แอพยืมเงินได้จริง 2025 ล่าสุด

ในยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว แอพพลิเคชันทางการเงินเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของคนไทยอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการโอนเงิน ชำระค่าบริการ ซื้อสินค้าออนไลน์ หรือแม้แต่การยืมเงิน การพัฒนาของแอพยืมเงินช่วยให้การเข้าถึงสินเชื่อเป็นเรื่องง่ายขึ้น ลดเวลาที่ต้องใช้ในการขออนุมัติ และยังเพิ่มโอกาสให้ผู้มีรายได้น้อย ผู้ที่เป็นฟรีแลนซ์ หรือผู้ที่ไม่มีหลักประกัน สามารถขอสินเชื่อเพื่อใช้จ่ายฉุกเฉิน ต่อยอดธุรกิจ หรือใช้ในวัตถุประสงค์อื่น ๆ ได้อย่างสะดวก

ในปี 2025 ที่หลายคนคาดการณ์ว่าอาจมีวิกฤตเศรษฐกิจ หรือการแข่งขันทางเศรษฐกิจสูง แอพยืมเงิน ก็เป็นทางเลือกหนึ่งที่มาช่วยซัพพอร์ตคนยุคใหม่ที่ต้องการเงินทุนหมุนเวียนไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือใหญ่ บทความนี้จะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับ 10 แอพยืมเงินที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย มีการให้บริการสินเชื่อที่ผ่านง่าย ใช้เวลาอนุมัติรวดเร็ว พร้อมทั้งแนะนำข้อดีข้อเสียของแต่ละแอพ เอกสารที่ต้องใช้ประกอบการสมัคร แนวทางในการสมัครให้ผ่าน ฉบับปี 2025 และคำถามที่พบบ่อยเพื่อให้ทุกคนได้เตรียมตัวและตัดสินใจสมัครอย่างมั่นใจ

แอพยืมเงินได้จริง 2025

สมัยก่อนหากต้องการเงินกู้ฉุกเฉิน เรามักจะต้องเดินทางไปธนาคารหรือสถาบันการเงิน ยื่นเอกสารหลายอย่าง รออนุมัติหลายวันหรือเป็นสัปดาห์ บางคนอาจไม่ผ่านการอนุมัติเพราะไม่มีสลิปเงินเดือน ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน หรือมีปัญหาเครดิต แต่ในยุคปัจจุบันการใช้แอพยืมเงินเข้ามาเปลี่ยนแปลงวงการการกู้ยืม ให้สามารถเข้าถึงได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น

แอพยืมเงินที่ถูกกฎหมายในไทย จะต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของธนาคารแห่งประเทศไทย หรือทำงานร่วมกับสถาบันการเงินที่ได้รับใบอนุญาต ซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบ บริหารความเสี่ยง และรักษาความปลอดภัยของข้อมูลผู้ใช้บริการ จุดสำคัญคือการเลือกใช้แอพที่มีความน่าเชื่อถือ มีรีวิวผู้ใช้จริงในเชิงบวก และเป็นแพลตฟอร์มที่ให้ข้อมูลเงื่อนไขอัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมอย่างโปร่งใส

นอกจากนี้ การพัฒนาเทคโนโลยีของบริษัท FinTech ทำให้กระบวนการตรวจสอบและวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินของผู้กู้เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว บางแอพสามารถอนุมัติวงเงินได้ภายใน 5-30 นาทีหลังยื่นสมัคร และเงินจะโอนเข้าบัญชีโดยตรงภายในไม่กี่ชั่วโมง หรือภายใน 24 ชั่วโมงขึ้นกับเงื่อนไขของแต่ละแอพ ทำให้ผู้กู้สามารถแก้ปัญหาทางการเงินเร่งด่วนได้ทันเวลา

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือการอ่านและทำความเข้าใจเงื่อนไขของสินเชื่อให้ดี ไม่ว่าจะเป็นอัตราดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียม การผ่อนชำระ และบทลงโทษกรณีผิดนัดชำระหนี้ เพื่อไม่ให้ตกเป็นภาระหรือโดนดอกเบี้ยแพงเกินไป ควรศึกษาเปรียบเทียบหลาย ๆ แอพก่อนตัดสินใจ

10 แอพยืมเงินไทยยอดนิยม 2025

ในส่วนนี้ เราจะพูดถึง 10 แอพยืมเงินที่ถือว่ามีความน่าเชื่อถือสูง ใช้งานง่าย และรองรับคนหลากหลายกลุ่ม ทั้งผู้มีรายได้ประจำ ฟรีแลนซ์ หรือผู้ที่มีธุรกิจส่วนตัว จุดสำคัญคือแต่ละแอพมีคุณสมบัติ อัตราดอกเบี้ย ระยะเวลาผ่อน และเอกสารที่ต้องใช้แตกต่างกันไป เพื่อให้ผู้อ่านเลือกสมัครได้เหมาะสมกับสถานะการเงินของตนเอง

LINE BK

LINE BK เป็นบริการ Social Banking ร่วมมือระหว่าง LINE และธนาคารกสิกรไทย ให้บริการด้านการเงินครอบคลุม ทั้งฝากเงิน โอนเงิน และขอสินเชื่อได้ผ่านแอพ LINE โดยตรง จุดเด่นคือความง่ายในการสมัครและวงเงินอนุมัติที่เหมาะสมกับคนทั่วไป

  • ข้อดี: • สมัครง่ายผ่านแอพ LINE ที่ใช้งานอยู่แล้ว • วงเงินให้กู้เริ่มต้นค่อนข้างยืดหยุ่น • ใช้งานสะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องยื่นเอกสารหลายอย่าง

  • ข้อเสีย: • บางครั้งอาจมีการขอตรวจสอบบัญชีธนาคารหรือสลิปเงินเดือนเพิ่มเติม • วงเงินสูงสุดอาจไม่เพียงพอสำหรับผู้ที่ต้องการกู้หลักแสนขึ้นไป

  • เอกสารที่ต้องใช้: บัตรประชาชน, สลิปเงินเดือน (กรณีต้องการวงเงินสูง)

  • วิธีสมัครให้ผ่าน: เตรียมรายการเดินบัญชี (Statement) ของธนาคารกสิกรไทย หรือธนาคารที่ร่วมเครือให้ชัดเจน และกรอกข้อมูลตามจริงในขั้นตอนการยืนยันตัวตน

Dolfin Money

Dolfin Money เป็นบริการสินเชื่อออนไลน์ที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างธนาคารกสิกรไทยและเครือเซ็นทรัล มีการใช้เทคโนโลยี AI ในการประมวลผลทำให้อนุมัติวงเงินได้เร็ว เหมาะกับคนที่มีประวัติทางการเงินดี หรือต้องการขอสินเชื่อหมุนเวียน

  • ข้อดี: • แอพใช้งานง่าย ผูกบัญชีกับ K PLUS ได้สะดวก • การวิเคราะห์เครดิตด้วย AI รวดเร็ว • มีโปรโมชันผ่อนสินค้า 0% กับร้านค้าในเครือเซ็นทรัล

  • ข้อเสีย: • ผู้ที่ไม่มีบัญชีธนาคารกสิกรไทยอาจไม่สะดวกในการเชื่อมต่อ • หากมีประวัติค้างชำระหรือเครดิตเสีย อาจอนุมัติยาก

  • เอกสารที่ต้องใช้: บัตรประชาชน, สเตทเมนต์บัญชี (ถ้ามี)

  • วิธีสมัครให้ผ่าน: ผูกบัญชีกับ K PLUS และตรวจสอบประวัติการเงินให้พร้อม ชำระเงินให้ตรงเวลาในบัตรเครดิตหรือสินเชื่อต่าง ๆ เพื่อให้คะแนนเครดิตดี

เงินทันเด้อ (Money Thunder)

เงินทันเด้อ เป็นแอพที่พัฒนาโดย SCB Abacus บริษัทในเครือธนาคารไทยพาณิชย์ ให้บริการสินเชื่อบุคคลออนไลน์ โดยเน้นกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ไม่ประจำ รวมถึงฟรีแลนซ์ ที่อาจเข้าถึงสินเชื่อแบบดั้งเดิมได้ยาก

  • ข้อดี: • เปิดโอกาสให้ผู้มีรายได้น้อยหรือไม่ประจำกู้ได้ • ขั้นตอนสมัครผ่านแอพ ไม่ต้องใช้หลักค้ำประกัน • ระบบอนุมัติรวดเร็วภายในไม่กี่นาที

  • ข้อเสีย: • อาจได้วงเงินไม่สูงมากในกรณีเพิ่งเริ่มต้น • ดอกเบี้ยอาจสูงกว่าสินเชื่อธนาคารบางประเภท

  • เอกสารที่ต้องใช้: บัตรประชาชน, หลักฐานรายได้ (สลิปเงินเดือนหรือ Statement)

  • วิธีสมัครให้ผ่าน: กรอกข้อมูลรายได้ รายการเดินบัญชีให้ครบถ้วน หากเป็นฟรีแลนซ์ให้แสดงหลักฐานรายรับที่สม่ำเสมอ เช่น Statement รายรับโอนเข้าบัญชีทุกเดือน

ฟินนิกซ์ (Finnix)

Finnix เป็นแอพสินเชื่อออนไลน์รายย่อยที่ได้รับความนิยม เน้นกลุ่มวัยทำงานฟรีแลนซ์ หรือผู้ประกอบอาชีพอิสระที่ต้องการเงินสดฉุกเฉิน จุดเด่นคืออนุมัติไว และสามารถใช้วงเงินได้หลากหลายวัตถุประสงค์

  • ข้อดี: • ไม่จำเป็นต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน • มีขั้นตอนการสมัครที่เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน • มีระบบแจ้งเตือนให้ชำระเงินตรงเวลา

  • ข้อเสีย: • ดอกเบี้ยค่อนข้างสูง หากเป็นการกู้ในระยะยาว • ผู้สมัครใหม่อาจได้วงเงินเริ่มต้นน้อย

  • เอกสารที่ต้องใช้: บัตรประชาชน, เอกสารยืนยันตัวตน, หลักฐานรายได้

  • วิธีสมัครให้ผ่าน: กรอกข้อมูลส่วนตัวตามความเป็นจริง ประเมินความสามารถในการผ่อนคืนอย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้มีโอกาสผิดนัดชำระ

MyMo สินเชื่อออมสิน

MyMo เป็นแอพของธนาคารออมสินที่ปรับปรุงรูปแบบการให้บริการเงินฝากและสินเชื่อส่วนบุคคล โดยเฉพาะสินเชื่อออมสินที่เน้นอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าแอพเอกชนบางราย เหมาะกับคนที่ต้องการความเชื่อมั่นในการบริการจากธนาคารรัฐบาล

  • ข้อดี: • ดอกเบี้ยต่ำกว่าเมื่อเทียบกับแอพเอกชน • มีหลากหลายผลิตภัณฑ์สินเชื่อในแอพเดียว • เชื่อถือได้เพราะเป็นธนาคารของรัฐ

  • ข้อเสีย: • ขั้นตอนสมัครอาจมีหลายขั้นตอน ต้องยืนยันตัวตนกับสาขาธนาคาร • ต้องมีบัญชีกับธนาคารออมสินก่อน

  • เอกสารที่ต้องใช้: บัตรประชาชน, สมุดบัญชีออมสิน, หลักฐานรายได้

  • วิธีสมัครให้ผ่าน: เปิดบัญชีกับธนาคารออมสิน และเตรียมเอกสารให้ครบ สลิปเงินเดือนหรือ Statement การเดินบัญชีควรไม่มีรายการที่เป็นปัญหา เพื่อให้ธนาคารมั่นใจในศักยภาพการผ่อนคืน

TrueMoney Wallet

แม้ว่า TrueMoney Wallet จะเริ่มต้นจากการเป็นกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ ใช้จ่ายสินค้าและบริการต่าง ๆ ได้สะดวก แต่ในช่วงหลังมีการร่วมมือกับสถาบันการเงินให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลในวงเงินขนาดเล็กและขนาดกลาง

  • ข้อดี: • ผู้ใช้ TrueMoney Wallet เดิมสมัครง่าย • วงเงินขนาดเล็ก เหมาะสำหรับค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน • ผ่อนชำระผ่านแอพได้ทันที

  • ข้อเสีย: • วงเงินอาจต่ำกว่าแอพสินเชื่อเฉพาะทาง • ดอกเบี้ยค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับธนาคาร

  • เอกสารที่ต้องใช้: บัตรประชาชน, ข้อมูลการเงินในแอพ

  • วิธีสมัครให้ผ่าน: สร้างประวัติการใช้จ่ายและการผูกบัญชีธนาคารใน TrueMoney Wallet ให้สม่ำเสมอ เมื่อจะสมัครสินเชื่อระบบจะพิจารณาจากพฤติกรรมการใช้จ่ายและการผูกบัญชี

K PLUS กสิกรไทย

K PLUS เป็นแอพโมบายแบงกิ้งของธนาคารกสิกรไทย นอกจากการโอนเงิน ชำระบิล หรือซื้อกองทุน ยังมีฟีเจอร์ขอสินเชื่อบุคคลออนไลน์ที่สะดวก คล้ายกับการขอสินเชื่อผ่านธนาคาร แต่สามารถทำได้บนมือถือ

  • ข้อดี: • รองรับลูกค้าที่มีบัญชีธนาคารกสิกรไทยสะดวก • วงเงินกู้หลากหลาย มีทั้งสินเชื่อบุคคลและสินเชื่อเพื่อธุรกิจ • มีโปรโมชั่นพิเศษเป็นช่วง ๆ

  • ข้อเสีย: • ผู้ที่ไม่มีบัญชีกสิกรไทยอาจต้องเปิดบัญชีก่อน • ขั้นตอนตรวจสอบเอกสารค่อนข้างเข้มงวดตามมาตรฐานธนาคาร

  • เอกสารที่ต้องใช้: บัตรประชาชน, สลิปเงินเดือน, Statement

  • วิธีสมัครให้ผ่าน: ตรวจสอบประวัติการเดินบัญชีให้มีรายได้สม่ำเสมอ และไม่มีประวัติค้างชำระกับธนาคารกสิกรไทย

SCB Easy ไทยพาณิชย์

SCB Easy เป็นแอพของธนาคารไทยพาณิชย์ที่ได้รับความนิยมสูง ด้วยฟีเจอร์ทางการเงินที่ครบวงจร รวมถึงการขอสินเชื่อผ่านแอพแบบไม่ต้องไปสาขา สะดวกมากสำหรับลูกค้า SCB

  • ข้อดี: • เหมาะสำหรับลูกค้าไทยพาณิชย์ที่ใช้แอพอยู่แล้ว • มีสินเชื่อหลากหลายประเภททั้งอัตราดอกเบี้ยคงที่และลดต้นลดดอก • สามารถติดตามสถานะการอนุมัติผ่านแอพ

  • ข้อเสีย: • อาจต้องใช้เอกสารเพิ่มเติมเมื่อวงเงินสูง • ต้องผ่านการประเมินเครดิตเชิงลึกจากธนาคาร

  • เอกสารที่ต้องใช้: บัตรประชาชน, สลิปเงินเดือน, Statement ของ SCB

  • วิธีสมัครให้ผ่าน: ควรมีบัญชีเงินเดือนหรือเดินบัญชีกับ SCB อย่างต่อเนื่อง และไม่มีประวัติค้างจ่ายในบัตรเครดิตหรือสินเชื่อใด ๆ

Krungthai NEXT กรุงไทย

Krungthai NEXT เป็นแอพธนาคารกรุงไทยที่ปรับปรุงใหม่ เน้นให้บริการทางการเงินออนไลน์ครบวงจร รวมถึงสินเชื่อส่วนบุคคลที่ตอบโจทย์หลายกลุ่มอาชีพ

  • ข้อดี: • ธนาคารกรุงไทยเป็นธนาคารรัฐ มั่นคงสูง • มีโปรโมชั่นกับหน่วยงานราชการและรัฐวิสาหกิจ • อนุมัติวงเงินตามศักยภาพการชำระคืน

  • ข้อเสีย: • อาจต้องใช้เวลาในการตรวจสอบข้อมูลนานกว่าแอพเอกชนบางราย • เงื่อนไขอาจเข้มงวดเรื่องเอกสาร

  • เอกสารที่ต้องใช้: บัตรประชาชน, สมุดบัญชีกรุงไทย, สลิปเงินเดือน

  • วิธีสมัครให้ผ่าน: เตรียมเอกสารให้ครบ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไม่มีหนี้เสียกับสถาบันการเงินอื่น เพื่อให้ธนาคารพิจารณาได้ง่ายขึ้น

Shopee Pay Later ผ่านแอพ Shopee

แม้จะไม่ใช่สินเชื่อธนาคารโดยตรง แต่ Shopee Pay Later ถือเป็นอีกทางเลือกในการยืมเงินรูปแบบ “ซื้อก่อนผ่อนทีหลัง” ที่ช่วยให้ผู้ที่ต้องการซื้อสินค้าจำเป็นสามารถผ่อนชำระได้ โดยอาจได้รับวงเงินใช้จ่ายตามประวัติการซื้อขายใน Shopee

  • ข้อดี: • สมัครผ่านแอพ Shopee ที่หลายคนคุ้นเคย • วงเงินอนุมัติขึ้นอยู่กับระดับสมาชิกและประวัติการซื้อ • สะดวกสำหรับผู้ที่ใช้ Shopee เป็นประจำ

  • ข้อเสีย: • ดอกเบี้ยหรือค่าธรรมเนียมผ่อนสินค้าค่อนข้างสูง • ไม่ได้เป็นเงินสดโอนเข้าบัญชี แต่เป็นวงเงินซื้อสินค้า

  • เอกสารที่ต้องใช้: ยืนยันตัวตนในแอพ Shopee, บัตรประชาชน

  • วิธีสมัครให้ผ่าน: สร้างประวัติการซื้อขายและรีวิวที่ดี มีการยืนยันตัวตนครบถ้วน และไม่มีการค้างชำระในระบบ

ข้อดีข้อเสียของการยืมเงินผ่านแอพ

ข้อดี

  • สะดวกและรวดเร็ว: ไม่จำเป็นต้องเดินทางไปธนาคารหรือกรอกเอกสารหลายฉบับ แอพส่วนใหญ่สามารถสมัครและรู้ผลอนุมัติได้ในระยะเวลาสั้น

  • ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน: หลายแอพมองที่ประวัติเครดิตและกระแสเงินเข้าออกเป็นหลัก ทำให้ผู้ไม่มีทรัพย์สินค้ำประกันสามารถขอสินเชื่อได้

  • อนุมัติสำหรับผู้มีรายได้ไม่ประจำ: ฟรีแลนซ์ หรือผู้ค้าขนาดเล็กมีโอกาสเข้าถึงวงเงินฉุกเฉินได้ง่ายกว่าเมื่อเทียบกับการกู้ธนาคารแบบดั้งเดิม

  • เทคโนโลยี AI และ Big Data: ช่วยตรวจสอบข้อมูลอย่างรวดเร็วและแม่นยำ ลดกระบวนการตรวจสอบเอกสารแบบเก่า

  • รองรับการผ่อนชำระหลายแบบ: สามารถจ่ายคืนผ่าน e-wallet, ผูกบัญชีธนาคาร หรือจ่ายเป็นงวด รายเดือน หรือจ่ายขั้นต่ำบางส่วนได้ตามแอพที่กำหนด

ข้อเสีย

  • อัตราดอกเบี้ยสูง: เนื่องจากเป็นสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกันและมีความเสี่ยงสูง จึงมักมีดอกเบี้ยสูงกว่าสินเชื่อธนาคารทั่วไป

  • วงเงินอาจจำกัด: สำหรับผู้ที่เพิ่งเริ่มสมัครหรือมีเครดิตไม่มาก อาจได้วงเงินต่ำ ไม่เพียงพอต่อความต้องการ

  • ระวังแอพปลอม: หากไม่เลือกแอพจากสถาบันการเงินหรือบริษัทที่ได้รับใบอนุญาต อาจเจอการฉ้อโกงหรือดอกเบี้ยโหด

  • อาจมีค่าธรรมเนียมแฝง: ควรอ่านสัญญาหรือเงื่อนไขให้ละเอียด เพราะบางแอพอาจคิดค่าธรรมเนียมดำเนินการหรือค่าธรรมเนียมอื่น ๆ เพิ่มเติม

เอกสารประกอบการสมัครและวิธีเตรียมตัว

การเตรียมเอกสารอย่างถูกต้องและครบถ้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้การขอสินเชื่อผ่านแอพได้รับการอนุมัติได้ง่ายขึ้น โดยทั่วไปแล้ว แอพยืมเงินมักจะขอเอกสารตามนี้

4.1 บัตรประจำตัวประชาชน เป็นเอกสารหลักที่ใช้ยืนยันตัวตนผู้สมัคร บางแอพจะให้สแกน QR Code หรือถ่ายรูปหน้าบัตรจากกล้องภายในแอพ เพื่อตรวจสอบความถูกต้องเปรียบเทียบกับฐานข้อมูล

4.2 หลักฐานรายได้ อาจเป็นสลิปเงินเดือน หนังสือรับรองเงินเดือน หรือ Statement บัญชีธนาคารย้อนหลัง 3-6 เดือน เพื่อแสดงกระแสรายรับของผู้สมัคร สำหรับฟรีแลนซ์อาจต้องแสดงเอกสารการโอนเงินจากลูกค้า หรือเอกสารรับเงินในรูปแบบอื่น ๆ ที่สม่ำเสมอ

4.3 เอกสารประกอบอื่น ๆ (ขึ้นอยู่กับแอพ) บางแอพอาจขอเอกสารเฉพาะเจาะจง เช่น ทะเบียนบ้าน ใบรับรองการจดทะเบียนการค้า หรือหนังสือสัญญาจ้างงาน เพื่อประกอบการพิจารณาว่าคุณมีรายได้ที่มั่นคง

4.4 การเตรียมตัวอื่น ๆ

  • ตรวจสอบประวัติเครดิต: ก่อนสมัคร ควรเช็กว่าเราไม่มีประวัติเครดิตบูโรที่ค้างชำระ หรือหากมีหนี้สินอื่น ๆ ควรบริหารให้ดี

  • มีเบอร์โทรติดต่อและที่อยู่ที่ชัดเจน: หลายแอพต้องการยืนยันตัวตนผ่านเบอร์มือถือที่ลงทะเบียนไว้อย่างถูกต้อง

  • เลือกเวลาสมัคร: พยายามสมัครในช่วงเวลาทำการของธนาคาร เพื่อให้การตรวจสอบทำได้ทันที (แม้ว่าบางแอพจะอนุมัติ 24 ชม. แต่การประมวลผลภายในเวลาทำการอาจเร็วกว่า)

แนวทางสมัครสินเชื่อให้ผ่านฉลุย

1 กรอกข้อมูลตามความเป็นจริง ความถูกต้องของข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญ หากให้ข้อมูลเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริง แอพอาจตรวจสอบพบและปฏิเสธคำขอได้ ซึ่งส่งผลให้เครดิตของคุณเสีย

2 เลือกสมัครกับแอพที่เหมาะกับรายได้และประวัติเครดิต อ่านเงื่อนไขคุณสมบัติก่อนสมัครว่าเหมาะสมกับรายได้ของคุณหรือไม่ เช่น บางแอพอาจกำหนดรายได้ขั้นต่ำ 8,000 บาทต่อเดือน ในขณะที่บางแอพอาจเน้นฟรีแลนซ์เป็นหลัก

3 เตรียมหลักฐานรายรับให้พร้อม แม้จะสมัครผ่านแอพ แต่ส่วนมากก็ต้องมีหลักฐานแสดงรายได้เพื่อแสดงความสามารถในการผ่อนจ่าย ยิ่งถ้ารายรับสม่ำเสมอและเป็นระบบ แอพจะมั่นใจและอนุมัติได้ง่ายขึ้น

4 รักษาเครดิต การจ่ายค่าบัตรเครดิตหรือหนี้สินอื่น ๆ ตรงตามเวลาเป็นตัวบ่งชี้ว่าคุณมีวินัยทางการเงิน แอพสินเชื่อส่วนมากจะเช็กคะแนนเครดิตจากระบบเครดิตบูโรก่อนอนุมัติ

5 สมัครเฉพาะที่จำเป็น หากสมัครหลายแอพพร้อมกัน อาจส่งผลให้สถาบันการเงินมองว่าคุณมีโอกาสเป็นหนี้สูงขึ้น จึงลดโอกาสอนุมัติได้ ควรเลือกสมัครเฉพาะแอพหรือสินเชื่อที่คุณต้องการจริง ๆ

6 ติดตามสถานะและแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมหากมี หลังจากยื่นสมัครแล้ว หากแอพติดต่อขอข้อมูลหรือเอกสารเพิ่มเติม ควรรีบจัดส่งให้เร็วที่สุด เพื่อลดความล่าช้าในการอนุมัติ

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)


1 อัตราดอกเบี้ยแอพยืมเงินสูงไหม อัตราดอกเบี้ยโดยเฉลี่ยของแอพยืมเงินมักจะอยู่ในช่วง 15-28% ต่อปี (ขึ้นอยู่กับประเภทสินเชื่อและคุณสมบัติผู้กู้) ซึ่งค่อนข้างสูงกว่าสินเชื่อธนาคารแบบมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน แต่แลกมากับความสะดวกและความรวดเร็วในการอนุมัติ

2 ถ้าไม่มีสลิปเงินเดือน จะสมัครได้ไหม ได้ บางแอพรับพิจารณาจาก Statement บัญชีธนาคารหรือหลักฐานการโอนเงินที่สม่ำเสมอสำหรับผู้ที่ไม่มีสลิปเงินเดือน เช่น ฟรีแลนซ์หรือแม่ค้าขายออนไลน์

3 สมัครแล้วไม่ผ่านจะสมัครซ้ำได้เมื่อไหร่ ขึ้นอยู่กับแต่ละแอพ บางแอพอาจให้สมัครใหม่หลัง 30 วัน หรือ 60 วัน หรือหลังจากที่คุณปรับปรุงข้อมูลทางการเงินแล้ว ควรตรวจสอบนโยบายของแต่ละแอพโดยตรง

4 ผ่อนชำระอย่างไร ส่วนใหญ่จะชำระผ่านการตัดบัญชีอัตโนมัติหรือจ่ายผ่านโมบายแบงกิ้ง บางแอพอาจให้ชำระผ่าน e-wallet หรือเคาน์เตอร์เซอร์วิส ควรศึกษาให้ชัดเจนว่าแอพใช้ช่องทางชำระเงินแบบไหนและมีค่าธรรมเนียมหรือไม่

5 ถ้าไม่ชำระหนี้ตรงเวลา จะเป็นอย่างไร ดอกเบี้ยปรับหรือค่าปรับล่าชำระจะเริ่มต้นทันที บางแอพคิดค่าปรับรายวันหรือรายเดือน นอกจากนี้ยังส่งผลเสียต่อประวัติเครดิตบูโร ทำให้ยากต่อการขอสินเชื่อในอนาคต

6 ต้องใช้คนค้ำหรือไม่ แอพยืมเงินส่วนใหญ่ไม่ต้องใช้คนค้ำประกัน เนื่องจากเป็นสินเชื่อส่วนบุคคลแบบไม่มีหลักประกัน แต่จะพิจารณาจากข้อมูลทางการเงินและคะแนนเครดิตเป็นหลัก

7 ถ้ามีปัญหาหรือข้อสงสัย ต้องติดต่อที่ไหน แต่ละแอพจะมีช่องทางบริการลูกค้า เช่น Call Center, แชตในแอพ หรืออีเมล ควรเก็บข้อมูลการติดต่อของแอพที่สมัครไว้ เผื่อเกิดปัญหาในการชำระเงินหรือคำถามใด ๆ จะได้ติดต่อได้สะดวก

8 ปลอดภัยหรือไม่ ข้อมูลส่วนตัวจะรั่วไหลไหม แอพที่ถูกกฎหมายและได้รับอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทยหรือหน่วยงานกำกับดูแล มักจะมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน แต่ผู้ใช้ควรเพิ่มความระมัดระวังในการตั้งรหัสผ่าน และไม่เปิดเผยข้อมูล OTP ให้ผู้อื่น

9 สามารถยกเลิกการสมัครได้หรือไม่ ถ้ายังไม่ได้รับการอนุมัติ หรือยังไม่ได้เซ็นสัญญาสินเชื่อโดยสมบูรณ์ คุณสามารถแจ้งยกเลิกได้ แต่หากได้รับการอนุมัติไปแล้วและมีการโอนเงินเข้าบัญชี การยกเลิกจะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขของสถาบันการเงิน

10 ฟรีแลนซ์มีโอกาสได้อนุมัติมากน้อยแค่ไหน ขึ้นอยู่กับการวางแผนการเงินของคุณ ถ้าคุณมีรายได้ที่สม่ำเสมอ สามารถโชว์ Statement การโอนเงินเข้าออกบัญชีเป็นประจำ แอพส่วนใหญ่ก็ยินดีอนุมัติ ทั้งนี้ต้องไม่มีประวัติค้างชำระหนี้อื่น

การเตรียมตัวสำหรับการสมัครสินเชื่อในปี 2025


ด้วยสภาพเศรษฐกิจและความผันผวนทางการเงินที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ผู้ที่ต้องการสมัครสินเชื่อผ่านแอพจำเป็นต้องเตรียมตัวดังต่อไปนี้

1 วางแผนการใช้เงิน ก่อนจะยืมเงิน ต้องมีเป้าหมายการใช้เงินที่ชัดเจน เช่น ใช้หมุนเวียนในธุรกิจ ซื้ออุปกรณ์จำเป็น จ่ายค่ารักษาพยาบาล หรือค่าเทอม หากเป็นการยืมเงินเพื่อนำไปใช้จ่ายฟุ่มเฟือย อาจสร้างภาระดอกเบี้ยเกินจำเป็น

2 ประเมินความสามารถในการผ่อนคืน ควรคำนวณรายได้สุทธิเทียบกับรายจ่าย และเผื่อฉุกเฉินไว้อย่างน้อย 3-6 เดือน เพื่อไม่ให้การผ่อนคืนสินเชื่อกลายเป็นภาระ หรือต้องเบี้ยวหนี้ในภายหลัง

3 บริหารภาระหนี้เดิม หากมีหนี้สินอยู่แล้ว ควรจัดการจ่ายหนี้หรือรีไฟแนนซ์หนี้ดอกเบี้ยสูงให้เรียบร้อย อย่าให้ค้างชำระจนเสียเครดิต เพราะจะทำให้สมัครสินเชื่อใหม่ได้ยากขึ้น

4 อัปเดตข้อมูลเครดิต ทำธุรกรรมทางการเงินอย่างมีวินัย จ่ายบิลต่าง ๆ ตรงเวลา เพราะทุกการชำระหรือค้างจ่ายจะบันทึกลงในเครดิตบูโร ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญที่ใช้ตัดสินว่าคุณควรได้รับวงเงินเท่าไหร่

5 ศึกษาข้อมูลแอพและอ่านสัญญาอย่างละเอียด ก่อนตัดสินใจสมัคร ควรอ่านรายละเอียดเงื่อนไขสัญญา อัตราดอกเบี้ย การคำนวณค่าปรับล่าชำระ ฯลฯ ให้ครบถ้วน และเปรียบเทียบ 2-3 แอพเพื่อหาข้อเสนอที่เหมาะสมกับตนเอง

6 เก็บเอกสารและหลักฐานต่าง ๆ อย่างเป็นระบบ เมื่อสมัครสินเชื่อผ่านแอพแล้ว ควรจัดเก็บสัญญาดิจิทัล และเอกสารการยืนยันต่าง ๆ ไว้ในที่ที่เข้าถึงได้ง่าย เผื่อมีปัญหาหรือข้อโต้แย้งในอนาคต

สรุป

ในปี 2025 แอพยืมเงินจะกลายเป็นช่องทางหลักที่คนไทยใช้ในการขอสินเชื่อย่อยและสินเชื่อบุคคล เพราะมีความสะดวก รวดเร็ว และยังเปิดโอกาสให้คนที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันหรือมีอาชีพอิสระสามารถเข้าถึงเงินกู้ได้ง่ายขึ้น อย่างไรก็ตาม การยืมเงินไม่ว่าจะผ่านแอพหรือธนาคารแบบดั้งเดิม มีข้อผูกพันทางกฎหมายและมีดอกเบี้ยค่าใช้จ่ายตามมา ผู้กู้จึงควรตระหนักถึงความเสี่ยงและความสามารถในการผ่อนชำระเสมอ

แอพที่ยกตัวอย่างมา 10 แอพในบทความนี้ ต่างมีจุดเด่นและเงื่อนไขแตกต่างกันไป บางแอพเหมาะกับผู้ที่มีบัญชีธนาคารอยู่แล้ว ขณะที่บางแอพเน้นรองรับกลุ่มฟรีแลนซ์และผู้มีรายได้น้อย เอกสารที่ต้องใช้ก็มีตั้งแต่บัตรประชาชน สลิปเงินเดือน จนถึง Statement เพื่อยืนยันกระแสเงินเข้าออก

ก่อนตัดสินใจสมัคร ควรเปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ย วงเงินที่ได้ ระยะเวลาผ่อนชำระ และค่าธรรมเนียมทั้งหมด อย่าลืมดูรีวิวจากผู้ใช้งานจริง รวมถึงตรวจสอบว่าแอพนั้นอยู่ภายใต้การกำกับของธนาคารแห่งประเทศไทยหรือไม่ เพื่อความปลอดภัยและหลีกเลี่ยงการตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ

ข้อควรระวังอีกอย่างหนึ่งคือการผิดนัดชำระหนี้ แม้ว่าการยืมเงินผ่านแอพจะง่าย แต่หากขาดวินัยในการจ่ายคืน ต้นทุนที่ตามมาจะสูงมากจากดอกเบี้ยปรับและค่าปรับล่าช้า ที่สำคัญยังทำให้เสียเครดิตในอนาคต เพราะระบบเครดิตบูโรจะบันทึกข้อมูลทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์ค้างชำระ ฉะนั้น ควรยืมเงินในจำนวนที่จำเป็นจริง ๆ และมีแผนผ่อนคืนชัดเจน