แฟรนไชส์วาฟเฟิล ราคาเท่าไหร่ กำไรดีไหม

ด้วยกลิ่นหอมลอยโชยตามลมมา ประกอบกับรสชาตินุ่มนวลที่ได้จากส่วนผสมของแป้งสาลี น้ำตาล ไข่และนม ส่งผลให้ “วาลเฟิล” (Waffle) หรือในภาษาดัตช์ตันตำหรับ “Wafel” เป็นที่นิยมและกำลังก้าวเข้ามาเป็นทางเลือกที่น่าสนในสำหรับการลงทุนเปิดร้านขนมเล็ก ๆ ดังนั้นวันนี้เพื่อเป็นการช่วยทุกท่านให้ได้รับความรู้และข้อมูลครบถ้วนเกี่ยวกับธุรกิจนี้ ราจึงมาพร้อมกับบทความแนะนำ “แฟรนไชส์วาฟเฟิล ราคาเท่าไหร่ กำไรดีไหม” วันนี้ทุกท่านจะได้ทราบกัน

และก่อนที่เราจะพาไปดูรายละเอียดของบทความเกี่ยวกับแฟรนไชส์วาฟเฟิลกัน เราจำเป็นต้องขอให้ข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับธุรกิจวาฟเฟิลก่อนว่า ในส่วนต่อจากนี้จะเป็นการนำเสนอข้อมูลของวาฟเฟิลที่รวมทั้งขนมรังผึ้ง วาฟเฟิลฮ่องกงและขนมวาฟเฟิลในสไตล์ยุโรป ดังนั้น หากทุกท่านพร้อมแล้วเราตามไปดูกันเลย

ที่มาของวาฟเฟิล

 

วาฟเฟิล (Waffle) หรือในภาษาดัตช์จะใช้คำเรียกว่า “Wafel” เป็นอาหารที่มีต้นกำเนิดมาแล้วร่วม 100 ปี ซึ่งจากข้อมูลและหลักฐานที่มีการพบกันนั้น เชื่อว่าวาฟเฟิลมีขึ้นครั้งแรกประมาณศตวรรษที่ 13 เป็นขนมซึ่งมีส่วนผสมของแป้งสาลี ไข่ น้ำตาล นม ผสมกันแล้วนำมาราดบนแผ่นเหล็กร้อน ๆ เพื่อให้สุก ทั้งนี้วิธีการทำให้แป้งสุกนั้นก็มีการผสมและปรับเปลี่ยนซึ่งใช้แผ่นเหล็กสองชิ้นประกบกันอีกด้วย โดยรูปแบบของขนมวาฟเฟิลนั้นมีมากมายหลากหลายรูปแบบ แบ่งไปตามส่วนผสม ซึ่งบางครั้งอาจเป็นการใช้แป้งผสมกับน้ำเท่านั้นสำหรับครอบครัวทั่วไปที่หาวัตถุชั้นดีอย่างนม ไข่และน้ำตาลไม่ได้ ซึ่งตัวเนื้อขนมก็จะค่อนข้างแข็ง ซึ่งจะแตกต่างไปจากการทำขนวาฟเฟิลของชนชั้นสูงที่จะมีการผสมส่วนผสมทุกรายการเข้าไป ซึ่งจะทำให้วาฟเฟิลมีความหอม นุ่มและรสชาติที่ดี

และเมื่อวาฟเฟิลเป็นขนมที่ได้รับการตอบรับที่ดีและมีการรับประทานกันอย่างแพร่หลาย เมื่อถึงช่วงปี ค.ศ.1620 ชาวดัตช์ได้มีการอพยพไปตั้งถิ่นฐานที่อเมริกา ก็ได้นำวาฟเฟิลติดตัวไปด้วย ซึ่งส่งผลให้วาฟเฟิลเป็นที่นิยมและมักนำมารับประทานคู่กับน้ำเชื่อม ผลไม้ต่าง ๆ ไอศกรีมและมีการนำมาทานร่วมกับอาหารคาวเช่นกัน ดังเช่นในปัจจุบันที่จะทานคู่กับ ไข่ดาว เบคอน ไก่ทอด แฮมเป็นอาหารจานหลักในที่สุด

ทั้งนี้สำหรับขนมวาฟเฟิลที่เป็นที่นิยมและหลาย ๆ นั้นน่าจะรู้จักและเคบพบเจอมาบ้างแล้วนั้น ส่วนใหญ่ก็จะเป็นวาฟเฟิลแบบเบลเยี่ยม ซึ่งเบลเยี่ยมสไตล์วาฟเฟิลนั้นมีต้นกำหนดในช่วงปี 1964 ซึ่งจะมีการใส่ส่วนผสมเพิ่มเติมที่แตกต่างไปจากวาฟเฟิลทั่วไป ซึ่งสูตรหลักที่ใช้กันนั้นจะเป็นการใส่ ยีสต์สด แป้งไข่ นม และได้กลายเป็นอีกหนึ่งขนม/ อาหารที่ได้รับความนิยมอย่างมากทั่วโลก ซึ่งในปัจจุบันนั้นมากมายหลากหลายสไตล์ อาทิ Liege waffle, Brussels waffle, Flemish waffle, American waffle, วาฟเฟิลฮ่องกง และขนมรังผึ้งที่เราคุ้นเคยกันดี

ขายวาฟเฟิล น่าสนใจยังไง กำไรดีไหม

 

ก่อนจะลงทุนหรือจะเปิดธุรกิจทั้งที การรวบรวมคะแนนรีวิวหรือศึกษาจากความคิดเห็นต่าง ๆ ของผู้มีประสบการณ์หรือกูรูย่อมเป็นประโยชน์และควรทำอย่างยิ่ง ทั้งนี้สำหรับการเปิดร้านขายวาฟเฟิลนั้น ที่เราเห็น ๆ กันตามตลาดนัด ร้านค้าทั่วไปในตลาด จะพบว่าราคาโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 10 – 30 บาทเท่านั้น ซึ่งมีนำมาพิจารณาและคำนวณผลกำไร สำหรับหลาย ๆ ท่านก็อาจจะท้อและล้มเลิกความคิด เนื่องจากกว่าจะทำกำไรให้ได้วันละ 500 บาทก็คงต้องขายให้ได้หลายพัน ซึ่งจากความเห็นของผู้มีประสบการณ์ ซึ่งเปิดร้านขายวาฟเฟิลมาเป็นระยะนาน ให้ข้อมูว่า ผลกำไรที่ได้นั้น จะอยู่ที่ประมาณ ครึ่งต่อครึ่งของต้นทุน โดยหากท่านสามารถเพิ่มรายการสินค้าอื่น ๆ ที่นำมาขายร่วมกับวาฟเฟิลได้ กำไรก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

ดังนั้น เมื่อเรานำรายละเอียดในส่วนมาพิจารณาประกอบกับหลักการทางธุรกิจ ก็จะพบว่า การเปิดร้านขายวาฟเฟิลนั้น สามารถเป็นธุรกิจที่น่าสนใจได้ แต่จะต้องมีสูตรที่นิ่ง มรสชาติให้ได้ และผู้ขายจะต้องนำเสนอความหลากหลายของสินค้า ไม่เพียงเฉพาะตัววาฟเฟิลแต่จะต้องมีสินค้าชนิดอื่น ๆ ที่ต้องนำมาขายคู่ไปกับวาฟเฟิลเพื่อเพิ่มโอกาส โดยอาจจะเป็น ขนมถังแตก เครป หรือขนมฝักบัวและอาจจะมีเครื่องดื่มเพิ่มเติม ซึ่งจะเพิ่มความหลากหลายและทำให้ลูกค้าเข้ามามากขึ้นกว่าการขายวาฟเฟิลเพียงรายการเดียว

แป้งคือกุญแจสำคัญ

แป้ง คือส่วนผสมหลักในการทำธุรกิจเปิดร้านขายวาฟเฟิล ซึ่งไม่ว่าคุณจะเลือกเดินเส้นทางสายแฟรนไชส์หรือเปิดร้านด้วยตัวเอง การพิจารณาเลือกแป้งจะเป็นกุญแจสำคัญของธุรกิจ ทั้งนี้ ทางเลือกสำหรับแป้งนั้นก็มีมากมายทั้ง การเลือกแป้งสำเร็จรูปซึ่งราคาจะค่อนข้างสูง แต่จะใช้งานง่ายเพียงผสมกับส่วนผสมเช่น ไข่ นม ก็สามารถนำไปทำวาฟเฟิลได้ทันที ซึ่งจะแตกต่างไปจากการเลือกแป้งทั่วไปที่ราคาถูกกว่า แต่ท่านเองจะต้องนำมาผสมและปรุงแต่งให้เป็นสูตรเฉพาะของร้านซึ่งจะยากกว่าในการคุมรสชาติ และก็จะมีต้นทุนที่ต่ำกว่านั่นเอง

ทั้งนี้หากท่านไม่ต้องการเสี่ยงในประเด็นนี้ การเลือกพิจารณาลงทุนกับแฟรนไชส์วาฟเฟิลก็จะเป็นทางเลือกที่น่าสนใจและเหมาะกับท่านมาก ๆ เพราะด้วยสูตรสำเร็จที่ทางแฟรนไชส์มีให้ เพียงผสมเข้ากับวัตถุดิบตามสูตรก็พร้อมขายทันที แต่ก็จะต้องแลกมาด้วยราคาแฟรนไชส์ที่ต้องสูงกว่าการเปิดร้านและพัฒนาสูตรด้วยตัวเอง

แนะนำแฟรนไชส์วาฟเฟิล น่าลงทุน

 

ไม่ว่าจะเป็นแฟรนไชส์วาฟเฟิลฮ่องกง วาฟเฟิลเอาส์ ทั้งหมดเราได้เข้าไปสืบค้นรายละเอียดและข้อมูลของแฟรนไชส์ เพื่อนำมาบอกต่อให้ทุกท่านได้พิจารณาและเลือก โดยบางส่วนนั้นจะเป็นรายละเอียดและแผนการนำเสนอการลงทุนที่มีราคาเริ่มต้นตั้งแต่หลัก 10,000 บาท จนขึ้นไปถึงหลักหลายแสนบาท เราลองมาดูกัน

Waffle King

วอฟเฟิลคิง หนึ่งในแฟรนไชส์วาฟเฟินราคาประหยัดที่พร้อมเปิดโอกาสทางธุรกิจให้ทุกท่านได้ ด้วยต้นทุนเพียง 10,000 บาท ทั้งนี้สำหรับการเริ่มต้นเป็นเจ้าของร้านขายวาฟเฟิลนั้น วอฟเฟิลคิง พร้อมเข้าให้ความช่วยเหลือทุกท่านด้วยการนำเสนอแผนการลงทุนเปิดร้านวาฟเฟิลหลากหลายรูปแบบทั้งวาฟเฟิลธรรมดา วาฟเฟิลฮ่องกง พร้อมด้วยวัสดุอุปกรณ์สำหรับขายครบครันและมาพร้อมแป้งสำเร็จรูปหมดกังวลเรื่องสูตรและการคุมรสชาติขนม ซึ่งมีให้เลือกพิจารณา 3 ขนาดร้าน ดังนี้

  • ร้านขนาดเล็ก ไซส์ S ราคาเริ่มต้นที่ 6,000 บาท
  • ร้านขนาดกลาง ไซส์ M มีเคาน์เตอร์ ราคาเริ่มต้นที่ 9,999 บาท
  • ร้านขนาดใหญ่ ไซส์ L มีเคาน์เตอร์และอุปกรณ์ขายครบชุด ราคาเริ่มต้นที่ 24,000 บาท

ทั้งนี้สำหรับท่านที่เลือกแฟรนไชส์ของวอฟเฟิลคิงจะได้รับอุปกรณ์ต่าง ๆ สำหรับการขายวาฟเฟิล ดังนี้ เตาอบ ป้ายร้าน คู่มือการทำขนม ถาดพักแป้ง ตาชั่ง ผ้ากันเปื้อน ตะเกียบ ถุงมือ ซึ่งสำหรับทุกท่านที่สนใจก็สามารถดำเนินการติดต่อแฟรนไชส์ได้ทันทีที่ วอฟเฟิลคิง ตรงข้ามโรงพยาบาลธนบุรี ถนนอิสรภาพ 34/ 1 ซอย อิสรภาพ 44 บ้านช่างหล่อ บางกอกน้อย กรุงเทพ หรือเข้าติดต่อและศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมที่หมายเลข 061 – 4100333, 061 – 5748111, 062 – 4648222 หรือที่เว็บไซต์ของบริษัท ที่นี่ วอฟเฟิลคิง

 

Too Waffle Hongkong

ทูวาฟเฟิลฮ่องกง ขายง่ายคืนทุนเร็ว ซึ่งจากการพิจารณาของแฟรนไชส์นี้ ทุกท่านจะสามารถเปิดร้านและคืนทุนได้ภายในระยะเวลาเพียง 1 เดือน ด้วยการเริ่มต้นลงทุนเพียง 25,900 บาท ซึ่งจะได้รับอุปกรณ์การขายครบครันพร้อมขายทันที แต่ในส่วนนี้จะเป็นราคาที่ไม่รวมตู่ Kiosk โดยหากต้องการก็สามารถจ่ายเพิ่มอีก 4 พันบาท รวมเป็น 29,900 บาทเท่านั้นก็พร้อมเริ่มขายได้ทันที ทั้งนี้สำหรับเริ่มต้นทุกท่านจะได้รับอุปกรณ์และวัสดุเพิ่มเติมสำหรับเปิดร้าน ดังนี้

  • เครื่องตีแป้ง
  • เตาอบวาฟเฟิล
  • พัดลม
  • คู่มือเทคนิคการทำและการขาย
  • วัตถุดิบในการขายครั้งแรก ซึ่งได้แก่ แป้งกึ่งสำเร็จรูปจำนวน 5 ชุด สามารถใช้ทำวาฟเฟิลขายได้ประมาณ 40 – 50 ชิ้น

ยิ่งไปว่านั้น ทางแฟรนไชส์ยังพร้อมบริการให้ความช่วยเหลือด้วยการจัดอบรมเพิ่มเติม ซึ่งเป็นการสอนและอบรมวิธีการทำวาฟเฟิลตามแบบฉบับของ “ทู วาฟเฟิล ฮ่องกง” ซึ่งเจ้าของร้านจะต้องเข้าร่วมด้วยตนเอง โดยจะเป็นการเริ่มต้นสอนการปฏิบัติจริงทุกขั้นตอน ตั้งแต่ เทคนิคการทำ เรียนรู้การใช้อุปกรณ์ การคำนวณส่วนผสม แนะนำและให้รายละเอียดแหล่งจำหน่ายวัตถุดิบ พร้อมด้วยเทคนิคการเพิ่มยอดขาย ซึ่งหากท่านเริ่มสนใจและต้องการสมัครเพื่อรับแฟรนไชส์กับ Too Waffle Hongkong ก็สามารถติดต่อได้ที่ 094 – 9244789 หรือ 096 – 5624987 และสามารถเข้าดูข้อมูลได้ทันทีด้วยตนเอง ที่นี่

The Waffle

แฟรนไชส์วาฟเฟิลรายใหญ่ที่ได้รับความนิยมและมาพร้อมกับสูตรแป้งที่ทันสมัยมีให้เลือกได้หลายรูปแบบทั้งแบบแป้งแช่แข็ง แป้งสำเร็จรูป วาฟเฟิลพร้อมอุ่น ทั้งหมดถือเป็นมิติใหม่ให้ทุกท่านได้เลือกพิจารณาจากความพร้อมที่มี เช่นเดียวกับ The Waffle ที่เริ่มต้นธุรกิจด้วยความคิดเล็ก ๆ ที่ต้องการเปิดร้านขนมเริ่มด้วยการลงมือทำและขยายธุรกิจมาถึงปัจจุบันจนกลายเป็นผู้จัดจำหน่ายวาฟเฟิลรายใหญ่ที่มีรสชาติและกลิ่นหอมไม่เหมือนใคร

ทั้งนี้สำหรับแฟรนไชส์ของ The Waffle นั้นมีให้ทุกท่านได้เลือกพิจารณาหลายขนาด โดยจะแตกต่างไปตามลักษณะและส่วนประกอบสำหรับการขายเริ่มต้นที่ร้านขนาด Full Size ที่ราคา 465,000 บาท ไม่มีการเก็บค่าการตลาดและไม่เก็บค่า รอยัลตีใด ๆ ทั้งสิ้น โดยมีการแบ่งสัดส่วนของค่าใช้จ่าย ดังนี้

  • ค่าสมาชิกแรกเข้า 30,000 บาทสำหรับอายุสัญญารายปี และ 50,000 บาทสำหรับอายุสัญญา 3 ปี
  • ค่าสมาชิกรายปี ซึ่งชำระปีถัดไปปีละ 20,000 บาท
  • ค่าก่อสร้าง ซึ่งมีทางเลือกให้ทุกท่านสามารถจัดหาผู้รับเหมาเองได้ ราคาเริ่มต้นที่ 35,000 บาท
  • ค่าอุปกรณ์ 60,000 – 80,000 บาท
  • ค่าวัตถุดิบ 30,000 – 50,000 บาท
  • เงินค้ำประกัน 50,000 บาท

เพียงเท่านี้ก็สามารถเริ่มต้นเปิดร้านวาฟเฟิลได้ทันที พร้อมด้วยเมนูที่หลากหลายหมดกังวลเรื่องหยิบย่อยที่ต้องจัดการเอง เพราะทางแฟรนไชส์พร้อมให้คำปรึกษาและให้คำแนะนำสำหรับการเริ่มต้นธุรกิจ ทั้งนี้สำหรับท่านที่สนใจและต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถเข้าดูข้อมูลได้ ที่นี่ เว็บไซต์ของ The Waffle หรือเพียงโทร. 02 – 7486410

 

Waffle Hug

แฟรนไชส์วาฟเฟิลฮัก เป็นอีกหนึ่งแฟรนไชส์ที่พร้อมให้ทุกท่านเริ่มต้นธุรกิจของตนเองได้ในราคาที่จับต้องได้ ทั้งนี้สำหรับราคาเริ่มต้นในการตั้งร้านขนาดเล็กที่สุดเริ่มต้นเพียง 11,900บาทเท่านั้น โดยมาพร้อมกับป้ายพร้อมขาย และแป้งสำหรับทำวาฟเฟิล 20 กิโลกรัม โดยขอบอกเลยว่าสูตรแป้งของร้านนี้เป็น วาฟเฟิล เบลเยียมเลยทีเดียว

วอฟเฟิลฮักพร้อมส่งต่อความอร่อยให้ทุกท่านได้ชิมกันด้วยสาขาทั่วประเทศกว่า 2000 แห่ง ส่งผลให้แทบไม่ต้องทำการตลาดตลอดระยะเวลา 15 ปีนี้ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ ซึ่ง ณ เวลานี้ทางบริษัทได้มีการปรับขนาดและราคาเริ่มต้นสำหรับทุกท่านที่สนใจลงทุนด้วยรายละเอียดของแฟรนไชส์วาฟเฟิล ดังนี้

ชุดแฟรนไชส์ขนาด S M L ชั้นวาง 1 ชั้น 10 เมนู ราคาช่วงโปรโมชั่นจะอยู่ที่

L โต๊ะบูธพร้อมขาย 125*80 เซนติเมตร ราคา 17,500 บาท

M โต๊ะบูธพร้อมขาย 125*80 เซนติเมตร ราคา 15,500 บาท

S ป้ายพร้อมขาย 121*73 เซนติเมตร ราคา 12,500 บาท

ทั้งหมดตามด้วยรายการอุปกรณ์เสริมการขายทั้ง 24 รายการเริ่มต้นขายได้ทันที ซึ่งสำหรับท่านที่ต้องการรายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติม ณ เวลานีทางแบรนด์ได้พัฒนาและนำเสนอแฟรนไชส์ขนาดพิเศษเพิ่มเติมอีก 3 รายการ คือ 2S/ 2M/ 2L ขนาดเท่ากันแต่เพิ่มเติมที่อุปกรณ์และวัตถุดิบสำหรับขายที่เพิ่มขึ้น และสำหรับกระบวนการดำเนินธุรกิจนั้น ไม่ต้องกังวลเพราะทีมงานพร้อมเข้าให้ความช่วยเหลือและแนะนำทั้งการทำ เทคนิคและมีคิปวิดีโอสอนจนสามารถยืนได้ด้วยตัวเอง ซึ่งหากท่านสนใจและต้องการรายละเอียดเพิ่มเติมก็สามารถเข้าดูรายละเอียดของแฟรนไชว์ได้ ที่นี่ Facebook Page ของ Waffle Hug

สนใจวอฟเฟิล ฮัก หรือสมัครตัวแทนจำหน่ายต่างประเทศ

099-3178737 คุณต้อ / 062- 1240398 คุณเอาะ / 099- 4780301 คุณดาว

ตัวแทน วอฟเฟิล ฮัก ภาคตะวันออก (ระยอง) คุณต้อ 099-317-8737

ตัวแทน วอฟเฟิล ฮัก ภาคอีสาน ( โคราช) คุณเบล 0996495155

ศูนย์ วอฟเฟิล ฮัก เวียงจันทน์ สปป. ลาว WhatsApp 52288858 และ id line : wafflehug1

อ้างอิง 1 2