8 แฟรนไชส์น่าลงทุน 2567

แทบจะเรียกได้ว่ารอไม่ไหว สำหรับรายละเอียดของเทรนด์ธุรกิจน่าสนใจในปี 2566 ซึ่ง ณ เวลานี้เชื่อเลยว่านักลงทุนและหลาย ๆ ท่านที่กำลังมองหาแฟรนไชส์น่าลงทุน 2566 ต่างตั้งตารอกับการเผยแพร่และอัพเดตข้อมูลจากเหล่ากูรูและผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุน เพราะสำหรับการลงทุนและการทำธุรกิจนั้น ใครเริ่มก่อนหรือ Start – up ได้ก่อน คนนั้นจะมีชัยไปกว่าครึ่ง และเชื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาครั้งนี้เราจึงมาพร้อมกับบทความแนะนำ “แฟรนไชส์น่าลงทุน 2566” เพื่อนำเสนอรายละเอียดให้ทุกท่านทราบว่าแฟรนไชส์ตัวใดจะรุ่ง ตัวไหนจะร่วงบ้าง ไปดูกันเลย

 

ธุรกิจแฟรนไชส์

สำหรับการดำเนินธุรกิจแล้ว การเลือกพิจารณาลงทุนกับธุรกิจกลุ่มแฟรนไชส์นั้น ย่อมเป็นทางเลือกหนึ่งที่มีความน่าสนใจ เพราะด้วยชื่อและแบรนด์ต่าง ๆ ซึ่งทุกท่านไม่จำเป็นต้องดำเนินการโปร์โมทหรือประชาสัมพันธ์เอง โดยการดำเนินการทั้งหมดจะมาพร้อมกับสูตรสำเร็จที่เพียบพร้อม ขอเพียงมีงบประมาณและประกอบกับการดูแลบริหารอย่างใส่ใจ การดำเนินธุรกิจแฟรนไชส์ก็จะประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก ดังนั้นแล้วในส่วนต่อจากานี้เราจะตามไปดูกันว่า ในเมื่อการทำธุรกิจแฟรนไชส์น่าลงทุน 2566 นั้น สามารถสร้างกำไรและอาจจะสร้างความสำเร็จได้ เราไปดูกันดีกว่า

 

แฟรนไชส์อาหาร

แฟรนไชส์น่าลงทุน 2566 ร้านอาหาร

ทางเลือกในการลงทุนกับแฟรนไชส์น่าลงทุน 2566 ที่เป็นด้านอาหารนั้น คงจะถูกอกถูกใจกับหลาย ๆ ท่านที่สนใจและชื่นชอบไอเดียในการนำเสนอรูปแบบของเมนูและการนำเข้าของอาหารยอดฮิตในต่างแดน ไม่ว่าจะเป็น ชาไข่มุก กาแฟ ขนม ชาบู อาหารปิ้งย่าง และอื่น ๆ อีกมากมายประกอบกับการเจริญเติบโตของแฟรนไชส์น่าลงทุน 2566 ที่เป็นอาหารไทยทั้ง ข้าวต้ม หมูกระทะ อาหารอีสาน อาหารปักใต้ ทั้งหมดนั้นจึงส่งผลให้แฟรนไชส์อาหารเป็นตัวเลือกแรก ๆ สำหรับท่านที่พอจะมีงบลงทุนตั้งแต่หลักหมื่นไปจนถึงหลักล้าน โดยมีตัวอย่างของแฟรนไชส์น่าลงทุน 2566 ที่เป็นกลุ่มอาหาร ดังนี้

แฟรนไชส์ร้านกาแฟ

เริ่มต้นได้ตั้งแต่หลักหมื่น สำหรับการตั้งร้านกาแฟที่เป็นมุม Kiosk หรืออาจจะเป็นร้านเล็ก ๆ ตามห้างสรรพสินค้าหรือปั๊มน้ำมัน ไปจนถึงการเลือกลงทุนกับร้านกาแฟซึ่งเป็นแฟรนไชส์น่าลงทุน 2566 ที่เป็นร้านใหญ่ เช่น Amazon/ Coffee World/ กาแฟพันธุ์ไทย/ มิราเคิล หรือแฟรนไชส์กาแฟรสนิยม เป็นต้น โดยจะต้องใช้งบประมาณเริ่มต้นระดับ 2 – 3 ล้าน ทั้งนี้สำหรับการลงทุนธุรกิจร้านกาแฟนั้น จะสามารถสร้างผลกำไรได้หลังจากคืนทุนซึ่งอาจจะใช้ระยะเวลาอยู่ที่ 1 – 2 ปี ด้วยระบบการบริการงานที่มีประสิทธิภาพ และสำหรับท่านที่สนใจก็สามารถเข้าไปศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ทันที ที่หน้าเว็บไซต์ของแต่ละแฟรนไชส์

แฟรนไชส์ชาไข่มุก

หวาน หอมและหนิบหนับไปกับมุก ด้วยตัวเลือกที่มีมากมายและเปิดโอกาสให้ทุกท่านสามารถเข้ามาลงทุนได้ทันทีกับแฟรนไชส์ชาไข่มุก ซึ่ง ณ เวลานี้มีหลายแบรนด์และหลายแฟรนไชส์ ยกตัวอย่างเช่น ชิบะ ฮอกไกโด มิลค์ที ซึ่งมีสาขาที่เปิดให้บริการทั่วประเทศแล้วกว่า 130 สาขา มาพร้อมกับราคาเครื่องดื่มที่ไม่แพงจนเกินไป ด้วยรสชาดเครื่องดื่มและรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ที่ดึงดูด จึงสามารถช่วยให้แฟรนไชส์น่าลงทุน 2566 นี้ติดตลาดและเป็นที่รู้จักได้อย่างรวดเร็ว และสำหรับนักลงทุน แฟรนไชส์นี้มีแพคเก็จในเลือกมากมายถึง 7 แพคเก็จ เริ่มต้นตั้งแต่หลัก 99,000 บาท ไปจนถึงร้านใหญ่ที่ 329,000 บาท จบในที่เดียวสำหรับร้านฟูลไซส์สำหรับเปิดในห้าง ซึ่งหากท่านสนใจก็สามารถเข้าศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ทันที ที่นี่ แฟรนไชส์น่าลงทุน 2566 ชานม ชิบะ ฮอกไกโด มิลค์ที

แฟรนไชส์ไมโลรถโรงเรียน

แฟรนไชส์น่าลงทุน 2566 ร้านไมโลรถโรงเรียน

ย้อนวัยให้หวนคิดถึงวันเก่า ๆ กับไมโลเครื่องดื่มแสนอร่อยถูกใจเด็ก ๆ กับแฟรนไชส์น่าลงทุน 2566 กับไมโลรถโรงเรียนซึ่งมีราคาเริ่มต้นที่สามารถจับจองเป็นเจ้าของร้านได้ง่าย ๆ เพียงหลักหมื่น 19,900 บาทเท่านั้น และด้วยเมนูและสูตรที่ได้รับการพัฒนาต่อยอดจากไมโลเย็นตั้งต้น ทุกท่านที่เปิดแฟรนไชส์น่าลงทุน 2566 ไปแล้วจะสามารถมีเมนูสำหรับขายอีกมากมาย ซึ่งสำหรับข้อมูลเพิ่มเติมนั้น สามารถเข้าติดตามได้ ที่นี่ สำหรับ DINO Frappe X ไมโลรถโรงเรียน อีกหนึ่งแฟรนไชส์น่าลงทุน 2566

แฟรนไชส์ชาบู

แฟรนไชส์น่าลงทุน 2566 ร้านชาบู

ณ เวลานี้คงจะไม่สามารถเถียงได้ว่า “ชาบู” เป็นอาหารที่ได้รับความนิยมสูงสุดหนึ่งในห้าง เพราะไม่ว่าจะเดินทางไปที่ใดร้านชาบูก็มักจะเต็มหรือมีผู้ใช้บริการมากมายอยู่เสมอ ด้วยความหลากหลายของเมนูและอาหารเคียง ที่ไม่ว่าคุณจะเป็นสายกินแหลกหรือสายสุขภาพก็สามารถรับประทานร่วมโต๊ะได้ ซึ่งส่งผลให้แฟรนไชส์ชาบูจึงเป็นที่สนใจและเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการลงทุน โดย ในปัจจุบันมีแฟรนไชส์น่าลงทุน 2566 อยู่หลายเจ้าด้วยกันที่เป็นร้านชาบู อาทิ วานิตะ ชาบูทูโก/ Shabu Indy/ OK Shabu หรือร้านต่าง ๆ ที่เป็นแฟรนไชส์ในระดับภูมิภาค ซึ่งงบประมาณเริ่มต้นนั้น ทุกท่านสามารถเลือกได้ตั้งแต่หลัก 2 – 3 แสนบาท จนขึ้นไปถึงหลัก 3 – 4 ล้านบาท ตามขนาดและโครงสร้างการบริหาร ดังนั้น หากสนใจเลือกลงทุนกับธุรกิจแฟรนไชส์อาหาร ร้านชาบูก็น่าสนใจไม่น้อย

แฟรนไชส์ สเต็ก

แฟรนไชส์น่าลงทุน 2566 ร้านสเต็ก

ด้วยเนื้อแน่น ๆ และเรื่องเคียงที่หลากหลาย ทั้งหมดนั้นจึงไม่ยากที่จะทำให้สเต็กกลายเป็นเมนูอาหารมื้อหลักสำหรับคนไทย ที่มีลักษระการบริโภคที่ต้องเน้นความคุ้มค่าเป็นสำคัญ ทั้งนี้ ด้วยจุดเด่นของเมนูสเต็กที่สามารถปรุงได้สดใหม่ นำเสนอพร้อมเสิร์ฟด้วยผักและมันฝรั่งทอด มันบดหรือแม้กระทั่งเครื่องเคียงแบบอิสระ “สเต็ก” จึงสามารถเป็นแฟรนไชส์อาหารที่น่าสนใจและน่าลงทุนเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้ ณ เวลานี้มีแฟรนไชส์น่าลงทุน 2566 ร้านสเต็กมากมายให้ท่านเลือกพิจารณา อาทิ JEFFER Steak/ NANIA Steak/ โชกุน สเต็ก เป็นต้น ซึ่งทุกท่านสามารถเข้าสืบค้นรายละเอียดการสมัครเป็นผู้บริหารแฟรนไชส์ได้ทันทีที่เว็บของแต่ละแบรนด์

 

แฟรนไชส์ร้านซักผ้า Otteri wash & dry

แฟรนไชส์น่าลงทุน 2566 ร้านซักผ้า

ด้วยรางวัลการันตีมากมายจากหลากหลายเวที ประกอบกับความสะดวกและอิสระในการบริหาร ไม่ต้องใช้เวลาในการจัดการมากนัก ส่งผลให้ Otteri wash & dry เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการลงทุนแฟรนไชส์น่าลงทุน 2566 ด้วยแนวคิดการสร้างและพัฒนาร้านให้เป็นร้านสะดวกซักที่ทันสมัย (Laundromat) ซึ่งประสบความสำเร็จมาแล้วทั่วโลก หมดกังวลเรื่องความคุ้มค่า เพราะด้วยความเข้าใจและเชี่ยวชาญในการดำเนินธุรกิจร้านสะดวกซักมาอย่างยาวนาน พร้อมเปิดโอกาสให้ทุกท่านเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งได้ทันทีกับทางเลือกมากมาย และในปัจจุบันร้านมี Application Oterri ซึ่งสามารถช่วยให้การใช้งานของลูกค้ามีความสะดวก รวดเร็ว สามารถสะสมแต้มเพิ่มเติมได้ง่ายดายจนเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้การลงทุนมีวามคุ้มค่า ซึ่งสำหรับการลงทุนร้านสะดวกซักนี้ เพิ่มเติมด้วยการกำหนดขนาดของร้านได้ดั่งใจทั้ง M/ L/ XL/ XXL ทั้งนี้หากคุณสนใจสมัครหรือต้องการเข้ามาร่วมงานกับแฟรนไชส์น่าลงทุน 2566 Otteri Wash & dry สามารถเข้าติดต่อและฝากข้อมูลส่วนตัวได้ ที่นี่ เพื่อให้บริษัทดำเนินการติดต่อกลับ

แฟรนไชส์ร้านสะดวกซื้อ FamilyMart

แฟรนไชส์น่าลงทุน 2566 ร้านสะดวกซื้อ

อีกหนึ่งแฟรนไชส์น่าลงทุน 2566 ซึ่งเป็นร้านสะดวกซื้อที่ได้รับความนิยมไม่แพ้เจ้าใด ทั้งนี้การเข้าเป็นผู้สมัครเข้ารับการพิจารณาถือแฟรนไชส์น่าลงทุนนี้ทุกท่านต้องเตรียมงบลงทุนได้ประมาณ 400,000 – 500,000 บาท โดยคิดเป็นค่าใช้จ่ายทั้งหมดดังนี้

  • ค่าทำบันทึกข้อตกลงแรกที่ 10,000 บาท
  • สิทธิแรกเข้า 80,000 บาท
  • ค่าจัดเตรียมการเปิดร้าน 10,000 บาท
  • เงินประกันสินค้าและสัญญาอีกประมาณ 300,000 บาท
  • ค่าอุปกรณ์เบ็ดเตล็ด 20,000 บาท
  • เงินสำรองทอน 20,000 บาท
  • สรุปรวมทั้งหมดที่ 440,000 บาท สำหรับอายุสัญญาที่ 6 ปี

ดังนั้นหากทุกท่านสนใจและต้องการลงทุนกับการเปิดร้าน FamilyMart สามารถเข้าติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทันทีที่ เว็บไซต์ของ Family Mart Thailand ที่นี่

สุดท้ายนี้แม้ว่าแฟรนไชศ์น่าลงทุนที่เราเลือกมานั้น อาจจะยังไม่ตรงใจหรือไม่เข้าตาท่าน แต่บทความของเราก็น่าจะพอให้ไอเดียหรือแนวทางในการเลือกพิจารณาลงทุนในธุรกิจกลุ่มแฟรนไชส์นี้ได้ไม่มากก็น้อย เพราะในการดำเนินธุรกิจนั้นแม้จะเป็นแฟรนไชส์แต่ก็จะไม่มีสูตรสำเร็จที่ได้กำไรถล่มทลายทุกทั้งไป เพราะต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ อีกหลายประการ เช่น ทำเล เทรนด์การปริโภค ลูกค้า การบริหาร การให้บริการ เป็นต้น

อ้างอิง 1 2