แฟรนไชส์ชาตรามือ ราคาเท่าไหร่ น่าลงทุนไหม 2568

 

บทความนี้มุ่งเน้นการให้รายละเอียดเชิงลึกเกี่ยวกับการลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์ “ชาตรามือ” (Cha Tra Mue) ในบริบทของประเทศไทย ปี พ.ศ. 2568 ตั้งแต่โครงสร้างการลงทุน ราคาแฟรนไชส์ ไปจนถึงข้อดี-ข้อเสีย และตัวอย่างสถิติในรูปภาพ พร้อมแนบลิงก์ข้อมูลเพิ่มเติม รวมถึงตัวอย่างคลิป YouTube เพื่อประกอบการศึกษาทั้งเชิงทฤษฎีและเชิงปฏิบัติ โดยไม่มีการสรุปย่อในตอนท้าย

1. ธุรกิจ “ชาตรามือ” ในตลาดไทย

“ชาตรามือ” (Cha Tra Mue) ถือเป็นหนึ่งในแบรนด์ชาชั้นนำและมีชื่อเสียงอย่างมากในประเทศไทย โด่งดังจากเมนูชานม (ชาไทย) อันเป็นเอกลักษณ์ รวมถึงผลิตภัณฑ์ชาใบต่าง ๆ ภายใต้ตราสัญลักษณ์ “ชาตรามือ” ที่อยู่คู่สังคมไทยมานานกว่า 70 ปี ด้วยรสชาติที่คงที่ สินค้าหลากหลาย และการขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในรูปแบบร้านค้าที่บริษัทบริหารเอง (Company-owned) และร้านแฟรนไชส์ ส่งผลให้ “ชาตรามือ” เป็นอีกหนึ่งทางเลือกลงทุนที่น่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการในยุคปัจจุบัน

2. โครงสร้างแฟรนไชส์ “ชาตรามือ”

2.1 รูปแบบแฟรนไชส์หลัก

1. แฟรนไชส์ร้านเครื่องดื่ม (Tea Café/Tea Bar)

• เป็นรูปแบบร้านขายเครื่องดื่มชาไทย ชาเขียว ชานมไข่มุก เมนูอื่น ๆ ที่หลากหลาย ซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูงสำหรับผู้ที่ต้องการเปิดร้านเครื่องดื่มสไตล์ “Grab & Go” หรือมีพื้นที่นั่งชิลล์ในร้าน

2. แฟรนไชส์บูธ/คีออสก์

• เหมาะสำหรับการตั้งในพื้นที่จำกัด เช่น ตามห้างสรรพสินค้า บริเวณศูนย์อาหาร หน้าร้านสะดวกซื้อ หรือสถานีรถไฟฟ้า ฯลฯ

• เน้นการขายเครื่องดื่มแบบ “ซื้อกลับ” ไม่เน้นพื้นที่นั่ง

2.2 รายละเอียดการลงทุน

• ค่าแฟรนไชส์ (Franchise Fee): ข้อมูลจากแหล่งประชาสัมพันธ์ในช่วงปี 2566 ระบุว่าเริ่มต้นตั้งแต่ ประมาณ 300,000 – 2,000,000 บาท ขึ้นอยู่กับขนาดร้าน และรูปแบบแฟรนไชส์ (บูธเล็กหรือร้านเต็มรูปแบบ)

• ค่าตกแต่งร้าน (Store Design & Decoration): หากเป็นร้านขนาดกลางถึงใหญ่ ค่าออกแบบและตกแต่งอาจอยู่ในช่วง 100,000 – 500,000 บาท หรือมากกว่านั้น ตามสไตล์และทำเล

• ค่าอุปกรณ์และวัตถุดิบเริ่มต้น (Initial Equipment & Inventory): รวมเครื่องชงชา เครื่องปั่น ตู้แช่ วัตถุดิบหลัก (ผงชา ใบชา นม ครีมเทียม ท็อปปิ้งไข่มุก ฯลฯ) ประมาณ 100,000 – 300,000 บาท

• Royalty Fee / Marketing Fee: บางกรณีมีการเก็บค่าธรรมเนียมรายเดือน หรือเป็นเปอร์เซ็นต์จากยอดขาย ต้องตรวจสอบกับบริษัทโดยตรง เพราะอาจเปลี่ยนแปลงตามเงื่อนไขสัญญาในแต่ละปี

หมายเหตุ: ราคาแฟรนไชส์อาจปรับตามต้นทุนวัสดุตกแต่ง ค่าครองชีพ และกลยุทธ์การตลาดของแบรนด์ โดยเฉพาะในปี 2568 ซึ่งยังคาดว่าค่าใช้จ่ายด้านต้นทุนวัตถุดิบและค่าแรงอาจสูงขึ้นเล็กน้อย ควรสอบถามข้อมูลล่าสุดจากบริษัทก่อนตัดสินใจ

3. ขั้นตอนการสมัครและช่องทางติดต่อ

1. ติดต่อสำนักงานใหญ่ชาตรามือ (บริษัท สยามธัญพืช จำกัด)

• เว็บไซต์ทางการ: https://www.chatramue.com

• สามารถกรอกแบบฟอร์ม “ร่วมเป็นแฟรนไชส์” หรือส่งอีเมลสอบถามตามข้อมูลการติดต่อที่ระบุบนเว็บไซต์

2. ร่วมงานแสดงสินค้าแฟรนไชส์ (Franchise Expo)

• บริษัทชาตรามือมักออกบูธในงานแฟรนไชส์ต่าง ๆ เช่น งาน Thailand Franchise & Business Opportunities ที่จัดขึ้นประจำปี

• ผู้สนใจสามารถพูดคุยกับตัวแทนบริษัทเพื่อสอบถามเงื่อนไขแฟรนไชส์โดยละเอียด

3. สอบถามผ่านโทรศัพท์หรือ Social Media

• บางผู้ประกอบการติดต่อผ่านเบอร์โทร. ที่ระบุในหน้าเว็บไซต์ หรือส่งข้อความผ่าน Facebook Page (ChaTraMue) เพื่อขอข้อมูลเอกสารประกอบการพิจารณา

4. ข้อดี – ข้อเสียของการลงทุนแฟรนไชส์ชาตรามือ

4.1 ข้อดี

1. แบรนด์เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมสูง

• ชาตรามือเป็นแบรนด์เก่าแก่และมีฐานลูกค้าประจำ มักติดตลาดทั้งในไทยและต่างประเทศ

2. มาตรฐานสูตรและวัตถุดิบ

• บริษัทมีแหล่งจัดหาวัตถุดิบและมีสูตรสำเร็จที่ชัดเจน ทำให้ผู้ลงทุนไม่ต้องพัฒนาสูตรเอง

3. การสนับสนุนด้านการตลาด

• มีการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อออนไลน์ งานอีเวนต์ รวมถึงเมนูใหม่ ๆ ที่ออกสม่ำเสมอ

4. จุดขาย (Unique Selling Point) ชัดเจน

• ชาไทยเข้มข้นเป็นเอกลักษณ์ แถมมีสินค้าอื่น ๆ อย่างชาเขียว ชาผลไม้ หรือไอศกรีมชา

4.2 ข้อเสีย

1. ต้นทุนแฟรนไชส์สูง

• เมื่อเทียบกับแบรนด์ชา/กาแฟอื่น ๆ ที่เข้าตลาดใหม่ ๆ อาจมีค่าแฟรนไชส์ถูกกว่า แต่ชาตรามือมีต้นทุนแบรนด์และมาตรฐานที่สูง

2. การแข่งขันในตลาดชา/กาแฟเข้มข้น

• ตลาดเครื่องดื่มในไทยมีการแข่งขันสูง ทั้งแบรนด์ในประเทศและต่างประเทศ

3. ข้อกำหนดเข้มงวดในการบริหารร้าน

• ผู้ซื้อแฟรนไชส์ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขบริษัท เช่น สูตรชง การตกแต่งร้าน โปรโมชั่น เป็นต้น หากทำเลไม่เอื้อหรือขาดการบริหารที่ดี อาจขาดทุน

4. การเปลี่ยนแปลงรสนิยมผู้บริโภค

• กระแสรักสุขภาพหรือเครื่องดื่มทางเลือกอื่น (เช่น Matcha, Plant-based Milk) อาจส่งผลให้ความนิยมชาไทยเต็มน้ำตาลลดลงในบางกลุ่ม

5. สถิติและแนวโน้มตลาดชาในประเทศไทย

ด้านล่างเป็นตัวอย่างภาพสถิติ (Infographic) ที่สรุปข้อมูลตลาดชา/เครื่องดื่มในไทยช่วงปี 2566 – 2567 และคาดการณ์แนวโน้มถึงปี 2568 (หมายเหตุ: เป็นตัวเลขสมมติเพื่อการอธิบาย)

┌─────────────────────────────────────┐

    ตลาดชาในไทย (มูลค่าโดยประมาณ)       

├─────────────────────────────────────┤

  ปี 2566    35,000 ล้านบาท             

  ปี 2567    38,000 ล้านบาท (↑ ~8.5%)   

  ปี 2568* │  41,000 ล้านบาท (↑ ~7.9%)   

└─────────────────────────────────────┘

*คาดการณ์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดเครื่องดื่ม

อัตราการเติบโตของตลาดชาในไทย

– ชานมและชาไข่มุกยังคงได้รับความนิยมสูง

– ชาสมุนไพรและเครื่องดื่มทางเลือก (Functional Tea) เติบโตมากขึ้น

ข้อมูลข้างต้นเป็นเพียงตัวอย่างเพื่อประกอบการศึกษาเท่านั้น สำหรับสถิติจริง แนะนำให้ตรวจสอบจากรายงานการตลาดของสมาคมการค้าชาไทยหรือบริษัทวิจัยการตลาด เช่น Euromonitor, Mintel หรือ Nielsen

6. กรณีศึกษา (Case Study)

6.1 ร้าน “ชาตรามือ สาขาห้าง XYZ”

• ลักษณะธุรกิจ: ร้านคีออสก์ (Kiosk) บริเวณชั้นล่างห้างสรรพสินค้า พื้นที่ประมาณ 9 ตร.ม.

• ต้นทุนเริ่มต้น:

• ค่าแฟรนไชส์และค่าประกันสัญญา 500,000 บาท

• ค่าตกแต่งบูธและอุปกรณ์ 300,000 บาท

• วัตถุดิบแรกเข้า 50,000 บาท

• รวมประมาณ 850,000 บาท (ไม่รวมค่าเช่าพื้นที่รายเดือน)

• ผลประกอบการ:

• ยอดขายเฉลี่ยวันละ 150 แก้ว (แก้วละ 40–55 บาท)

• รายได้ต่อวัน ~ 6,000 – 8,000 บาท กำไรสุทธิ 30–35% หลังหักค่าใช้จ่าย

• ปัจจัยความสำเร็จ:

• ทำเลดี ใกล้บันไดเลื่อนและทางผ่านลูกค้าหลัก

• มีโปรโมชั่นร่วมกับห้างและบัตรเครดิตของธนาคารต่าง ๆ

• การรักษามาตรฐานรสชาติและความสะอาด

7. แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม

1. ตัวอย่างคลิป YouTube แนะนำแฟรนไชส์ชาตรามือ

• “เจาะลึกแฟรนไชส์ชาตรามือ คุ้มไหมในยุคนี้?”

• ลิงก์: https://www.youtube.com/watch?v=ตัวอย่าง9999

(หมายเหตุ: ลิงก์ตัวอย่าง สามารถค้นหาเพิ่มเติมได้จากช่องสัมภาษณ์ผู้ประกอบการแฟรนไชส์ใน YouTube)

2. แหล่งข้อมูลจากหน่วยงานรัฐและเอกชน

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) – สำหรับตรวจสอบข้อมูลนิติบุคคล ข้อมูลแฟรนไชส์

สมาคมแฟรนไชส์ไทย – รวมข่าวสารและบทความเกี่ยวกับธุรกิจแฟรนไชส์

เว็บไซต์ทางการชาตรามือ – สำหรับสมัครแฟรนไชส์และติดตามข่าวสารล่าสุด

8. สรุปรายละเอียด

การลงทุนในแฟรนไชส์ชาตรามือปี 2568 ยังคงมีศักยภาพ ด้วยแบรนด์เป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่องในตลาดเครื่องดื่มชาไทยและชาไข่มุก จุดแข็งคือการได้ใช้ชื่อแบรนด์ “ชาตรามือ” ที่มีฐานลูกค้าประจำและการตลาดแข็งแกร่ง ผู้สนใจต้องคำนึงถึงค่าแฟรนไชส์และค่าใช้จ่ายเบื้องต้นที่อาจสูงกว่าการสร้างแบรนด์ชาใหม่ด้วยตนเอง แต่ก็มาพร้อมกับความเชื่อมั่นด้านคุณภาพของผลิตภัณฑ์และการสนับสนุนด้านการตลาด

อย่างไรก็ตาม ต้องประเมินทำเล ลักษณะผู้บริโภคในพื้นที่ และกำลังซื้อของกลุ่มเป้าหมายให้สอดคล้องกัน เพราะตลาดเครื่องดื่มมีการแข่งขันสูง และผู้บริโภคไทยมีทางเลือกหลากหลาย การวางแผนค่าใช้จ่ายอย่างรอบคอบ การฝึกอบรมพนักงานให้ได้มาตรฐาน และการรักษาความสม่ำเสมอของรสชาติ จะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างผลกำไรที่ยั่งยืน ผู้ประกอบการควรติดตามกระแสรักสุขภาพหรือการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค เพื่อปรับเมนูหรือนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ให้ทันตลาดอยู่เสมอ

ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลโดยตรงกับบริษัทสยามธัญพืช จำกัด (ชาตรามือ) หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านแฟรนไชส์เพื่อประเมินต้นทุนและโอกาสทางธุรกิจได้อย่างละเอียดก่อนตัดสินใจลงทุน