5 อาหารเสริมภูมิคุ้มกัน ภูมิแพ้

การดูแลตัวเองเป็นสิ่งสำคัญ เพราะแม้ว่า ณ เวลานี้เราจะมียารักษาโรคและเทคโนโลยีทางการแพทย์ก้าวหน้าไปได้จนถึงระดับใดก็ตาม แต่ท้ายที่สุดแล้วร่างกายของแต่ละท่าน ก็ต้องเป็นหน้าที่ของตัวท่านเองที่จะต้องหมั่นดูแลสุขภาพ ร่างกายและยังต้องรวบไปถึงสุขภาพจิตใจอีกด้วย โดยในครั้งนี้เรามีข้อมูลและรายละเอียดสาระดี ๆ ที่น่าสนใจเกี่ยวกับ “อาหารเสริม” มาบอกเล่าให้ทุกท่านทราบ ซึ่งเจ้าอาหารเสริม นี้มาพร้อมกับสรรพคุณที่น่าสนใจและจะสามารถเป็นอาหารเสริมภูมิคุ้มกันให้กับทุกท่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโรคนานาชนิด เราลองไปดูกัน

อาหารเสริมภูมิคุ้มกัน 2022-2023

 

5 อาหารเสริมภูมิคุ้มกัน ภูมิแพ้ และต้านโควิด 2022-2023

จากข้อมูลและรายละเอียดที่เราได้รับจากนิตยสารเพื่อสุขภาพของ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบามรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล พบว่าจากผลการศึกษาวิจัยนั้น เราสามารถรับประทานอาหารเสริมภูมิคุ้มกันได้ โดยอาหารเหล่านั้นจะเป็นอาหารที่มีสารอาหารสำคัญหลาย ๆ ตัว ซึ่งปกติแล้วร่างกายของมนุษย์ควรจะได้รับ ซึ่งการศึกษาวิจัยในครั้งนี้ เป็นการศึกษาที่มีวัตถุประสงค์เพื่อตอบสนองความต้องการและประเด็นคำถามเกี่ยวกับ การหาแนวทางป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 ไปพร้อม ๆ กับการหาแนวทางเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้กับประชาชนทั่วไป ที่อาจจะมีโอกาสในการเข้าถึงการให้ข่าวสารและข้อมูลที่ไม่เพียงพอ สำหรับการดูแลสุขภาพของตัวเอง ดังนั้น ในครั้งนี้จากสาระที่เราได้ดำเนินการศึกษามา เราไปดูกันเลยดีกว่าว่า อาหารเสริมภูมิคุ้มกัน นั้น มีอาหารประเภทใดบ้าง

 

1.อาหารเสริมภูมิคุ้มกัน : วิตามินซี

สุดยอดแห่งสารอาหารที่สามารถเลือกรับประทานได้ทันที ทั้งจากอาหารเสริมภูมิคุ้มกันที่เป็นผลไม้ ผัก หรืออาจจะเป็นวิตามินเสริมที่มีการสกัดอย่างเข็มข้น ทั้งนี้ โดยปกติทั่วไปแล้วนั้นอ้างอิงจากข้อมูลทางการแพทย์ มนุษย์จะมีความต้องการวิตามินซีต่อวันสำหรับเด็กช่วงอายุ 1 – 8 อยู่ที่ประมาณ 25 – 40 มิลลิกรัมต่อวัน ในขณะที่ผู้ใหญ่หรือกลุ่มวัยรุ่นที่มีอายุตั้งแต่ 19 ปีขึ้นได้นั้น มีความต้องการวิตามินซีอยู่ที่ 85 – 100 มิลลิกรัมต่อวัน ดังนั้นแล้วจากข้อมูลนี้ ทุกท่านจึงมีความจำเป็นที่จะต้องรับประทานผัก ผลไม้หรืออาหารเสริม เพิ่มภูมิคุ้มกันนี้อย่างน้อยก็ประมาณ 80 – 100 มิลลิกรัมต่อวัน จึงจะเพียงพอต่อการให้ร่างกายนำสารอาหารนี้ได้ใช้ สำหรับการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันต่อไป ซึ่งเมื่อเรานำปริมาณวิตามินซีที่ควรได้รับต่อวันมาเปรียบเทียบกับปริมาณผักและผลไม้ที่ทุกท่านคนจะต้องรับประทานแล้วนั้น ผลไม้ เช่น ฝรั่ง ส้ม หรือมะขามป้อม จะมีปริมาณวิตามินซีต่อน้ำหนักที่มากที่สุด และในขณะที่ผักอย่าง พริกหวาน ผักคะน้า ก็จะเป็นผักที่มีปริมาณวิตามินซีสูงเช่นกัน อย่างไรก็ตามแม้ท่านอาจจะชอบรับประทานผักหรือผลไม้อยู่เป็นประจำ แต่ ณ เวลานี้ เราก็มีทางเลือกอื่น ๆ ซึ่งเป็นกลุ่มอาหารเสริมคุ้มกันที่จะสามารถช่วยให้ท่านรับประทานได้สะวดกมากยิ่ง โดยมีทั้ง วิตามินซีสกัด และวิตามินซีแบบออม เป็นต้น ยกตัวอย่างเช่น Blackmores bio c / DHC/ NAT C เป็นต้น

 

5 อาหารเสริมภูมิคุ้มกัน ภูมิแพ้ และต้านโควิด 2022-2023

2.อาหารเสริมภูมิคุ้มกัน : วิตามินเอ

วิตามินเอเป็นอีกหนึ่งสารอาหารเสริมภูมิคุ้มกันที่มีความสำคัญอย่างมากอีกหนึ่งตัว และด้วยความสามารถในการเพิ่มประสิทธิในการมองเห็นและต้านการเกิดสารอนุมูลอิสระที่ดวงตา ยิ่งทำให้วิตามินเอ เป็นสารอาหารจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับทุกท่าน ซึ่งต้องดำเนินชีวิตอยู่ในยุค 4.0 – 5.0 ที่ต้องใช้สายตามองหน้าจอทั้งคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ตตลอดเวลา ทั้งนี้วิตามินเอนั้น ในทางการแพทย์ยังพบว่า เป็นสารอาหารที่มีส่วนช่วยในการเสริมส่งการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน โดยจะเป็นสารอาหารที่พบมากใน เครื่องในสัตว์ ไข่แดง นม ผลิตภัณฑ์จากนม และจากพืช ผัก ผลไม้ ได้แก่ ผักใบเขียวเข้ม และผลไม้ที่มีสีเหลืองและส้ม โดยประเด็นนี้สำหรับท่านที่สามารถรับประทานอาหารเสริม เพิ่มภูมิคุ้มกันเหล่านี้ได้ตามปกติก็ถือว่าโชคดีมาก ๆ แต่สำหรับท่านที่ไม่สามารถรับประทานได้ เช่น ท่านที่มีปัญหาเกี่ยวกับการรับประทานเครื่องใน นมและผลิตภัณฑ์จากนม หรือแม้แต่เด็กหรือผู้สูงอายุที่ไม่ชอบทานผัก เราก็มีตัวช่วยให้ท่านอีกเช่นกัน กับอาหารเสริม เพิ่มภูมิคุ้มกันที่ท่านสามารถเลือกรับประทานได้จากวิตามินสกัด เช่นเดียวกับกรณีของวิตามินซี โดย มีหลายแบรนด์ที่สามารถเลือกรับประทานได้อย่างไร้กังวลเพราะได้ผ่านการพิจารณาจาก อย.แล้ว เช่น Mediviss Luteinny/ Vistra/ MEGE II Care

 

3.อาหารเสริมภูมิคุ้มกัน : สังกะสี

สังกะสี หรือ Zinc เป็นหนึ่งที่ 2 แร่ธาตุที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้สามารถทำหน้าที่ได้ปกติคู่กับ ทองแดง (Copper) อีกทั้งยังเป็นอาหารเสริมภูมิคุ้มกันที่มีส่วนสำคัญช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโตได้เป็นปกติ ชะลอความแก่ ช่วยในกระบวนการรักษาบาดแผล และสำหรับท่านที่เป็นผู้ป่วยขาดสังกะสีนั้น อาจจะส่งผลเสียและทำให้ร่างกายเกิดอาการเซื่องซึม ปวดท้อง เวียนศีรษะและอาจอาเจียน ทำให้สูญเสียน้ำจากร่างกายและส่งให้ระบบภูมิคุ้มกันมีความผิดปกติในที่สุด ดังนั้นทุกท่านจึงควรรับประทานอาหารหรืออาหารเสริม เพิ่มภูมิคุ้มกันส่วนนี้ให้เพียง ทั้งนี้ สังกะสีนั้น สามารถพบมากในอาหารประเภท เนื้อสัตว์ เนื้อไก่ อาหารทะเล เช่น กุ้ง หอย ปู และพบได้มากที่สุดในหอยนางรม และจะสามารถพบได้มากอีกเช่นกันในอาหารเสริม เพิ่มภูมิคุ้มกันกลุ่มผักใบเขียว เช่น ผักโขม มันฝรั่ง มะเขือเทศ ข้าวกล้อง ข้าวสาลี และผลไม้ เช่น มะม่วง แอปเปิ้ล สับปะรด เป็นต้น

 

4.อาหารเสริมภูมิคุ้มกัน : ทองแดง

ทองแดงเป็นแร่ธาตุหลักที่ช่วยในการสร้างพลังงาน กำจัดสารอนุมูลอิสระ และเป็นส่วนประกอบของสีที่ผิวหนัง ตา และเส้นผม นอกจากนี้ ทองแดงยังเป็นสารอาหาร เพิ่มภูมิคุ้มกันที่มีส่วนทำหน้าที่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยา (Catalyst) เพื่อช่วยในการดูดซึมแร่ธาตุเหล็กเพื่อสร้างฮีโมโกลบินในเม็ดเลือกแดง ดังนั้น ทุกท่านจึงควรรับประทานอาหารเสริม เพิ่มภูมิคุ้มกันที่มีทองแดงอยู่ด้วยในปริมาณที่เพียงพอ โดย ทุกท่านจะสามารถพบทองแดงได้จากการรับประทานอาหารประเภท ตับ ไต ไข่แดง และพืชผักบางชนิดที่มีลักษณะมีฝักมีเมล็ด (Legume) เช่น มะม่วง ลูกพรุน ผลไม้สดและผักใบเขียว

5.อาหารเสริมภูมิคุ้มกัน : จุลินทรีย์สุขภาพ (โพรไบโอติกส์)

แม้ว่าจะฟังดูเป็นสารอาหารเสริม เพิ่มภูมิคุ้มกันที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีส่วนสำคัญในการเสริมสร้างความแข็งแรงให้ร่างกาย แต่จุลินทรีย์สุขภาพนั้น สามารถช่วยส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายให้สามารถทำหน้าที่ได้ตามปกติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง จุลินทรีย์โพรไบโอติกส์ที่ได้รับจาก โยเกิร์ตและนมเปรี้ยวที่ทุกท่านสามารถเลือกรับประทานได้โดยสะดวก อีกทั้งสำหรับท่านที่บริโภคอาหารที่มีใยสูงอยู่แล้วนั้น จะยิ่งช่วยเสริมให้ร่างกายได้รับจุลินทรีย์เหล่านี้ได้อย่างเพียงพอ ทั้งนี้ สำหรับท่านที่ยังไม่แน่ใจว่ามีอาหารเสริม เพิ่มภูมิคุ้มกันชนิดใดบ้างที่มีจุลินทรีย์สุขภาพ เราจึงขอนำเสนอรายการเพิ่มเติม ดังนี้สำหรับอาหารที่มีจุลินทรีย์โพรไบโอติกส์อยู่ เช่น อาหารเสริม เพิ่มภูมิคุ้มกันประเภทธัญพืช ข้าวโอ๊ต ถั่วเมล็ดแห้ง กล้วย หัวหอมใหญ่ กระเทียม และหน่อไม้ฝรั่ง

อ้างอิง 1 2