ไฟแนนซ์ คืออะไร จัดไฟแนนซ์ ทำได้อย่างไรบ้าง

ไฟแนนซ์ (Finance) คืออะไร

ไฟแนนซ์ (Finance) หมายถึง การบริหารจัดการเงินทุนและทรัพยากรทางการเงินในด้านต่าง ๆ โดยเกี่ยวข้องกับการวางแผน การจัดหา และการใช้เงินอย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในระดับบุคคลและองค์กร ในเชิงธุรกิจอาจหมายถึง “การระดมทุน” หรือ “การจัดหาแหล่งเงินทุน” เพื่อนำไปใช้ดำเนินการตามวัตถุประสงค์บางอย่าง เช่น การลงทุน การซื้อสินทรัพย์ การขยายกิจการ หรือแม้แต่การบริหารความเสี่ยงทางการเงิน เป็นต้น

เมื่อพูดในบริบทของบุคคลทั่วไปในประเทศไทย “ไฟแนนซ์” มักถูกใช้ในความหมายของ “การจัดไฟแนนซ์” หรือ “การกู้เงินเพื่อซื้อสินทรัพย์” เช่น ซื้อบ้าน ซื้อรถยนต์ หรือสินค้าราคาสูงอื่น ๆ ผ่านสถาบันการเงินต่าง ๆ โดยจะมีเงื่อนไขการชำระหนี้คืนพร้อมดอกเบี้ยตามระยะเวลาและอัตราดอกเบี้ยที่ตกลงกัน


การจัดไฟแนนซ์ทำได้อย่างไรบ้างในบริบทไทย

1. จัดไฟแนนซ์ผ่านธนาคารพาณิชย์

เป็นช่องทางที่แพร่หลายที่สุด ธนาคารพาณิชย์ในประเทศไทยส่วนใหญ่มักมีผลิตภัณฑ์สินเชื่อรองรับการจัดไฟแนนซ์หลายประเภท

  • สินเชื่อบ้าน (Mortgage Loan): สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อบ้านหรือคอนโดมิเนียม
  • สินเชื่อรถยนต์ (Auto Loan): สำหรับผู้ที่ต้องการซื้อรถใหม่หรือรถมือสอง
  • สินเชื่อส่วนบุคคล (Personal Loan): สำหรับผู้ที่ต้องการเงินก้อนเพื่อวัตถุประสงค์ส่วนตัว เช่น จ่ายค่าเรียน ปรับปรุงที่อยู่อาศัย หรือใช้ชำระหนี้อื่น

ข้อดี:

  • ธนาคารมักมีความน่าเชื่อถือสูง
  • อัตราดอกเบี้ยค่อนข้างแข่งขันได้ และมีหลายโปรโมชั่นให้เลือก
  • มีการกำกับดูแลจากหน่วยงานของรัฐ เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทำให้ผู้กู้ได้รับการคุ้มครองสิทธิ์ในระดับหนึ่ง

ข้อเสีย:

  • ขั้นตอนการพิจารณาอนุมัติอาจใช้เวลานาน และมีการตรวจสอบประวัติทางการเงินอย่างเข้มงวด
  • ผู้ที่มีประวัติทางการเงินไม่ดี หรือมีรายได้ไม่ชัดเจนอาจยื่นกู้ยาก

2. จัดไฟแนนซ์ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะทาง (Non-Bank)

สถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร (Non-Bank) เช่น บริษัทลิสซิ่ง บริษัทเครดิตฟองซิเอร์ หรือบริษัทสินเชื่อบุคคลที่ได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงการคลัง ให้บริการคล้ายธนาคารได้ในบางผลิตภัณฑ์

  • ลิสซิ่งรถยนต์ (Leasing): สำหรับผู้ต้องการผ่อนชำระรถยนต์ หรือใช้รถยนต์เป็นหลักประกัน
  • สินเชื่อเช่าซื้อ (Hire Purchase): สำหรับสินทรัพย์ประเภทอื่น ๆ ที่มีราคาสูง
  • สินเชื่อส่วนบุคคล (Personal Finance): ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่าเงินกู้จากธนาคาร แต่อนุมัติง่ายกว่า

ข้อดี:

  • ขั้นตอนในการอนุมัติและเอกสารที่ใช้มักง่ายกว่าเมื่อเทียบกับธนาคาร
  • ผู้กู้ที่มีรายได้ไม่ประจำหรือมีประวัติทางการเงินไม่ชัดเจน ยังมีโอกาสกู้ได้มากกว่าธนาคาร

ข้อเสีย:

  • อัตราดอกเบี้ยสูงกว่าธนาคาร
  • อาจมีเงื่อนไขหรือค่าธรรมเนียมแฝงที่ต้องพิจารณาให้รอบคอบ

3. จัดไฟแนนซ์ผ่านบริษัทฟินเทค (FinTech)

ในยุคดิจิทัล สตาร์ทอัพฟินเทคหลายรายเข้ามาเป็นตัวกลาง หรือให้บริการแพลตฟอร์มกู้ยืมเงินออนไลน์แบบ P2P Lending หรือระบบการสมัครสินเชื่อออนไลน์ที่รวดเร็ว

  • P2P Lending: ปล่อยกู้ระหว่างบุคคลกับบุคคลผ่านแพลตฟอร์ม ปัจจุบันในไทยมีจำกัด แต่เริ่มเติบโต
  • สินเชื่อออนไลน์: บริษัทฟินเทคเป็นตัวกลางเชื่อมต่อผู้กู้กับสถาบันการเงิน เพื่อลดขั้นตอนเอกสารและทำให้อนุมัติเร็วขึ้น

ข้อดี:

  • ขั้นตอนสะดวก รวดเร็ว สมัครออนไลน์ได้
  • อาจมีเงื่อนไขที่ยืดหยุ่นและตอบโจทย์คนที่ไม่ได้เข้าถึงสินเชื่อผ่านธนาคารง่าย

ข้อเสีย:

  • อาจมีความเสี่ยงจากบริษัทที่ยังไม่ได้รับใบอนุญาตหรือควบคุมไม่เข้มงวดเท่าธนาคาร
  • จำเป็นต้องตรวจสอบความน่าเชื่อถือของแพลตฟอร์มหรือผู้ให้บริการ

ขั้นตอนหลักในการจัดไฟแนนซ์

  1. กำหนดงบประมาณและวัตถุประสงค์

    • เลือกประเภทสินเชื่อหรือรูปแบบไฟแนนซ์ให้เหมาะสมกับความสามารถในการชำระเงินและเป้าหมาย เช่น ซื้อบ้าน ซื้อรถ หรือใช้เงินทุนหมุนเวียน
  2. ตรวจสอบและเตรียมเอกสาร

    • เอกสารประจำตัว (บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน)
    • เอกสารรายได้ (สลิปเงินเดือน หนังสือรับรองเงินเดือน เอกสารแสดงการเดินบัญชี)
    • เอกสารเกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ที่ต้องการซื้อ (เช่น เอกสารสิทธิ์บ้าน ใบจองรถ)
  3. เปรียบเทียบและเลือกสถาบันการเงิน

    • เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียม เงื่อนไขการผ่อนชำระ รวมถึงความยืดหยุ่นในการปรับปรุงสัญญา
  4. ยื่นคำร้องและรอพิจารณาอนุมัติ

    • ระยะเวลาในการอนุมัติอาจต่างกันตามแต่ละสถาบันการเงิน ส่วนใหญ่อยู่ที่ 1-2 สัปดาห์ (ธนาคาร) หรือภายในไม่กี่วัน (บาง Non-Bank หรือแพลตฟอร์มออนไลน์)
  5. ทำสัญญาและชำระตามเงื่อนไข

    • อ่านสัญญาให้ละเอียด พร้อมถามคำถามหรือขอรายละเอียดเพิ่มเติมถ้าไม่เข้าใจ
    • เมื่อทำสัญญาเรียบร้อย ให้จัดสรรเงินเพื่อผ่อนชำระตามระยะเวลาอย่างเคร่งครัด ป้องกันการเสียเครดิตบูโร

ข้อดี-ข้อเสียของการจัดไฟแนนซ์

ข้อดี

  1. ไม่ต้องใช้เงินก้อนใหญ่: สามารถเข้าถึงสินทรัพย์มูลค่าสูงได้โดยไม่ต้องใช้เงินก้อนทั้งหมด เช่น การผ่อนบ้านหรือรถ
  2. ช่วยบริหารกระแสเงินสด: ทำให้ยังมีเงินสดหมุนเวียนใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน หรือใช้ลงทุนด้านอื่น
  3. เพิ่มโอกาสลงทุน: หากนำเงินก้อนที่มีจำกัดไปหมุนในธุรกิจส่วนตัว อาจทำให้ได้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นแทนที่จะจ่ายเงินสดซื้อสินทรัพย์ทั้งหมด

ข้อเสีย

  1. ภาระดอกเบี้ย: ต้องรับภาระดอกเบี้ยตลอดระยะเวลาที่ผ่อนชำระ หากเป็นระยะยาวอาจต้องจ่ายดอกเบี้ยรวมสูง
  2. มีความเสี่ยงจากความผันผวนทางเศรษฐกิจ: อัตราดอกเบี้ยอาจปรับตัวสูงขึ้น ทำให้ค่างวดเพิ่มขึ้นในกรณีสินเชื่อแบบลอยตัว (Floating Rate)
  3. ภาระผูกพันระยะยาว: หากไม่สามารถจ่ายค่างวดได้ตามกำหนด อาจเกิดปัญหาทางกฎหมาย และเสียประวัติเครดิต

คำแนะนำสำหรับมือใหม่

  1. ประเมินความสามารถในการผ่อน

    • ควรให้ค่างวดต่อเดือนอยู่ในระดับที่ไม่เกิน 30-40% ของรายได้ เพื่อไม่ให้กระทบต่อค่าใช้จ่ายประจำ และยังมีเงินออม
  2. วางแผนการเงินล่วงหน้า

    • ควรมีเงินสำรองเผื่อฉุกเฉิน 3-6 เท่าของรายจ่ายรายเดือน เพื่อรองรับเหตุไม่คาดฝัน เช่น ตกงาน หรือเกิดวิกฤตทางการเงิน
  3. อ่านและทำความเข้าใจสัญญาอย่างละเอียด

    • ตรวจสอบอัตราดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียม ค่าปรับกรณีผิดนัดชำระ วิธีการคิดดอกเบี้ย (คงที่หรือลอยตัว) รวมถึงเงื่อนไขอื่น ๆ เพื่อป้องกันการเสียสิทธิ์
  4. เปรียบเทียบหลายสถาบันการเงิน

    • ธนาคารแต่ละแห่ง หรือ Non-Bank แต่ละราย จะมีอัตราดอกเบี้ย โปรโมชั่น หรือค่าธรรมเนียมต่างกัน การเปรียบเทียบก่อนตัดสินใจจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว
  5. ติดตามอัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขตลาด

    • หากอัตราดอกเบี้ยในระบบปรับลดลง อาจพิจารณา “รีไฟแนนซ์” (Refinance) เพื่อให้ได้อัตราดอกเบี้ยที่ถูกลง แต่ต้องคำนวณค่าธรรมเนียมการปิดหนี้ก่อนกำหนดด้วย
  6. ขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ

    • หากไม่มั่นใจ ควรสอบถามกับเจ้าหน้าที่สินเชื่อของธนาคาร หรือที่ปรึกษาทางการเงินเพื่อรับคำแนะนำและวางแผนได้ตรงจุด

สรุป

“ไฟแนนซ์” ในความหมายกว้างคือการจัดการบริหารเงินทุน ส่วนในบริบทของบุคคลทั่วไปในประเทศไทย มักหมายถึง “การจัดไฟแนนซ์” เพื่อซื้อสินทรัพย์หรือกู้เงินในรูปแบบต่าง ๆ ผ่านธนาคาร สถาบันการเงินเฉพาะทาง หรือบริษัทฟินเทค กระบวนการจัดไฟแนนซ์ประกอบด้วยการวางแผน กำหนดวัตถุประสงค์ ตรวจสอบความสามารถทางการเงิน เตรียมเอกสาร ยื่นคำร้องเพื่อขอสินเชื่อ และชำระคืนตามสัญญา ซึ่งมีข้อดีคือช่วยให้เข้าถึงสินทรัพย์หรือเงินทุนได้ง่ายขึ้น และสามารถบริหารกระแสเงินสดได้ แต่ก็ต้องระวังภาระดอกเบี้ย ภาระผูกพันระยะยาว และความเสี่ยงด้านเครดิต

คำแนะนำสำคัญ คือ ควรประเมินความสามารถในการผ่อนชำระอย่างรอบคอบ เปรียบเทียบเงื่อนไขจากหลายสถาบันการเงิน อ่านสัญญาอย่างถี่ถ้วน และวางแผนสำรองเพื่อรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน การจัดไฟแนนซ์จะเป็นเครื่องมือทางการเงินที่มีประสิทธิภาพหากใช้อย่างเหมาะสมและมีวินัยทางการเงินที่ดีเสมอ