกค้าบุคคลธรรมดาที่มีผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต ทีทีบี เดอะ เทรเชอร์ (88/8) โดยเปิดบัญชีพร้อมฝากเงินเข้าบัญชีในวันเดียวกัน จำนวนเงินฝากต้องเท่ากับค่าเบี้ยประกันชีวิตที่คงเหลือต้องชำระอีก 7 ปี

  3. บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ UP2ME My Goal Savings 36 เดือน – ธนาคารไทยพาณิชย์

    • อัตราดอกเบี้ย: สูงสุด 2.60% ต่อปี

    • รายละเอียด: บัญชีที่เน้นให้ลูกค้าสะสมเงินเป็นประจำเท่า ๆ กันทุกเดือน จนกว่าจะครบกำหนด เพื่อรับสิทธิประโยชน์ในการขอสินเชื่อหรือสินเชื่อที่อยู่อาศัย และได้รับดอกเบี้ยสูงกว่าเงินฝากประจำทั่วไป

  4. บัญชีเงินฝากออมทรัพย์อัลฟา – ธนาคารไทยเครดิต เพื่อรายย่อย

    • อัตราดอกเบี้ย: สูงสุด 2.00% ต่อปี

    • รายละเอียด: บัญชีเงินฝากดิจิทัลสำหรับบุคคลธรรมดา เปิดบัญชีได้ด้วยตนเองผ่านช่องทาง alpha by Thai Credit สะดวก ถอนเงินสดได้ด้วยบริการถอนเงินไม่ใช้บัตรผ่านตู้ ATM ของธนาคารไทยพาณิชย์ ฟรีค่าธรรมเนียม 3 ครั้ง/เดือน

  5. บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ KKP Start Saving – ธนาคารเกียรตินาคินภัทร

    • อัตราดอกเบี้ย: สูงสุด 2.00% ต่อปี

    • รายละเอียด: บัญชีเงินฝากออมทรัพย์ที่ให้ดอกเบี้ยสูงตั้งแต่บาทแรก ฝากง่ายผ่านแอปพลิเคชัน ทรูมันนี่ วอลเล็ท ไม่ต้องมีสมุดบัญชี ไม่มีขั้นต่ำในการเปิดบัญชี และจ่ายดอกเบี้ยปีละ 2 ครั้ง

โปรดทราบว่าอัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขของบัญชีอาจมีการเปลี่ยนแปลง ควรตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากเว็บไซต์หรือสาขาของธนาคารที่สนใจก่อนตัดสินใจเปิดบัญชี


ทางเลือกอื่น ๆ นอกเหนือจากการเปิดบัญชีออมทรัพย์: แนวทางการลงทุนเพื่ออนาคตของลูก

แม้ว่าการเปิดบัญชีออมทรัพย์จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการฝึกวินัยและสร้างเงินออมระยะสั้นถึงกลาง แต่หากต้องการผลตอบแทนที่สูงขึ้น หรือมีเป้าหมายการเงินระยะยาว (เช่น ค่าเทอมมหาวิทยาลัยที่มีแนวโน้มแพงขึ้นทุกปี) ผู้ปกครองอาจมองหาแนวทางการลงทุนอื่น ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเติบโตของเงินทุน ดังนี้

1. กองทุนรวม (Mutual Funds)

  • กองทุนตราสารหนี้: มีความเสี่ยงต่ำถึงปานกลาง ให้ผลตอบแทนที่มั่นคงกว่าเงินฝากปกติ แต่ยังมีโอกาสได้ดอกเบี้ยมากกว่า
  • กองทุนตราสารทุน: มีความเสี่ยงสูงขึ้น แต่มีโอกาสได้ผลตอบแทนที่ดีกว่าในระยะยาว เหมาะสำหรับเด็กที่สามารถถือครองเงินไว้ได้นาน 5–10 ปีขึ้นไป
  • กองทุนผสม: เป็นทางสายกลางที่กระจายการลงทุนในตราสารหนี้และตราสารทุน เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสได้รับผลตอบแทนในระดับที่สมดุล

2. ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ หรือประกันชีวิตควบการลงทุน (Unit-linked)

  • ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์: เหมาะสำหรับผู้ปกครองที่ต้องการความมั่นคงทางการเงินในช่วงระยะเวลาหนึ่ง เช่น 10 หรือ 15 ปี ได้ทั้งความคุ้มครองชีวิตและเงินคืนตามสัญญากรมธรรม์
  • ประกันชีวิตควบการลงทุน (Unit-linked): ผู้ปกครองสามารถเลือกปรับสัดส่วนการลงทุนในกองทุนตามความเสี่ยงที่รับได้ มีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่สูงขึ้นในระยะยาว แต่ต้องศึกษาค่าใช้จ่ายและค่าธรรมเนียมอย่างละเอียด

3. พันธบัตรรัฐบาล / หุ้นกู้เอกชน

  • พันธบัตรรัฐบาล: เป็นเครื่องมือการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ ได้รับการค้ำประกันจากรัฐบาล แต่ผลตอบแทนอาจไม่สูงมากนัก
  • หุ้นกู้เอกชน: ให้ผลตอบแทนสูงกว่าพันธบัตรรัฐบาล แต่ความเสี่ยงขึ้นอยู่กับเครดิตเรตติ้งของบริษัทผู้ออกหุ้นกู้ เหมาะกับผู้ปกครองที่มีความรู้ด้านการลงทุนและสามารถรับความเสี่ยงได้บ้าง

4. ทองคำ

  • การลงทุนในทองคำ: อาจเป็นทางเลือกในการกระจายความเสี่ยง ควรคำนึงถึงต้นทุนการเก็บรักษา (ถ้าซื้อทองคำแท่ง) หรือค่าบล็อค-ค่ากำเหน็จ (ถ้าซื้อทองรูปพรรณ)
  • กองทุนทองคำหรือ ETF ทองคำ: เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการเก็บทองคำจริงที่บ้าน สามารถซื้อขายได้เหมือนหน่วยลงทุนทั่วไป

5. หุ้นและคริปโตเคอร์เรนซี (สำหรับบางครอบครัวที่ยอมรับความเสี่ยง)

  • หุ้น: หากผู้ปกครองมีประสบการณ์และเข้าใจตลาดหุ้น อาจแบ่งเงินส่วนหนึ่งสำหรับลงทุนในหุ้นพื้นฐานดีระยะยาว
  • คริปโตเคอร์เรนซี: มีความเสี่ยงและความผันผวนสูงมาก ไม่แนะนำให้ลงทุนในสัดส่วนเยอะ และควรศึกษาตลาดอย่างรอบด้านก่อน

สรุป

การออมเงินให้ลูกผ่านบัญชีออมทรัพย์ธนาคารเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยสร้างวินัยทางการเงินให้บุตรหลานได้อย่างดี มีข้อดีทั้งในด้านความปลอดภัย อัตราดอกเบี้ยที่อาจสูงกว่าบัญชีปกติ ความยืดหยุ่นในการฝากถอน และของสมนาคุณหรือสิทธิพิเศษอื่น ๆ ที่เป็นแรงจูงใจได้ดี อย่างไรก็ดี การเปิดบัญชีออมทรัพย์ก็มีข้อจำกัดและเงื่อนไขต่าง ๆ ที่ผู้ปกครองต้องศึกษาให้รอบคอบ เช่น ค่าธรรมเนียม เงื่อนไขการรับดอกเบี้ยพิเศษ และจำนวนการถอนที่จำกัด

เมื่อพิจารณาถึงเป้าหมายระยะยาวอย่างค่าเทอมมหาวิทยาลัย หรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต การอาศัยบัญชีออมทรัพย์เพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอในการสร้างผลตอบแทนที่สูงพอ ผู้ปกครองอาจต้องมองหาเครื่องมือการลงทุนอื่น ๆ ที่หลากหลาย เช่น กองทุนรวม ประกันสะสมทรัพย์ พันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้ ทองคำ หรือแม้แต่หุ้นเพื่อกระจายความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสการเติบโตของเงินทุนตามแนวโน้มในระยะยาว

ท้ายที่สุด ไม่ว่าคุณจะเลือกช่องทางไหน การสอนให้ลูกเข้าใจถึงความสำคัญของการออมและการบริหารเงินทองนั้นเป็นสิ่งที่มีค่า การได้เห็นผลลัพธ์จากความพยายามในการเก็บออมจะเป็นเครื่องกระตุ้นให้ลูกมีวินัยทางการเงินเมื่อโตขึ้น นี่คือจุดเริ่มต้นที่จะนำไปสู่อนาคตการเงินที่มั่นคงและเป็นฐานสำคัญของความสำเร็จในชีวิต

หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่เห็นภาพรวมของบัญชีออมทรัพย์สำหรับเด็กในปี 2568 พร้อมทั้งเปรียบเทียบข้อดี ข้อจำกัด และยังได้ข้อมูลเบื้องต้นของแนวทางการลงทุนอื่น ๆ หากต้องการสร้างผลตอบแทนระยะยาวมากขึ้น อย่าลืมศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ประเมินความเสี่ยงของคุณเอง และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทางการเงินหรือวางแผนทางการเงินก่อนตัดสินใจ เพื่อให้การวางแผนการออมและการลงทุนของลูกเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยในระยะยาว


ข้อมูลอ้างอิง/เว็บไซต์ธนาคาร