5 ข้อคิดใช้ชีวิตแบบมีความสุข ไม่โกรธเคืองใคร

ต้องบอกว่าการใช้ชีวิตปัจจุบันไม่ใช่เรื่องงาย เพราะการทำงานล้วนแล้วแต่ต้องดีลกับคนที่เราเลือกไม่ได้ หากพลั้งเผลอโกรธใครสักคนก็อาจลุกลามกลายเป็นการทะเลาะกันใหญ่โตได้ โดยเฉพาะกับเพื่อนร่วมงานหรือลูกค้า และที่สำคัญคือเจ้านาย ดังนั้น วันนี้ผมจึงเลือกบทความมาเสนอเป็นทางเลือกแก่ทุกท่านที่อาจจะจุดเดือดต่ำสักหน่อย สำหรับเป็นแนวทางรับมือกับการใช้ชีวิตอย่างนิ่ง ๆ ไม่โกรธใครและทำให้ตัวเองต้องเดือดร้อน

 

1.มองโลกในแง่บวกไว้

นี่คือส่วนสำคัญของการใช้ชีวิตแบบสงบร่มเย็น เพราะต่อให้คนรอบข้างหรือโลกจะถาโถมปัญหาใส่เรามากเท่าไหร่ แต่ถ้าเราพยายามองโลกในแง่บวก มีทัศนคติที่ดี ค่อย ๆ แก้ไขปัญหากันไป ไม่เครียด ไม่ตีโพตีพาย จะทำให้เรานิ่งมากขึ้น ไม่โกรธง่าย ๆ เพราะว่าวันแย่ๆ ไม่ได้หมายความว่าชีวิตทั้งหมดจะแย่ตามไป เราอาจมีวันที่อะไรมันไม่ได้เป็นไปอย่างที่ต้องการ แต่ในท้ายที่สุดมันก็จะผ่านไป ก็คิดบวกไม่ใช่เรื่องง่ายที่สร้างขึ้นได้ทันที แต่ต้องผ่านการฝึกจิตให้แข็งแกร่ง หมั่นให้กำลังใจตัวเอง และยอมรับในความไม่สมบูรณ์แบบของชีวิต

 

2.สร้าง Growth Mindset

Growth Mindset คือทัศนคติที่เชื่อว่าเราทำได้ กระตุ้นตัวเองว่าหากมีความพยายาม ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้ คนประสบความสำเร็จส่วนใหญ่มักจะมี Growth Mindset และไม่ชิงตัดสินปัญหาไปก่อนว่าแก้ไขไม่ได้ นอกจากนี้ การมี Growth Mindset ยังช่วยไม่ให้กดดันตัวเองมากเกินไป เพราะขอให้เป็นเวอร์ชั่นที่ดีที่สุดของตัวเองในแต่ละวันก็เพียงพอแล้ว โลกอาจจะเปลี่ยนไม่ได้ แต่การมีทัศนคติเปลี่ยนชีวิตเราได้แน่นอน

3.ฝึกความอดทน

ความอดทนอดกลั้น คือ พลังวิเศษ จริงอยู่ที่ว่าหากเราเห็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง การกล้าที่จะเผชิญกับมันโดยไม่จำเป็นต้องอดทนทรมานกับมันเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่บางสถานการณ์การอดทนอดกลั้นอาจเป็นทางเลือกที่เหมาะสมและส่งผลดีในระยะยาวมากกว่า ดังนั้น การฝึกความอดทนเป็นประจำ นอกจากจะช่วยทำให้อารมณ์สงบมากขึ้นแล้ว ยังช่วยเสริมสมาธิในการทำงานและทำให้สมองแล่นคิดไอเดียต่าง ๆ ได้ดีขึ้นด้วย

 

4.พอใจในสิ่งเล็กๆ

อย่าคาดหวังอะไรใหญ่ ๆ แต่จงทำงานให้เกินความคาดหวังของอื่น ความพอใจในสิ่งที่มีไม่ได้หมายความว่าจะต้องหยุดพัฒนาตัวเอง หรือพาชีวิตไปสู่จุดที่ดีกว่า การพอใจในสิ่งเล็ก ๆ จะทำให้คุณไม่กดดันตัวเองมากจนเกินไป อย่าเปรียบเทียบตัวเองกับคนอื่น ชีวิตคนเรามีเงื่อนไขแตกต่างกัน และความเท่าเทียมไม่มีจริง สิ่งที่เราทำได้คือเดินบนจังหวะของเราเอง อะไรที่เรามีก็รักษาไว้ อะไรที่ยังไม่มีแต่อยากได้ก็หาทางอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่ต้องไปด่วนสรุปว่าชีวิตเราจะต้องเป็นแบบที่คนอื่นบอก ทำสวนหลังบ้านของเราเองให้ดีก็พอ

 

5.อย่ายึดติดกับวัตถุ

โลกทุกวันนี้เต็มไปด้วยค่านิยมมากมายที่วัดคุณค่าของคนผ่านวัตถุที่ครอบครอง แต่ความจริงแล้ว เมื่อทุกอย่างสิ้นสุดลง เราจะพบว่าวัตถุต่าง ๆ ที่เราครอบครองกลับไม่มีความหมายอะไรเลย นอกจากความรักและความอบอุ่นที่ได้จากคนในครอบครัว อย่าไปยึดติดกับวัตถุที่ไร้ชีวิตมากนัก สิ่งใดหามาได้ หากเสียมันไป สักวันหนึ่งก็ต้องหามันกลับคืนมาได้ไม่ช้าก็เร็ว ใส่ใจกับคนรอบข้างให้มาก มีชีวิตที่ดีและเปี่ยมคุณค่า อย่าปล่อยให้ใครมาตัดสินชีวิตเรา เขียนเส้นทางชีวิตของเราเอง และพยายามเดินไปให้ตรง ชีวิตไม่มีสูตรสำเร็จ ถ้าเราไปวัดคุณค่าตัวเองกับมาตรฐานของสังคม ก็คงไม่มีอะไรดีขึ้นนอกจากทำให้รู้สึกแย่เปล่า ๆ