ไม่ว่าคุณจะเป็นมือโปร์หรือเป็นมือสมัครเล่น ตลาดและการลงทุนก็ไม่เคยปราณีใคร ด้วยระดับความเสี่ยงประกอบกับความผันผวนของกระแสความเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจ ทั้งหมดย่อมส่งผลให้นักลงทุนหลายท่านเกิดความไม่แน่ใจและเริ่มมีความวิตกกังวลกับการลงทุน แต่ด้วยข้อมูล ข่าวสารและรายละเอียดของหุ้นปันผล พื้นฐานดี 2566 ที่เราได้สืบค้นและศึกษารายละเอียดมานำเสนอให้ทุกท่านที่นี่ น่าจะช่วยลดความตึงเครียดและความวิตกกังวลของทุกท่านลงได้ ดังนั้นเพื่อเป็นการไม่เสียเวลา เราจึงขอนำเสนอบทความรวม “10 หุ้นปันผล พื้นฐานดี 2566” ให้แก้ทุกท่านได้ศึกษาและพิจารณาเพื่อการตัดสินใจลงทุนในปีต่อไป
หุ้นปันผล พื้นฐานดี 2566
เทคนิคการดูหุ้นปันผล พื้นฐานดี
ก่อนที่เราจะไปทำความรู้จักกับ “10 หุ้นปันผล พื้นฐานดี 2566” เราต้องเข้าใจรายละเอียดและวิธีการเลือกพิจารณา ลักษณะของหุ้นพื้นฐานดีกันเสียก่อน และด้วยข้อมูลจากธนาคารพาณิชย์หลายแห่ง ประกอบกับบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำที่ได้ดำเนินการรวบรวมเทคนิควิธีการดูหุ้นปันผล พื้นฐานดีมาให้ทุกท่านได้ศึกษา ดังนั้นเรามาดูกันเลยว่ามีวิธีการสังเกตุและพิจารณาอย่างไร
ศึกษาจากประวัติการเติบโตย้อนหลัง
เปรียบได้กับการศึกษาและพิจารณาความเจริญเติบโตขององค์กร บริษัทหรือหน่วยธุรกิจที่ดี ซึ่งทุกท่านสามารถดำเนินการศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับอัตราการเจริญเติบโตย้อนหลัง โดยสามารถดูได้จากข้อมูลย้อนหลังอย่างน้อย 3 – 5 ปี ทั้งนี้ บริษัทที่ดีซึ่งทุกท่านสนใจจะลงทุนนั้น ควรมียอดขายหรือการดำเนินธุรกิจที่สามารถสร้างผลประกอบการในทางบวกอย่างน้อย 3 – 5 ปีติดต่อกัน เพื่อเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงศักยภาพและอัตราการเติบโตของบริษัท โดยจะต้องมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นในอัตราสม่ำเสมอ และที่สำคัญคือ ต้องยังไม่ถึงจุดอิ่มตัว
ธุรกิจสามารถแข่งขันได้
ประเด็นสำคัญที่จะทำให้หุ้นที่คุณเลือกนั้นสามารถสร้างผลกำไรให้แก่นักลงทุนได้ ก็คือความสามารถในการแข่งขัน ดังนั้นในการพิจารณาเลือกซื้อหุ้นปันผล พื้นฐานดีนั้น ต้องพิจารณาเลือกหุ้นเพื่อการลงทุนระยะยาว โดยนักลงทุนต้องให้การคาดการณ์ล่วงหน้าเป็นประเด็นสำคัญ ทั้งนี้การมองไปถึงสภาพของธุรกิจในอนาคตว่าจะสามารถแข่งขัน การมีข้อได้เปรียบมากน้อยเพียงใด อีกทั้งต้องเป็นหุ้นของธุรกิจที่อาจจะไม่จำเป็นต้องเป็นอันดับต้น ๆ แต่ควรมีศักยภาพและมีความสามารถในการแข่งขัน ยิ่งเป็นธุรกิจที่มีคู่แข่งน้อย หรือมีกลุ่มทุนหน้าใหม่น้อยจะยิ่งส่งผลดีต่อหุ้นปันผล พื้นฐานดีที่คุณเลือกเพราะจะยิ่งมีความได้เปรียบและมีการแข่งขันที่สามารถส่งผลให้หุ้นตัวนี้ทำกำไรได้
หนี้สินไม่เยอะ
สำหรับธุรกิจใหญ่ ๆ การมีหนี้สินเป็นเรื่องที่สุดแสนจะปกติและธรรมดา แต่จำนวนและปริมาณของหนี้สินนั้นจะต้องอยู่ในระดับที่สามารถดำเนินการจัดการได้ โดยสิ่งที่พึ่งระมัดระวังสำหรับการพิจารณาหุ้นปันผล พื้นฐานดี นั้นทุกท่านจะต้องดูที่หนี้สิน ซึ่งจะต้องไม่มากเกินไป และไม่มีหนี้ระยะยาวมากเกินไป เพราะหากมีหนี้ระยะยาวมาก ปัญหาการผูกมัดเงินทุนก็จะมากและจะส่งผลให้ธุรกิจไม่สามารถเติบโตได้นั่นเอง เพราะบางบริษัทมีหนี้สะสมรุงรัง แล้วใช้วิธีการโปะหนี้เดิมด้วยการกู้หนี้ใหม่ ซึ่งจะยิ่งทำให้สถานการณ์หนักกว่าเดิม และจะก่อให้เกิดปัญหาใหญ่ได้ในอนาคต ดังนั้นหากจะเลือกหุ้นปันผล พื้นฐานดีต้องดูที่หนี้สินด้วยเช่นกัน
ผู้บริหารต้องมีวิสัยทัศน์ โปร่งใสและมีธรรมาภิบาล
เป็นสิ่งที่มีความสำคัญสูงสุดอีกประเด็นสำคัญการเลือกพิจารณาหุ้นปันผล พื้นฐานดี 2566 เพราะนักลงทุนควรเลือกบริษัทที่มีการบริหารงานที่โปร่งใส และต้องมีการดำเนินงานอย่างเปิดเผย มีความซื่อตรง ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อน ทั้งนี้ในบางกรณีจะต้องไม่มีการให้ข่าวหรือเข้ามายุ่งกับการซื้อขายหุ้นปันผล พื้นฐานดี 2566 ของบริษัทเพื่อปั่นราคาหรือเก็งกำไรมากเกินไป และต้องรวมไปถึงการให้ข่าวเชิงลบด้วยเช่นกัน
แนะนำ 10 หุ้นปันผล พื้นฐานดี 2566
STGT – บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และ STA บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน)
สำหรับนักลงทุนมือเก๋าก็อาจจะมองได้ขาด เพราะด้วยการแก้ปัญหาเกี่ยวกับเศรษฐกิจและโรคระบาดที่ไม่น่าจะจบลงง่าย ๆ ในระยะเวลาภายใน 3 – 5 ปีนี้ ส่งผลให้บริษัท ศรีตรังซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีสภาพคล่องทางการเงินเยอะ เป็นหุ้นปันผลอีกตัวที่น่าสนใจแม้อาจจะไม่ได้สร้างผลกำไรหรือมีการดำเนินการที่ดึงดูดนักลงทุนมากนัก ซึ่งหากท่านต้องการเลือกหุ้นตัวนี้มาเพื่อเก็งกำไรในระยะยาวนั้น ก็อาจจะไม่ค่อยเหมาะสมเท่าที่ควร แต่ถ้าจะถือเพื่อปันผลแล้วหล่ะก่อ หุ้น 2 ตัวนี้ก็น่าสนใจและจะสามารถสร้างผลตอบแทนได้ต่อเนื่อง
BKI – บริษัท กรุงเทพประกันภัย จำกัด (มหาชน)
ถือว่าเป็นหุ้นพื้นฐานดีที่น่าสนใจอย่างมากตัวหนึ่ง เนื่องจากการดำเนินการของบริษัทและประกอบผลการประกอบการในช่วงที่ผ่านมา สามารถสร้างความน่าเชื่อถือให้กับนักลงทุนได้อย่างน่าพอใจ ไม่ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจจะหนักและเข้าสู่โซนสีแดง ติดลบ แต่ BKI ก็ยังสามารถดำเนินการและเป็นหุ้นปันผลที่น่าสนใจอีกหนึ่งตัวเสมอ ทั้งนี้หุ้นตัวนี้แม้จะเป็นหุ้นปันผลที่สามารถเลือกได้ แต่หากคุณเป็นนักลงทุนที่มองการไกล อยากจะหาหุ้นที่ถือได้ยาว ๆ ก็สามารถพิจารณาเลือกหุ้นปันผลตัวนี้ได้ทันที สนใจสามารถเข้าศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ ที่นี่ BKI หุ้นปันผล
DIF – กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคม ดิจิทัล
หุ้นสายเทคโนโลยีอีกตัวที่นักลงทุนหลายท่านต่างจับตามอง ด้วยความจำเป็นและแนวโน้มในการพัฒนาต่อยอดธุรกิจในอนาคต ส่งผลให้บริษัทที่ดำเนินการทางด้านเทคโนโลยีมีความจำเป็นและเป็นกลไกสำคัญในการผลักดันในทุกองค์ประกอบของการดำเนินการกิจกรรมทางธุรกิจสามารถเจริญเติบโต ประกอบกับการเป็นหุ้นที่เป็นกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมรายแรกและเป็นรายใหญ่ที่สุดของประเทศไทย ย่อมเสริมสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนทุกท่านได้เป็นอย่างดี ดังนั้นหากท่านกำลังมองหาหุ้นปันผล ปีละ 4 ครั้งหรือ อย่างน้อย 1 – 2 ครั้ง DIF สามารถตอบโจทย์คุณได้แน่นอน
JASIF กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเตอร์เน็ต จัสมิน
อีกหนึ่งหุ้นปันผลที่มีความน่าสนใจ ด้วยการเป็นหนึ่งในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี ซึ่งเป็นประเด็นหลักในการมุ่งเน้นการพัฒนาส่งเสริม โดยสามารถดำเนินการและมีอัตราเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และด้วยการตั้งช่วงเวลาสำหรับการปันผลไว้ตามที่หุ้นกำหนดว่า อย่างน้อย 2 ครั้งต่อปี ในกรณีที่กองทุนรวมมีกำไรสะสมเพียงพอ ส่งผลให้หุ้นนี้เป็นอีกตัวที่หลายท่านต่างให้ความสนใจ
LH บมจ.แลนด์แอนด์เฮ้าส์
LH หรือ Land & House ที่หลายท่านคุ้นเคย เป็นบริษัทที่ดำเนินการและประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัย อยู่ในตลาดหลักทรัพย์มาแล้ว 32 ปี มาร์เกตแคปล่าสุด 96,195 ล้านบาท ราคาล่าสุด 20 ส.ค.64 ปิด 8.05 บาท +0.05 บาท หรือ +0.62% ขณะที่อัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลัง YTD +1.26% ไตรมาส 2/63 กำไร 1,394 ล้านบาท ค่า P/E 11.99 เท่า และค่า P/BV 1.93 เท่า ปันผลต่อเนื่อง 6 ปี (เกิน 5%) เรียงตามลำดับ (ปี 58-63) คือ 6.40%, 6.09 %, 6.14%, 7.58%, 7.65%, 8.81% และ YTD 6.21% ขณะที่ไตรมาส 2/64 กำไร 1,869 ล้านบาท เพิ่ม 475 ล้านบาท ขณะครึ่งปี 6M/63 กำไรสุทธิ 2,738.92 ล้านบาท ล่าสุด งบ 6M/64 กำไรสุทธิ 3,613.93 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 875.01 ล้านบาท จากยอดขายบ้านเดี่ยวที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
SIRI บมจ.แสนสิริ
SIRI อีกหนึ่งกลุ่มธุรกิจชื่อดังที่ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ด้วยความเชื่อมั่นที่เข้าร่วมในตลาดมาแล้ว 25 ปี โดยมีมูลค่าแคปล่าสุดอยูที่ 17,851 ล้านบาท ราคาล่าสุด 20 ส.ค.64 ปิด 1.20 บาท +0.02 บาท หรือ +1.69% ขณะที่อัตราผลตอบแทนจากราคาย้อนหลัง YTD +48.15% ไตรมาส 2/63 กำไร 258ล้านบาท ค่า P/E 7.44 เท่า และค่า P/BV 0.47 เท่า ปันผลต่อเนื่อง 6 ปี (เกิน 5%) เรียงตามลำดับ (ปี 58-63) คือ 7.89%, 7.23%, 5.29%, 10.18%, 11.31%, 9.40% และปี 64 YTD +3.33% ขณะที่ไตรมาส 2/64 กำไร 661 ล้านบาท เพิ่ม 403 ล้านบาท ส่วนครึ่งปี 6M/63 กำไรสุทธิ 320.05 ล้านบาท ล่าสุด งบ 6M/64 กำไรสุทธิ 1,045.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 725.84 ล้านบาท หรือโตขึ้น 227% จากผลงานยอดขายที่เพิ่มขึ้น
MFEC บริษัท เอ็ม เอฟ อี ซี จำกัด (มหาชน)
MFEC ดำเนินการประกอบธุรกิจพัฒนางานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศแบบครบวงจร ด้วยมูลค่าในตลาดล่าสุดตั้งแต่อยู่ในตลาดนี้มา ร่วม 18 ปี กว่า 2,737 ล้านบาท เป็นอีกหุ้นปันผลที่น่าสนใจและน่าจับตามอง
TASCO บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน)
จากผลการดำเนินการใช้ช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 ส่งผลให้การจัดงบประมาณเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐและเอกชน พร้อมส่งเสริมให้การดำเนินการรับ supply ที่เกี่ยวข้องการภาคการขนส่งโดยเฉพาะน้ำมันนั้นเป็นส่วนสำคัญในการดำเนินธุรกิจ และถึงแม้ว่าทางบริษัทจะมีการหยุดซ่อมบำรุงโรงกลั่นในไตรมาสแรก แต่ผลการดำเนินงานก้ยังสามารถสร้างแรงบวกให้กับหุ้นปันผลของบริษัทได้อย่างต่อเนื่อง ดังนั้นหากทุกท่านสนใจหุ้นตัวนี้ ก็สมารถถือได้ต่อไป
TISCO บรัษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียนกรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
การเลือกลงทุนในตลาดหุ้นเป็นสิ่งที่หลายท่านกำลังมองหาและต้องการเสริมสร้างผลกำไรในระยะยาว โดยทุกท่านที่กำลังมองหาหุ้นปันผลน่าลงทุนในปี 2566 สามารถพิจารณาถือหุ้นปันผล พื้นฐานดี 2566 ตัวนี้ได้ โดยแนะนำให้ดำเนินการซื้อขายอยู่ในระยะสั้นและหากท่านจะถือต่อไปในระยะยาวก็สามารถพิจารณารายละเอียดด้านการลงทุนต่อเนื่องได้ เพราะด้วยสถานการณ์ของเศรษฐกิจในช่วงหลังโควิด ทุกภาคส่วนยังคงต้องพึ่งพาธุรกิจไฟแนนซ์ไปอีกระยะใหญ่ ๆ