รวมหนี้เป็นก้อนเดียวธนาคารไหนดี 2568

หนี้หลายทาง—บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อบุคคล—ทำให้หลายคนเจอปัญหาหนักใจ: ดอกเบี้ยสูง ผ่อนหลายเจ้า สับสนว่าต้องจ่ายใครก่อนหลัง บทความนี้จะพาคุณสำรวจวิธี “รวมหนี้เป็นก้อนเดียว” ผ่าน สินเชื่อรวมหนี้ ของธนาคารและสถาบันการเงินในปี 2568 ที่ถูกกฎหมาย ปลอดภัย และช่วยลดดอกเบี้ยได้จริง

เราจะลงรายละเอียดอย่างน้อย 5 สินเชื่อรวมหนี้ที่น่าสนใจ เงื่อนไข จุดเด่น จุดควรระวัง พร้อมถาม–ตอบท้ายบทความ เพื่อให้คุณเลือกเส้นทางที่ใช่ที่สุดสำหรับสถานการณ์การเงินของคุณ

ทำไมต้อง “รวมหนี้เป็นก้อนเดียว”

  1. ลดดอกเบี้ยรวม: หนี้บัตรเครดิตดอกเบี้ยสูงถึง 16% ต่อปี บัตรกดเงินสดก็ 25% หากรวมหนี้เข้าสินเชื่อที่ดอกถูกกว่า เช่น 9–12% ต่อปี จะช่วยประหยัดได้มหาศาล

  2. ผ่อนเป็นระบบ: จากต้องผ่อนหลายเจ้ากลายเป็นเจ้าเดียว ผ่อนต่อเดือนสบายขึ้น ไม่สับสน

  3. เพิ่มโอกาสปิดหนี้ได้จริง: เมื่อค่างวดลดลง สภาพคล่องดีขึ้น โอกาสปิดหนี้ทั้งหมดก็มากขึ้น

  4. เครดิตดีขึ้นในระยะยาว: เมื่อจัดการหนี้ได้เรียบร้อย คะแนนเครดิตบูโรจะค่อยๆ ฟื้น

5 สินเชื่อรวมหนี้ที่น่าสนใจในปี 2568

1) โครงการ “คลินิกแก้หนี้” โดยแบงก์ชาติ (Debt Clinic by SAM)

  • เหมาะกับ: ผู้มีหนี้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อส่วนบุคคลกับธนาคาร/นอนแบงก์

  • วงเงิน/ดอกเบี้ย: รวมยอดหนี้ทั้งหมดเป็นก้อนเดียว ดอกเบี้ยคงที่ 5–7% ต่อปี ต่ำกว่าปกติหลายเท่า

  • ผ่อนสูงสุด: 10 ปี

  • ข้อดี: ดอกเบี้ยถูกมาก และไม่ต้องเจรจาเอง

  • ข้อควรดู: ต้องเป็นหนี้เสีย (NPL) ก่อนถึงจะเข้าร่วมได้


2) สินเชื่อรวมหนี้ SCB Refinance / SCB Speedy Loan

  • เหมาะกับ: ลูกค้าไทยพาณิชย์ที่มีหนี้บัตรเครดิตหรือสินเชื่อหลายแห่ง

  • วงเงิน/ดอกเบี้ย: สูงสุด 5 เท่าของรายได้ (ไม่เกิน 2 ล้านบาท) ดอกเบี้ยเริ่มต้น 9.99% ต่อปี

  • ผ่อนสูงสุด: 72 งวด

  • ข้อดี: อนุมัติไว ใช้ e-KYC ผ่านแอป SCB Easy ได้

  • ข้อควรดู: ต้องมีรายได้ประจำสม่ำเสมอ และเครดิตยังไม่เสีย


3) Krungthai Debt Consolidation (ธนาคารกรุงไทย)

  • เหมาะกับ: ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ พนักงานบริษัทเอกชน

  • วงเงิน/ดอกเบี้ย: วงเงินสูงสุด 5 เท่าของรายได้ ดอกเบี้ยเริ่มต้นราว 8.99% ต่อปี

  • ผ่อนสูงสุด: 10 ปี

  • ข้อดี: เป็นธนาคารรัฐ ดอกเบี้ยไม่สูงเกินไป ผ่อนสบาย

  • ข้อควรดู: เอกสารมากกว่าเอกชนบ้าง และต้องมีเครดิตยังดี


4) CIMB Thai Extra Cash / สินเชื่อรวมหนี้ CIMB

  • เหมาะกับ: พนักงานประจำที่ต้องการลดค่างวดลงจริงๆ

  • วงเงิน/ดอกเบี้ย: สูงสุด 1.5 ล้านบาท ดอกเบี้ยเฉลี่ย 9–12%

  • ผ่อนสูงสุด: 84 เดือน

  • ข้อดี: มีโปรโมชั่นโอนหนี้ดอกเบี้ย 0% ช่วง 6 เดือนแรกในบางแคมเปญ

  • ข้อควรดู: ต้องตรวจสอบคุณสมบัติ และเตรียมสลิปเงินเดือนต่อเนื่อง


5) UOB i-Cash Debt Consolidation

  • เหมาะกับ: คนที่มีหนี้บัตรเครดิตหลายใบ อยากรวมเป็นก้อนเดียว

  • วงเงิน/ดอกเบี้ย: ดอกเบี้ยเริ่ม 9.99% ต่อปี

  • ผ่อนสูงสุด: 60 เดือน

  • ข้อดี: ดอกเบี้ยโปร่งใส จ่ายค่างวดเดียวต่อเดือน

  • ข้อควรดู: เงื่อนไขวงเงินและเอกสารต้องครบถ้วน อาจเข้มงวดเรื่องประวัติเครดิต


6) KBank Xpress Loan (โอนหนี้)

  • เหมาะกับ: ผู้ที่ใช้บัญชีธนาคารกสิกรไทย และมีเครดิตยังไม่เสีย

  • วงเงิน/ดอกเบี้ย: วงเงินสูงสุด 5 เท่ารายได้ ดอกเบี้ย 9.75–17% ต่อปี

  • ผ่อนสูงสุด: 60 เดือน

  • ข้อดี: สมัครผ่าน K PLUS ได้สะดวก ไม่ต้องไปสาขา

  • ข้อควรดู: หากภาระหนี้เกิน 70% ของรายได้ต่อเดือน อาจอนุมัติยาก

สิ่งที่ควรรู้ก่อน “รวมหนี้เป็นก้อนเดียว 2568”

  • ไม่ได้ฟรีดอกเบี้ย: แม้ดอกจะต่ำลง แต่ยังมีภาระ ต้องวางแผนผ่อนจริงจัง

  • อย่ากู้เพิ่ม: หลายคนพอค่างวดลดลงกลับไปสร้างหนี้ใหม่ สุดท้ายหนักกว่าเดิม

  • ตรวจสอบใบอนุญาต: ต้องเป็นธนาคาร/สถาบันการเงินที่อยู่ภายใต้ ธปท.

  • เช็กค่าใช้จ่ายแฝง: เช่น ค่าปรับปิดก่อนกำหนด ค่าธรรมเนียมโอนหนี้

ขั้นตอนการขอ “สินเชื่อรวมหนี้”

  1. เช็กยอดหนี้ทั้งหมด: รวบรวม statement จากทุกเจ้า

  2. เลือกธนาคาร/โครงการ: เทียบดอกเบี้ย ระยะเวลาผ่อน เงื่อนไขเอกสาร

  3. เตรียมเอกสาร: บัตรประชาชน สลิปเงินเดือน/หนังสือรับรอง รายการเดินบัญชี

  4. ยื่นสมัคร: ออนไลน์หรือสาขา

  5. รออนุมัติ/โอนหนี้: ธนาคารจะปิดหนี้กับเจ้าหนี้เดิม แล้วรวมเป็นก้อนเดียว

ถาม–ตอบ: รวมข้อสงสัยยอดฮิต

ถาม 1: รวมหนี้เป็นก้อนเดียว ต้องเป็นหนี้เสียก่อนหรือไม่?
ตอบ: ไม่จำเป็น หากเครดิตยังดีสามารถทำโครงการโอนหนี้/สินเชื่อรวมหนี้ได้เลย แต่ถ้าเป็นหนี้เสียแล้ว ต้องใช้ “คลินิกแก้หนี้”

ถาม 2: สินเชื่อรวมหนี้ดอกเบี้ยถูกกว่าเสมอไหม?
ตอบ: ส่วนใหญ่ถูกกว่าบัตรเครดิต แต่ต้องเปรียบเทียบจริง บางรายอาจไม่ต่างมากถ้าเครดิตไม่ดี

ถาม 3: ถ้ารายได้ไม่แน่นอน ทำรวมหนี้ได้หรือไม่?
ตอบ: ส่วนใหญ่ธนาคารเน้นผู้มีรายได้ประจำ แต่บางสินเชื่อ (เช่น นาโนไฟแนนซ์) อาจยืดหยุ่น แต่ดอกเบี้ยสูงกว่า

ถาม 4: รวมหนี้แล้วบูโรจะดีขึ้นไหม?
ตอบ: ใช่ ถ้าผ่อนตามกำหนด ไม่มีค้างชำระ คะแนนเครดิตจะฟื้นเรื่อยๆ

ถาม 5: ถ้าเงินเดือนน้อยกว่าหนี้รวม ควรทำไหม?
ตอบ: ถ้ารายได้ต่อเดือนน้อยกว่า 1/3 ของยอดผ่อน ก็ยังมีความเสี่ยงสูง ควรปรึกษาโครงการปรับโครงสร้างหนี้ของธนาคาร

ถาม 6: ปิดก่อนกำหนดได้ไหม?
ตอบ: ส่วนใหญ่ทำได้ แต่บางธนาคารอาจมีค่าธรรมเนียมเล็กน้อย

ถาม 7: โดนโทรทวงหนี้ทุกวัน ทำรวมหนี้จะช่วยได้ไหม?
ตอบ: ช่วยได้ เพราะธนาคารจะปิดหนี้ก้อนเดิม แล้วคุณมีแค่เจ้าหนี้รายเดียว

ถาม 8: ใช้เวลานานไหมกว่าจะได้เงิน?
ตอบ: ถ้าเอกสารครบ ใช้เวลา 3–7 วันทำการ แต่ถ้าโครงการ “คลินิกแก้หนี้” อาจนานกว่า

ถาม 9: สามารถโอนหนี้จากนอนแบงก์มาที่ธนาคารได้ไหม?
ตอบ: ได้ ถ้าเป็นหนี้บัตรเครดิต/บัตรกดเงินสดของนอนแบงก์ที่เข้าร่วมโครงการ

ถาม 10: มีหนี้นอกระบบ ทำรวมหนี้ได้ไหม?
ตอบ: โดยตรงไม่ได้ เพราะธนาคารไม่รองรับหนี้นอกระบบ ต้องหาทางปิดเองก่อน

การ “รวมหนี้เป็นก้อนเดียว” ในปี 2568 ไม่ใช่เพียงการย้ายหนี้ แต่คือ การวางระบบการเงินใหม่ ให้เบาขึ้น ชัดขึ้น และมีโอกาสปิดหนี้ได้จริง ถ้าเลือกสินเชื่อที่เหมาะสม เช่น คลินิกแก้หนี้ SCB Speedy Loan Krungthai Debt Consolidation CIMB UOB i-Cash หรือ KBank Xpress Loan

สิ่งสำคัญคือ อย่าหลงกับดอกเบี้ยต่ำจนสร้างหนี้ใหม่ซ้ำ ควรใช้โอกาสนี้ปรับพฤติกรรมการเงิน และเริ่มต้นสร้างเครดิตใหม่ เพื่อให้ปี 2568 เป็นจุดเปลี่ยนจาก คนเป็นหนี้หลายก้อน ไปสู่ คนที่เหลือแค่ก้อนเดียว และพร้อมปิดจบได้จริง