
การเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวถือเป็นหนึ่งในธุรกิจยอดฮิตของคนไทย เนื่องจากก๋วยเตี๋ยวเป็นเมนูอาหารจานด่วนที่ได้รับความนิยมต่อเนื่อง มีการปรับสูตรให้หลากหลาย สร้างเอกลักษณ์ได้ง่าย และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่ต้องการอาหารอร่อย รวดเร็ว และราคาจับต้องได้ ในปี พ.ศ. 2568 ธุรกิจร้านก๋วยเตี๋ยวก็ยังคงมีศักยภาพและโอกาสเติบโต ทั้งในกลุ่มร้านสตรีทฟู้ดและร้านแบบแฟรนไชส์ บทความนี้จะพาผู้อ่านลงลึกถึงการลงทุนร้านก๋วยเตี๋ยวในบริบทไทย ตั้งแต่ประมาณการต้นทุนที่ต้องใช้ รายละเอียดการเตรียมความพร้อม แนะนำแฟรนไชส์น่าสนใจ พร้อมข้อมูลติดต่อ และตัวอย่างผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จ
1. ภาพรวมธุรกิจร้านก๋วยเตี๋ยวในไทยปี 2568
1. ความนิยมของเมนูก๋วยเตี๋ยว
• ก๋วยเตี๋ยวเป็นอาหารพื้นฐานที่คนไทยคุ้นเคยมานาน ทุกภูมิภาคมีสูตรและรสชาติเฉพาะตัว เช่น ก๋วยเตี๋ยวเรือ ก๋วยเตี๋ยวต้มยำ ก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น ฯลฯ
• ด้วยความหลากหลายและราคาที่ไม่สูงเกินไป ร้านก๋วยเตี๋ยวจึงเข้าถึงผู้บริโภคได้หลายกลุ่ม ตั้งแต่วัยเรียน วัยทำงาน ไปจนถึงครอบครัว
2. ความได้เปรียบของธุรกิจ
• วัตถุดิบหลักสามารถจัดหาได้ง่ายตามตลาดหรือซัพพลายเออร์ทั่วไทย เช่น เส้นก๋วยเตี๋ยว หมู เนื้อ เครื่องปรุงต่าง ๆ
• สามารถปรับขนาดร้านได้ตามงบประมาณ ตั้งแต่รถเข็นเล็ก ๆ ไปจนถึงร้านในห้างสรรพสินค้า หรือเปิดหน้าบ้านเป็นร้านเล็ก ๆ
• ตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภคที่ใช้ชีวิตเร่งรีบ อาหารอร่อยและเสิร์ฟเร็ว
3. ความท้าทายและการแข่งขัน
• ตลาดร้านก๋วยเตี๋ยวมีผู้เล่นจำนวนมาก ทั้งรายใหญ่และรายย่อย จึงต้องมีจุดขายเฉพาะ เช่น สูตรน้ำซุป เมนูเส้นใหม่ ๆ วัตถุดิบพรีเมียม หรือการตกแต่งร้านให้ดึงดูดลูกค้า
• ค่าครองชีพและราคาวัตถุดิบที่อาจเพิ่มขึ้นทำให้ต้องบริหารต้นทุนอย่างเหมาะสม
2. การวางแผนและประมาณการค่าใช้จ่ายในการเปิดร้านก๋วยเตี๋ยว
ค่าใช้จ่ายของการเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวจะแตกต่างไปตามขนาดร้าน ทำเล อุปกรณ์ และรูปแบบการบริหาร (เปิดเอง vs. เข้าร่วมแฟรนไชส์) ทั้งนี้สามารถแบ่งต้นทุนหลักได้ดังนี้
2.1 ต้นทุนคงที่ (Fixed Cost)
1. ค่าเช่าพื้นที่ / ค่าปรับปรุงสถานที่
• หากไม่มีพื้นที่เป็นของตนเอง จำเป็นต้องเช่าพื้นที่หรืออาคารเพื่อเปิดร้าน ค่าเช่าจะขึ้นอยู่กับทำเล เช่น ทำเลใกล้มหาวิทยาลัยหรือแหล่งออฟฟิศอาจมีราคาสูงกว่าทำเลชานเมือง
• ในกรณีต้องปรับปรุงอาคาร ระบบครัว หรือทำครัวเพิ่มเติม อาจต้องใช้งบประมาณ 20,000 – 100,000 บาท ขึ้นไปตามขนาดร้าน
2. ค่าวัสดุอุปกรณ์หลัก
• เตาแก๊ส เตาถ่าน หรือตู้อุ่นน้ำซุป
• หม้อก๋วยเตี๋ยว (หม้อแบ่งช่อง) ขนาดตั้งแต่ 32 – 36 ซม. หรือใหญ่กว่านั้นตามจำนวนลูกค้า
• โต๊ะ เก้าอี้ เคาน์เตอร์สำหรับเก็บวัตถุดิบ
• ตู้เย็นหรือตู้แช่แข็งสำหรับเก็บเนื้อสัตว์และวัตถุดิบสด
• งบประมาณอาจเริ่มต้นที่ 20,000 – 50,000 บาท สำหรับร้านเล็ก ๆ ไปจนถึง 100,000 บาทขึ้นไปสำหรับร้านขนาดกลาง-ใหญ่
3. ค่าตกแต่งร้านและอุปกรณ์เสริม
• ป้ายร้าน ไฟประดับ เมนู โต๊ะเคาน์เตอร์ จานชาม ฯลฯ
• เริ่มต้นประมาณ 5,000 – 30,000 บาท หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับความต้องการตกแต่ง
2.2 ต้นทุนผันแปร (Variable Cost)
1. ค่าวัตถุดิบต่อวัน / ต่อเดือน
• ประกอบด้วย เนื้อสัตว์ ผัก เส้นก๋วยเตี๋ยว น้ำซุป เครื่องปรุง ฯลฯ
• หากขายเฉลี่ยวันละ 50 – 80 ชาม งบวัตถุดิบจะอยู่ราว 15,000 – 25,000 บาท ต่อเดือน (สำหรับร้านเล็ก)
• หากขายได้มากกว่านี้ หรือต้องการใช้วัตถุดิบคุณภาพสูง งบจะปรับเพิ่มตามสัดส่วน
2. ค่าแรงพนักงาน (ถ้ามี)
• ร้านขนาดเล็กอาจดูแลเอง หรือจ้างผู้ช่วย 1 คน โดยให้ค่าแรงขั้นต่ำ 10,000 – 12,000 บาทต่อเดือน
• ร้านขนาดใหญ่หรือเปิดหลายช่วงเวลา อาจต้องมีพนักงาน 2 – 3 คน
3. ค่าน้ำ-ค่าไฟ-ค่าแก๊ส
• ค่าแก๊สขึ้นอยู่กับปริมาณการต้มซุปและผัดเครื่องปรุง ส่วนใหญ่เฉลี่ย 1 – 2 ถังต่อเดือน (ถังละ 300 – 400 บาท)
• ค่าน้ำ-ไฟ เฉลี่ยเดือนละ 1,500 – 3,000 บาท สำหรับร้านเล็ก
4. ค่าการตลาดและประชาสัมพันธ์
• ป้ายโฆษณา ใบปลิว หรือโปรโมตออนไลน์ (Facebook, Line) ประมาณ 500 – 2,000 บาทต่อเดือน (ขึ้นกับรูปแบบ)
2.3 สรุปตัวอย่างประมาณการลงทุนร้านก๋วยเตี๋ยวเปิดเอง (ไม่ใช่แฟรนไชส์) ขนาดเล็ก
รายการ |
งบประมาณ (บาท) |
1. ค่าเช่าพื้นที่และปรับปรุง (ช่วงเริ่มต้น) |
20,000 – 50,000 |
2. เตาแก๊ส + หม้อก๋วยเตี๋ยว + อุปกรณ์ครัว |
20,000 – 40,000 |
3. ตู้เย็น, ตู้แช่, โต๊ะ-เก้าอี้, จาน-ชาม |
10,000 – 30,000 |
4. ตกแต่งร้านและป้าย |
5,000 – 20,000 |
5. วัตถุดิบเบื้องต้นในช่วงแรก (1 สัปดาห์) |
5,000 – 10,000 |
6. ค่าการตลาดและอื่น ๆ (เอกสาร, ใบอนุญาต) |
3,000 – 5,000 |
รวม (ช่วงลงทุนตั้งต้น) |
63,000 – 155,000 |
(หมายเหตุ: เป็นเพียงตัวอย่างค่าใช้จ่าย ซึ่งอาจเพิ่มขึ้นหรือลดลงตามเงื่อนไขจริงของผู้ลงทุน)
3. การเข้าร่วมแฟรนไชส์ก๋วยเตี๋ยว: ข้อดี ข้อควรพิจารณา และตัวอย่างแบรนด์
การเข้าร่วมแฟรนไชส์เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยลดเวลาในการสร้างแบรนด์เอง มีการสนับสนุนจากแฟรนไชส์ซอร์ ทั้งด้านสูตรการปรุง การคัดสรรวัตถุดิบ การตกแต่งร้าน ไปจนถึงการทำการตลาด อย่างไรก็ตามมักมีค่าแฟรนไชส์และค่าธรรมเนียมอื่น ๆ ที่ผู้ลงทุนต้องจ่าย
3.1 ข้อดีของการเข้าร่วมแฟรนไชส์ก๋วยเตี๋ยว
1. แบรนด์และสูตรน้ำซุปพร้อมใช้
• ไม่ต้องลองผิดลองถูกในการพัฒนาสูตรเอง แฟรนไชส์จะมีมาตรฐานรสชาติที่ลูกค้าคุ้นเคย
• ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคได้รวดเร็ว
2. การฝึกอบรมและให้คำปรึกษา
• แฟรนไชส์ซอร์มักมีหลักสูตรอบรมพนักงาน การเลือกวัตถุดิบ การปรุงรส และการบริหารจัดการต้นทุน
• ลดความเสี่ยงในการทำธุรกิจครั้งแรก
3. การสนับสนุนด้านการตลาดและประชาสัมพันธ์
• แฟรนไชส์ขนาดใหญ่มีการทำโฆษณา โปรโมชัน หรือสื่อออนไลน์ ช่วยดึงดูดลูกค้าได้ในระดับหนึ่ง
3.2 ข้อควรพิจารณา
1. ค่าแฟรนไชส์และค่ารายเดือน
• นอกจากค่าแฟรนไชส์ก้อนแรกแล้ว อาจมีค่า Royalty Fee รายเดือน หรือกำหนดต้องสั่งวัตถุดิบหลักจากบริษัทแฟรนไชส์เท่านั้น
• ตรวจสอบสัญญาและเปรียบเทียบเงื่อนไขให้ละเอียด
2. อิสระในการบริหาร
• บางแฟรนไชส์จำกัดสิทธิ์ในการปรับเมนูหรือเปลี่ยนแปลงรสชาติ ซึ่งอาจทำให้ผู้ลงทุนแก้ปัญหาหน้างานได้ยาก
• ควรเช็กว่ามีความยืดหยุ่นเพียงใดในการออกเมนูใหม่หรือตกแต่งร้านเพิ่มเติม
3. การแข่งขันระหว่างแฟรนไชส์สาขาใกล้เคียง
• หากแฟรนไชส์มีหลายสาขาในพื้นที่ใกล้เคียง อาจทำให้ลูกค้ากระจายไปแต่ละร้าน
4. แนะนำแฟรนไชส์ก๋วยเตี๋ยวในไทย พร้อมข้อมูลติดต่อ
4.1 แฟรนไชส์ “ชายสี่ บะหมี่เกี๊ยว”
• จุดเด่น
• แบรนด์คุ้นหูคนไทยมายาวนาน เน้นเมนูบะหมี่และเกี๊ยวหมูแดง หมูแดงหมูกรอบสูตรเฉพาะ มีมาตรฐานการปรุงที่สอดคล้องกันทุกสาขา
• รูปแบบร้านตั้งได้ทั้งรถเข็นหรือคีออส (Kiosk) และสามารถต่อยอดเปิดเป็นร้านใหญ่ได้
• รูปแบบการลงทุน
• ค่าแฟรนไชส์เบื้องต้นประมาณ 30,000 – 50,000 บาท (รวมป้าย ตู้ ไวนิล อุปกรณ์จำเป็น และชุดวัตถุดิบแรกเข้า)
• ต้องจัดซื้อวัตถุดิบหลักจากบริษัท (เช่น บะหมี่ เกี๊ยว หมูแดง หมูกรอบ) เพื่อควบคุมคุณภาพ
• สัญญาระยะยาว 3 – 5 ปี (ต่อสัญญาได้)
• ข้อมูลติดต่อ
• ที่อยู่: บริษัท ชายสี่ บะหมี่เกี๊ยว จำกัด 99/9 ถนนติวานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี 12000
• โทรศัพท์: 02-xxx-xxxx
• เว็บไซต์: www.chay4.co.th
• (หมายเหตุ: ข้อมูลติดต่อเป็นตัวอย่าง)
4.2 แฟรนไชส์ “โกเด้ง ลูกชิ้นหมูเด้ง+ก๋วยเตี๋ยวหมู”
• จุดเด่น
• เมนูเด็ดคือลูกชิ้นหมูเด้งสดใหม่ที่เป็นเอกลักษณ์ น้ำซุปกระดูกหมูรสหวานกลมกล่อม
• มีสูตรก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำใส ต้มยำ และเย็นตาโฟ ที่ลูกค้าชื่นชอบ
• รูปแบบการลงทุน
• ค่าแฟรนไชส์ประมาณ 40,000 – 80,000 บาท (ขึ้นกับขนาดร้าน)
• ผู้ซื้อแฟรนไชส์จะได้รับป้ายร้าน อุปกรณ์ครัวชุดพื้นฐาน และวัตถุดิบเริ่มต้น (ลูกชิ้นหมูเด้ง, หมูสับ, น้ำซุป)
• Royalty Fee 2-3% จากยอดขาย หรือจ่ายคงที่รายเดือนประมาณ 2,000 – 3,000 บาท (แล้วแต่แพ็กเกจ)
• ข้อมูลติดต่อ
• ที่อยู่: บริษัท โกเด้ง แฟรนไชส์ จำกัด 123 ซอยลาดพร้าว 101 เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ 10240
• โทรศัพท์: 02-yyy-yyyy
• เว็บไซต์: www.godengnoodle.co.th
• (หมายเหตุ: ข้อมูลติดต่อเป็นตัวอย่าง)
4.3 แฟรนไชส์ “อ.อุ๋ย ก๋วยเตี๋ยวเรือ”
• จุดเด่น
• เชี่ยวชาญเมนูก๋วยเตี๋ยวเรือเนื้อน้ำตกและหมูน้ำตก รวมถึงเมนูต้มยำรสแซ่บ สูตรดั้งเดิมจากอยุธยา
• วัตถุดิบเนื้อคุณภาพดี และน้ำซุปรสเข้มข้น เป็นจุดขายหลัก
• รูปแบบการลงทุน
• ค่าแฟรนไชส์เริ่มต้น 50,000 – 100,000 บาท (ขึ้นกับพื้นที่และรูปแบบร้านว่าจะเป็นรถเข็นหรือร้านนั่ง)
• แบรนด์มีจัดฝึกอบรมการปรุงและการเลือกเนื้อสัตว์ การจัดการสต๊อก และการสร้างสูตรน้ำจิ้ม-เครื่องปรุงเฉพาะ
• ไม่มีค่ารายเดือน แต่ต้องซื้อวัตถุดิบหลักบางรายการจากบริษัท (เช่น เครื่องปรุงผสมน้ำตก และผงน้ำซุป)
• ข้อมูลติดต่อ
• ที่อยู่: บริษัท อ.อุ๋ย ก๋วยเตี๋ยวเรือ จำกัด 45 ถนนรังสิต-นครนายก ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี ปทุมธานี 12130
• โทรศัพท์: 02-zzz-zzzz
• เว็บไซต์: www.auinoodle.com
• (หมายเหตุ: ข้อมูลติดต่อเป็นตัวอย่าง)
5. ตัวอย่างผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จ
1. คุณสมบัติ ร้าน “สบายเส้น ก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำ”
• เริ่มจากเปิดร้านเล็ก ๆ หน้าบ้านในจังหวัดอุดรธานี ขายวันละ 50 – 80 ชาม ก่อนตัดสินใจเข้าร่วมแฟรนไชส์โกเด้ง ลูกชิ้นหมูเด้งเพื่อเพิ่มเมนู
• ใช้เวลากว่า 1 เดือนในการปรับสูตรให้น้ำซุปต้มยำเข้ากับลูกชิ้นหมูเด้ง และจัดโปรโมชันลดราคาพิเศษช่วงแรก
• ปัจจุบันขายเฉลี่ยวันละ 150 – 200 ชาม รายได้ส่วนใหญ่กลับเป็นลูกค้าประจำในหมู่บ้านและนักศึกษาใกล้เคียง
2. คุณสโรชา ร้าน “เส้นจัง ก๋วยเตี๋ยวเรือ”
• เป็นแฟรนไชส์ “อ.อุ๋ย ก๋วยเตี๋ยวเรือ” เปิดในทำเลตลาดนัดกลางคืนย่านบางใหญ่ ยอดขายพุ่งสูงช่วงเย็นถึงดึก
• น้ำซุปเข้มข้นถูกปากลูกค้า อีกทั้งมีเมนูลูกชิ้นเนื้อ-หมูเด้งให้เลือก ทำให้ร้านต่างจากก๋วยเตี๋ยวเรือทั่ว ๆ ไป
• หลังเปิดได้ 6 เดือน มียอดขายเฉลี่ย 3,000 – 5,000 บาทต่อวัน และอยู่ระหว่างขยายสาขาที่ 2
6. เคล็ดลับการบริหารร้านก๋วยเตี๋ยวให้ประสบความสำเร็จ
1. คุณภาพวัตถุดิบและรสชาติน้ำซุป
• รสชาติและความสะอาดเป็นหัวใจของร้านก๋วยเตี๋ยว ควรเลือกซื้อเนื้อสัตว์ ผัก และเส้นคุณภาพดี ต้มซุปให้ได้รสชาติคงที่ทุกวัน
• ควบคุมความสดใหม่ของวัตถุดิบ โดยจัดการสต๊อกอย่างเหมาะสมเพื่อไม่ให้เหลือมากเกินไป
2. ความสะอาดของร้านและการบริการ
• จัดเก็บอุปกรณ์ จาน-ชาม-ช้อน ให้สะอาดเป็นระเบียบ ทำความสะอาดโต๊ะทันทีเมื่อมีลูกค้าใช้เสร็จ
• แม้จะเป็นร้านเล็ก แต่การบริการที่รวดเร็ว สุภาพ และใส่ใจลูกค้าจะสร้างประสบการณ์ที่ดีและเพิ่มโอกาสกลับมาซ้ำ
3. ทำเลและการตลาด
• ถ้าเปิดร้านในย่านชุมชนที่มีคนพลุกพล่าน หรือใกล้สถาบันการศึกษา ออฟฟิศ ตลาดนัด จะได้เปรียบด้านปริมาณลูกค้า
• ใช้สื่อออนไลน์ช่วยโปรโมต เช่น ลงรูปเมนูบน Facebook หรือ TikTok ถ่ายคลิปรีวิวสั้น ๆ ให้คนรู้จัก
4. การจัดโปรโมชันและเมนูพิเศษ
• อาจทำเมนู “พิเศษวันศุกร์” หรือ “ลดราคา 10% สำหรับนักศึกษา” เพื่อกระตุ้นยอดขายและดึงดูดลูกค้าใหม่
• สร้างเมนูซิกเนเจอร์ เช่น ก๋วยเตี๋ยวเรือเนื้อวากิว หรือบะหมี่ไข่ลาวา ต่อยอดความแปลกใหม่
5. ควบคุมต้นทุนอย่างสม่ำเสมอ
• หมั่นตรวจสอบรายการสั่งซื้อ วัตถุดิบที่ใช้ต่อวัน เพื่อนำมาวางแผนลดต้นทุนที่ไม่จำเป็น
• เปรียบเทียบราคาซัพพลายเออร์หลายแห่ง เพื่อหาวัตถุดิบคุณภาพในราคาที่คุ้มค่า
7. สรุป
ธุรกิจร้านก๋วยเตี๋ยวในปี พ.ศ. 2568 ยังคงมีศักยภาพและโอกาสเติบโต ด้วยความที่ “ก๋วยเตี๋ยว” เป็นเมนูยอดนิยมตลอดกาลของคนไทย การตัดสินใจว่าจะเปิดร้านเองหรือเข้าร่วมแฟรนไชส์ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง ทั้งงบประมาณ ประสบการณ์ และความสะดวกในการบริหารจัดการ ซึ่งการเข้าร่วมแฟรนไชส์จะมีระบบสนับสนุนที่ชัดเจนและลดความเสี่ยงในการลองสูตรอาหาร แต่ก็มีค่าใช้จ่ายแฟรนไชส์และข้อจำกัดบางอย่าง
การเริ่มต้นร้านก๋วยเตี๋ยวจำเป็นต้องศึกษาตลาด เปรียบเทียบงบประมาณ และเตรียมพร้อมแผนการตลาดอย่างเหมาะสม อย่ามองข้ามคุณภาพวัตถุดิบและความสะอาด รวมถึงการปรับตัวให้เข้ากับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว หากทำได้ดีและสร้างเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง ร้านก๋วยเตี๋ยวเล็ก ๆ ก็สามารถเติบโตและสร้างรายได้ที่น่าพึงพอใจได้อย่างแน่นอน
ขอให้ผู้อ่านทุกท่านที่กำลังวางแผนเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวโชคดีในการลงทุน และประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้!