เมื่อพูดถึงชื่อไปรษณีย์ไทย ทุกคนย่อมรู้จักและเคยใช้บริการอย่างแน่นอน แต่จะมีสักกี่คนที่ทราบว่าไปรษณีย์ไทยมีบริการส่งของในประเทศถึง 8 แบบ ซึ่งวิธีการส่ง ราคา และระยะเวลาการส่งก็มีความแตกต่างกันด้วย วันนี้เราจึงพาเพื่อนๆมารู้จักบริการส่งของในประเทศของไปรษณีย์ไทยทั้ง 8 แบบกันเลย รวมทั้งตอบคำถามว่าไปรษณีย์คิดค่าส่งยังไงในปี 2566 นี้ด้วย อัตราค่าส่งไปรษณีย์ทุกประเภท
1.ไปรษณีย์ด่วนพิเศษ EMS
เป็นบริการส่งด่วนที่นิยมมากที่สุด เนื่องจากสามารถติดตามพัสดุได้ทุกขั้นตอนการส่งสินค้า ของถึงปลายทางเร็วกว่าวิธีอื่น รวมทั้งมีการประกันกรณีเกิดความเสียหายอีกด้วย
ใช้เวลากี่วัน : ถึงปลายทาง 1-2 วัน
ติดตามพัสดุได้มั้ย : สามารถติดตามการส่งพัสดุได้ทุกขั้นตอนการส่ง
การกำหนดน้ำหนัก : น้ำหนักไม่เกิน 20 กก.
คิดค่าส่งยังไง : เริ่มต้นที่ 32 บาท และเพิ่มขึ้นตามน้ำหนักสินค้า ค่าบริการสูงสุด 612 บาท
2.บริการพร้อมส่ง Prompt Post
บริการส่งสินค้าสำหรับผู้ประกอบการ e-Commerce รายย่อยโดยเฉพาะ เป็นการฝากส่งในราคาเหมาจ่ายที่รวมค่ากล่องและค่าฝากส่งแล้ว และที่สำคัญมีช่อง Fast Lane ไม่ต้องกดบัตรคิวให้เสียเวลา แต่ผู้ใช้บริการต้องจองบริการพร้อมส่งผ่านแอปพลิเคชั่นหรือเว็บไซต์ก่อนนะ
ใช้เวลากี่วัน : ถึงปลายทาง 1-2 วัน
ติดตามพัสดุได้มั้ย : สามารถติดตามการส่งพัสดุได้ทุกขั้นตอนการส่ง
การกำหนดน้ำหนัก : น้ำหนักไม่เกิน 3 กก.
คิดค่าส่งยังไง : กล่อง SS 30 บาท กล่อง S 35 บาท กล่อง M 65 บาท และ กล่อง L 75 บาท
3.ไปรษณีย์ลงทะเบียน Registered
เป็นบริการฝากส่งที่ทุกคนคุ้ยเคยกันดี เนื่องจากราคาถูก และเหมาะในกรณีที่ไม่ต้องรีบส่งสินค้า
ใช้เวลากี่วัน : ถึงปลายทาง 2-5 วัน
ติดตามพัสดุได้มั้ย : สามารถติดตามการส่งพัสดุได้เฉพาะต้นทางและปลายทาง
การกำหนดน้ำหนัก : น้ำหนักไม่เกิน 2 กก.
คิดค่าส่งยังไง : เริ่มต้นที่ 22 บาท และเพิ่มขึ้นตามน้ำหนักสินค้า ค่าบริการสูงสุด 58 บาท
4.อีโค-โพสต์ eCo-Post Registered
eCo-post เป็นบริการฝากส่งแบบประหยัด รองรับน้ำหนักถึง 10 กก. และมีการคุ้มครองสูง 1,500 บาท
ใช้เวลากี่วัน : ถึงปลายทาง 2-5 วัน
ติดตามพัสดุได้มั้ย : สามารถติดตามการส่งพัสดุได้เฉพาะต้นทางและปลายทาง
การกำหนดน้ำหนัก : น้ำหนักไม่เกิน 10 กก.
คิดค่าส่งยังไง : เริ่มต้นที่ 20 บาท และเพิ่มขึ้นตามน้ำหนักสินค้า ค่าบริการสูงสุด 160 บาท
5.ไปรษณีย์รับประกัน Insured
เป็นบริการที่ให้การคุ้มครองและรับประกันความปลอดภัยแก่สิ่งของเป็นพิเศษ โดยมีหลักฐานอย่างละเอียดทุกขั้นตอน หากสูญหายหรือเสียหายจะได้รับการชดใช้สูงสุดตามวงเงินที่รับประกัน
ใช้เวลากี่วัน : ถึงปลายทาง 2-5 วัน
ติดตามพัสดุได้มั้ย : สามารถตรวจสอบกับ ปณ.ปลายทาง ได้เท่านั้น
การกำหนดน้ำหนัก : น้ำหนักไม่เกิน 2 กก.
คิดค่าส่งยังไง : คิดค่าบริการตามน้ำหนักในอัตราของบริการไปรษณีย์ธรรมดา บวกค่าปฏิบัติการพิเศษ 15 บาทและค่าเบี้ยประกัน 5 บาทต่อวงเงินรับประกันทุกๆ 500 บาท สูงสุดไม่เกิน 5,000 บาท
6.ไปรษณีย์รับรอง Certified
เป็นการฝากส่งที่เหมาะกับการส่งเอกสารที่มีความสำคัญไม่มากนัก ไปรษณีย์ไทยจะมีหลักฐานเป็นเอกสารในขั้นตอนการรับฝาก การส่งต่อ และการนำจ่าย แต่ผู้ใช้บริการจะต้องติดตามสถานะสิ่งของโดยการส่งคำร้องผ่านการสอบสวนเท่านั้น
ใช้เวลากี่วัน : ถึงปลายทาง 2-5 วัน
ติดตามพัสดุได้มั้ย : สามารถตรวจสอบกับ ปณ.ปลายทาง ได้เท่านั้น
การกำหนดน้ำหนัก : น้ำหนักไม่เกิน 2 กก.
คิดค่าส่งยังไง : คิดค่าบริการตามน้ำหนักในอัตราของบริการไปรษณีย์ธรรมดา บวกค่าปฏิบัติการพิเศษ 8 บาท
7.พัสดุไปรษณีย์
เป็นการฝากส่งที่ราคาถูกที่สุด แต่มีข้อเสียคือไม่สามารถตรวจตรวจสอบว่าของที่ฝากส่งถึงไหนแล้ว จนกว่าของจะถึงปลายทางจึงจะสามารถตรวจสอบได้
ใช้เวลากี่วัน : ถึงปลายทาง 3-5 วัน
ติดตามพัสดุได้มั้ย : สามารถตรวจสอบกับ ปณ.ปลายทาง ได้เท่านั้น
การกำหนดน้ำหนัก : น้ำหนักไม่เกิน 20 กก.
คิดค่าส่งยังไง : ราคาเริ่มต้นที่ 20 บาท
8.โลจิสโพสต์ ส่งของขนาดใหญ่ Logispost
เป็นบริการขนส่งสิ่งของขนาดใหญ่ หรือมีรูปร่างพิเศษ เหมาะกับการขนส่งสินค้าซึ่งมีน้ำหนักมากหรือมีบรรจุภัณฑ์ขนาดใหญ่ และที่สำคัญคือสามารถติดตามการส่งสินค้าได้ในทุกขั้นตอนการส่ง เช่นเดียวกับการส่งแบบ EMS
ใช้เวลากี่วัน : ถึงปลายทาง 5-7 วัน
ติดตามพัสดุได้มั้ย : สามารถติดตามการส่งพัสดุได้ทุกขั้นตอนการส่ง
การกำหนดน้ำหนัก : น้ำหนักมากกว่า 20-200 กก.
คิดค่าส่งยังไง : คิดค่าบริการตามน้ำหนักที่ชั่งได้และการคำนวนจากปริมาตรสินค้า (กว้างxยาวxสูง)
Tag
อัตราค่าส่งไปรษณีย์ 2566
แม่ค้าออนไลน์ คิดค่าส่งยังไง
ส่งของ 20 กิโล ไปรษณีย์
อัตราค่าส่งไปรษณีย์ไทย 2566
ค่าส่งไปรษณีย์ 2566
อัตราค่าส่งไปรษณีย์ไทย แบบ ต่างๆ