ขายซูชิตลาดนัด ลงทุนเท่าไหร่

 

อิรัชชัยมาเสะยินดีต้อนรับเข้าสู่ร้านซูชิของเรา ซึ่งแม้ว่าจะเปิดขายเฉพาะที่ตลาดนัด แต่ด้วยเมนูที่หลากหลายน่ารับประทาน ประกอบเข้ากับราคาซึ่งถูกและคุ้มค่ากว่าร้านตามห้างจะทำให้การเปิดร้านซูชิตลาดนัด สามารถเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่น่าสนใจได้ไม่น้อย ดังนั้น หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมีความสนใจและต้องการเป็นเจ้าของกิจการร้านซูชิ นี่คือบทความที่เหมาะกับคุณมาก ๆ กับบทความ ขายซูชิตลาดนัด ลงทุนเท่าไหร่ต้องเตรียมตัวยังไง และเริ่มต้นจากอะไรบ้างวันนี้เราจะทราบกัน

ร้านซูชิ ตลาดนัด

ทำไมต้องเป็น ร้านซูชิ

เมื่อต้องการเปิดร้าน อยากเป็นเจ้าของธุรกิจหลายท่านงจะมีข้อสงสัย ว่าทำไมเราไม่เลือกเปิดร้านส้มตำ ร้านข้าวผัด ร้านก๋วยเตี๋ยวหรือแม้กระทั้งร้านข้าวเหนี่ยวไก่ทอดแทนที่จะเปิดร้านซูชิ ซึ่งสำหรับบางท่านนั้น แทบจะไม่มีความรู้เกี่ยวกับวิธีการทำ ไม่รู้แหล่งซื้อวัตถุดิบและที่สำคัญบางท่านอาจจะไม่กินเสียด้วยซ้ำ เพราะด้วยความคุ้นเคยที่เรามีให้กับอาหารเหล่านั้น ซึ่งจะไม่สามารถสร้างความแปลกใหม่ ความแตกต่างให้กับลูกค้าซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายของเราได้ ประมาณว่าอยากกินไก่ทอดก็ซื้อร้านไหนก็ได้ เพราะมีขายอยู่ทั่วไป แต่ใน่สวนนี้เรามาพร้อมกับประเด็นเพิ่มเติม ซึ่งมีความน่าสนใจและจะสามารถย้ำข้อดี จุดเด่นของการเปิดร้านซูชิ ซึ่งอาจเปลี่ยนความคิดของหลาย ๆ ท่านให้เห็นถึงเหตุผลว่าทำไม เราจึงต้องเลือก ร้านซูชิตลาดนัด

ทำไมต้อง ซูชิ

ซูชิ (Sushi) เป็นอาหารญี่ปุ่นชนิดหนึ่ง ซึ่งถือว่าเป็นเมนูที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลก และยิ่งไปกว่านั้น ซูชิยังเป็นส่วนหนึ่งของอาหารที่สามารถเป็นตัวแทนเอกลักษณ์สำคัญของความเป็นญี่ปุ่นได้เป็นอย่างดี เพราะ มีทั้งความสดที่มาจากธรรมชาติ มาพร้อมกับข้าวที่เป็นอาหารหลักชาวเอเชีย และมีการแต่งเติมหน้าตาของอาหารให้น่าทาน ดังนั้น จึงไม่แปลกที่ซูชิ จเป็นเมนูอาหารที่สามารถเข้ามาครองใจผู้บริโภคได้ทันทีไม่แพ้ เบอร์เกอร์, Hot dog, พิซซ่า หรือข้าวกระเพราะของบ้านเรา ซึ่งในส่วนนี้ จะเป็นประเด็นสำคัญของร้านซูชิที่จะกลายเป็นจุดแข็งที่สร้างความแตกต่างให้กับธุรกิจของคุณได้ แน่นอน

ความนิยมของอาหารญี่ปุ่น แน่นอนว่าอาหารญี่ปุ่นคืออาหารที่คนไทยนิยมรับประทานมากที่สุด รองลงมาจากอาหารไทย เพราะสังเกตจากเหล่าบรรดาร้านอาหารบนห้างสรรพสินค้า ซึ่งกว่าครึ่ง ณ เวลานี้ ก็จะเป็นร้านอาหารญี่ปุ่น ดังนั้นแล้วหากเราสามารถนำเสนออาหารญี่ปุ่นราคาประหยัด ซึ่งเปิดขายตามตลาดนัดได้ ส่วนนี้ก็จะเป็นความได้เปรียบแล้ว +1 ทันที
เมนูที่หลากหลาย ชื่อขึ้นต้นว่าเป็น ซูชิ เมนูนั้นหลากหลายกว่า 20 หน้า ไม่ว่าจะเป็นหน้าปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาซาบะ หน้ากุ้ง หน้าไข่ปลา ไข่กุ้ง ประกอบกับหน้าประยุกต์ให้เข้ากับอาหารไทย อย่างซูชิหน้าหมูปิ้ง ไก่ปิ้งสไตล์ไทยก็มีให้เลือก ดังนั้นแล้วประเด็นเรื่องความหลากหลายพร้อมนำเสนอทางเลือกที่มากมายจะเป็นอีกหนึ่งจุดเด่นของร้านซูชิตลาดนัดแน่นอน
ภาพลักษณ์และเปิดประสบการณ์ใหม่ แน่นอนว่าหากคุณเลือกเปิดร้านซูชิ การตกแต่งร้านเพื่อให้เข้ากับเมนูอาหาร ร้านของคุณจะต้องเป็นสไตล์ญี่ปุ่นเพื่อเรียกความสนใจจากลูกค้า ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเปิดร้านที่ตลาดนัด แน่นอนว่าจะต้องมีลูกค้าหลาย ๆ ท่านที่อาจจะไม่เคยทานซูชิมาก่อน นี่แหละคือข้อดี เพราะราคาที่จับต้องได้ และเมนูอาหารที่พร้อมเสิร์ฟตรงหน้า ย่อมเรียกลูกค้าแบบ First Timer ได้แน่นอน ยังไงราคาแบบนี้ต้องลองแล้ว
ถูกใจสายสุขภาพ อาหารญี่ปุ่นนั้นถือเป็นหนึ่งกลุ่มที่ถือว่าเป็นกลุ่มอาหารที่เน้นสุขภาพ เพราะส่วนใหญ่จะเป็นการประกอบอาหารที่ไม่ใช้น้ำมัน เน้นโปรตีนและเน้นความสด ทั้งนี้ยังรวมไปถึงคุณประโยชน์ของร่างกายที่สามารถได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนแม้ว่าอาจจะมีข้าว แต่ก็มีอยู่ในปริมาณที่พอเหมาะและย่อมได้รับความนิยมให้กลุ่มคนรักสุขภาพ

 

จากรายละเอียดที่เรานำเสนอไป ก็คงจะมากเพียงพอแล้วสำหรับการยืนยันว่า การเปิดร้านซูชินั้น จะสามารถช่วยให้คุณตั้งธุรกิจที่แปลกใหม่ แต่มีอนาคตได้ ซึ่งผลกำไรหรือรายละเอียดอื่น ๆ นั้นเราขอนำเสนอในส่วนต่อจากนี้ มาดูกันเลย

เปิดร้านซูชิตลาดนัด ลงทุนเท่าไหร่

บอกเลยว่าไม่ต่ำกว่า 3,000 – 8,000 บาทแตกต่างกันไปตามขนาดของร้านและเมนู ในเมื่อเลือกที่เปิดร้านตามตลาดนัด ต้นทุนแรกเริ่มอย่างค่าที่หรือค่าล็อครายวัน รายสัปดาห์หรือรายเดือนนั้น ย่อมเป็นต้นทุนแรก ๆ ที่ต้องนำมาพิจารณาก่อนการเตรียมของ ดังนั้นเมื่อเอารายการที่คุณจะต้องเริ่มต้นลงทุนเปิดร้านซูชิทั้งหมดมาลงรายละเอียดแล้ว พบว่าการลงทุนเริ่มแรกควรจะอยู่ที่ 5,000 – 8,000 บาท โดยประมาณ ซึ่งถือว่าไม่น้อยและก็ไม่ได้สูงมากเกินไป โดยหากจากการเปิดร้านด้วยตัวเองแล้ว ณ เวลานี้ก็ยังมีการนำเสนอการลงทุนอีกหนึ่งช่องทางสำหรับการเปิดร้านซูชิตลาดนั้น ซึ่งจะเป็นการซื้อแฟรนไชส์หรือการรับมาขาย โดยการลงทุนเริ่มต้นจะอยู่ที่ 3,000 – 4,000 บาท โดยประมาณและอาจจะขยับขึ้นสูงไปถึงหลักหมื่นได้ซึ่งแล้วแต่ขนาดและลักษณะของร้านซึ่งเราจะเน้นเฉพาะร้านซูชิตลาดนัดโดยจะมีขนาดเล็กเป็นสำคัญ

ลงทุนซูชิตลาดนัด ต้องเตรียมอะไรบ้าง

ลงทุนเปิดร้านซูชิ

ค่าที่และค่าจ้าง

นอกจากเตรียมค่าเช่าที่ หรือ ค่าล็อคสำหรับตลาดนัดแล้ว ทุกท่านควรพิจารณาบวกค่าจ้างหรือค่าแรงตนเองเข้าไปด้วย คิดทั้งหมดให้เป็นต้นทุน เพราะเมื่อคุณไปขายของที่ตลาด เป็นธรรมดาที่จะต้องกิน ต้องใช้ ไม่ว่าจะเป็นอาหารเครื่องดื่มและบางครั้งอาจจะเผลอใจไปซื้อของอื่น ๆ ดังนั้น สิ่งที่ควรทำคือต้องตั้งค่าแรงของตนเองไว้ด้วย และเมื่อนำมารวมกับค่าที่ ส่วนนี้ก็จะเป็นค่าใช้จ่ายที่ตายตัวซึ่งจะต้องจ่ายทุก ๆ วันที่ไปขาย เอาง่าย ๆ ก็ค่าที่วันละ 200 บาท ค่าจ้างตัวเองวันละ 300 บาทก่อนแล้วกัน

ค่าอุปกรณ์

ส่วนต่อมาก็จะเป็นเรื่องของรายการอุปกรณ์ข้าวของสำหรับการทำและการขาย โดยจากข้อมูลและรายละเอียดที่เราสืบค้นมานั้น สำหรับการเปิดร้านซูชิตลาดนัด คุณควรเตรียมอุปกรณ์เหล่านี้เพื่อให้สามารถเปิดร้านได้

ถาดใส่ซูชิ เอาแบบญี่ปุ่นเพื่อให้ดูเหมาะกับอาหารที่ขาย ราคาประมาณ ชิ้นละ 50 100 บาท ตีว่าใช้ทั้งหมด 10 อัน รวมราคา 1,000 บาท
ถังไม้สำหรับทำข้าวซูชิญี่ปุ่น ราคา 1,000 – 1,500 บาท
เสื้อม้วนญี่ปุ่นสำหรับทำโรล ราคา 50 บาท
มีดอย่างดี 100 บาท
เขียงไม้ 100 บาท
กล่องใส่ซูชิสำหรับลูกค้า 150 บาท (แพ็คละ 100 ชิ้น)
ถุงพลาสติก 100 บาท (แพ็คละ 100 ชิ้น)
ตะเกียบไม้ ราคา 100 บาท (ถุงละ 100 คู่)
โชยุ ราคา 50 บาท (แพ็คละ 100 ซอง)
วาซาบิ ราคา 100 บาท (แพ็คละ 100 ซอง)
โต๊ะพับสำหรับตั้งร้าน เอาที่คงทนแข็งแรง ราคาเริ่มต้น 800 บาท

สรุปรวมค่าอุปกรณ์สำหรับการทำและการขาย ประมาณ 4,000 บาท ซึ่งหากท่านต้องการข้าวของเครื่องใช้เพิ่มเติมก็สามารถเลือกซื้อเติมได้ตามความเหมาะสม ซึ่งสำหรับการเริ่มต้นเปิดร้านใหม่ แน่นอนว่าจะยังมีปัญหาและอุปสรรคอีกมากที่ต้องจัดการ ดังนั้น อะไรที่ใช้ของที่มีอยู่ได้ก็ควรใช้ไปก่อน ไม่จำเป็นต้องซื้อใหม่ทั้งหมด ซึ่งสำหรับท่านที่เลือกซื้อแฟรนไชส์ก็อาจจะสะดวกกว่าแต่ก็ต้องจ่ายแพงกว่าด้วยเช่นกัน

วัตถุดิบ

สำหรับการเปิดร้านซูชิตลาดนัด ด้วยความที่เป็นการเปิดร้านสำหรับผู้บริโภคกลุ่มที่มีรายได้ปานกลาง ในส่วนของวัตถุดิบนั้น คุณจึงควรพิจารณาเลือกเมนูที่ไม่ทำให้ตนเองต้องแบกต้นทุนมากเกินไป ยกตัวอย่างเช่น การทำซูชิหน้าปลาดิบ การเลือกเนื้อปลาที่ราคาเหมาะสมจะสามารถช่วยให้ร้านซูชิของคุณดูดี ของไม่น้อยเกินไป และที่สำคัญก็ไม่เวอร์และมีปัญหาเรื่องวัตถุดิบอีกด้วย อาทิ เลือกแซลมอนใช้แช่แข็ง ไม่ควรมีหน้าปลาทูน่า ปลาซาบะดอง ปลาไหล เพราะราคาค่อนข้างสูง นอกจากนี้ เมนูอื่น ๆ ก็สามารถเลือกพิจารณาซื้อวัตถุดิบที่มีคุณภาพดีแต่เป็นอาหารพรีซได้ โดยสามารถมีรายการดังนี้

ข้าวญี่ปุ่นสำหรับทำซูชิ ราคา 200 250 บาท เลือกเกรดดี ๆ หน่อย
แซลมอน ราคาประมาณ 300 500 บาท
ปูอัด ราคา 150 บาท
ไข่กุ้ง ราคา 250 บาทต่อถุง
ไข่หวาน ราคา 200 บาทต่อหนึ่งก้อน
เนื้ออื่น ๆ เช่น เนื้อหมูสไลด์ เนื้อวัวสไลด์ เนื้อไก่ เพื่อนำมาทำเป็นหน้าเนื้อย่าง โดยรวมราคาไม่ควรเกิน 1,000 บาท
กุ้ง 200 บาท
สาหร่ายแผ่นห่อข้าว ราคา 200 300 บาท
น้ำสลัด มายองเนส 200 บาท
อื่น ๆ

โดยรวมราคาสำหรับวัตถุดิบที่คุณเลือกมาทำเป็นซูชิไม่ควรเกิน 2,000 3,000 บาท ต่อเดือน เพราะแม้ว่าวัตถุดิบเหล่านี้จะสามารถเก็บไว้ใช้ได้นานหากเก็บอย่างถูกวิธี แต่ก็ไม่ควรปล่อยให้งบวัตถุดิบสูงเกินกว่านี้ เพราะจะทำให้ร้านของคุณไม่มีเงินทุนหมุนเวียนมากพอในแต่ละเดือน โดยกำไรจะมากจะน้อยนั้นสำหรับการเปิดร้านซูชิตลาดนัดก็จะอยู่ที่ความสามารถในการคุ้มค่าใช้จ่ายในส่วนนี้นั่นเอง

ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ

เงินทุนสำรองคือสิ่งที่มีความจำเป็นอย่างมากสำหรับการเปิดกิจการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปิดร้านขายอาหาร ซึ่งประเด็นเกี่ยวกับความสดใหม่และคุณภาพของวัตถุดิบคือกุญแจสำคัญของความสำเร็จ ซึ่งหากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน วัตถุดิบเสีย หมดอายุหรือไม่สามารถใช้ได้ คุณจะต้องตัดสินใจทิ้งทันที โดยเงินทุนสำรองจะเข้ามาช่วยในการซื้อและจัดหาวัตถุดิบเข้ามาสำรองและหมุนเวียนภายในร้าน ดังนั้น อย่างน้อย ๆ สำหรับการเปิดร้านซูชิตลาดนัด คุณควรจะมีเงินสำรองเก็บไว้เดือนละ 2,000 3,000 บาทเพื่อใช้แก้ไขปัญหายามจำเป็น

การตั้งราคา

จะให้ขายออกง่าย ๆ ร้านซูชิตลาดนัดของคุณจะต้องมีเมนูที่หลากหลายและที่สำคัญคือ จะต้องมีซูชิต่างราคาให้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อได้อย่างสบายใจ ทั้งนี้ จากคำแนะนำของกูรูด้านธุรกิจโดยเฉพาะการขายอาหาร เริ่มต้นราคาชิ้นละ 10 บาท ซื้อ 10 ชิ้นแถม 1 ชิ้น จะเป็นแนวทางที่น่าสนใจมาก ๆ สำหรับการเปิดธุรกิจนี้ ยิ่งไปกว่านั้น สำหรับเมนูของแพงบางรายการ คุณอาจจะเพิ่มเติมเมนูพิเศษให้มีราคาสูงกว่าซูชิทั่วไปเล็กน้อย เช่น 19 หรือ 29 บาท สำหรับซูชิหน้าปลาโอ หน้าปลาทูน่า หมุนเวียนกันเป็นวัน ๆ ไปสำหรับราคาพิเศษ ซึ่งแนวทางนี้ก็จะสามารถเป็นรูปแบบการตั้งราคาซูชิที่น่าสนใจได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

บทส่งท้าย

จากรายละเอียดและข้อมูลที่เราได้นำเสนอไปนั้น คงพอจะช่วยทุกท่านให้ได้รับความรู้และไอเดียเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปิดร้านซูชิตลาดนัดไม่มากก็น้อย แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับการทำธุรกิจ คุณจะต้องคิดเสมอว่าแม้จะมีคนแนะนำ มีกูรูนำทาง แต่ในความเป็นจริงนั้น มันจะต่างบริบท ต่างเวลา ซึ่งไม่มีอะไรที่เป็นสูตรสำเร็จตายตัวสำหรับการทำธุรกิจอย่างแน่นอน ดังนั้น เพื่อให้ประสบความสำเร็จคุณจะต้องอดทนและต้องมั่นศึกษาหาความรู้ เปิดประสบการณ์และเรียนรู้ผู้บริโภคตลาดเวลาเพื่อให้สามารถปรับตัวและเปลี่ยนร้านได้ทันก่อนที่ปัญหาต่าง ๆ นั้นจะเข้ามาเยือน