อาการคนท้อง ระยะแรก เป็นยังไง
รู้หรือไม่ อาการที่แสดงออกว่าผู้หญิงอย่างเรา ๆ กำลัง ท้อง หรือ ตั้งครรภ์ นั้นแตกต่างออกไปในแต่ละคน ว่าที่คุณแม่จำนวนไม่น้อยผ่านระยะเวลาการตั้งครรภ์ไปโดยที่ไม่มีการแพ้ท้องเลยแม้แต่ครั้งเดียว ในทางกลับกัน บางคนก็อาจแพ้ท้องติดต่อกันเป็นเวลานาน หรือ อาจมีอาการแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามแต่เงื่อนไขสภาพร่างกายของแต่ละคน ด้วยเหตุนี้ การจับสัญญาณว่าเราท้องหรือไม่ในช่วงระยะแรก หรือ ประมาณ 1 สัปดาห์ที่เริ่มตั้งท้อง อันบอกได้ว่ามีอีกหนึ่งชีวิตมาอยู่กับเราแล้วนั้น จึงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะในทางการแพทย์ อาการคนท้อง หรือ สัญญาณตั้งครรภ์ มีลักษณะบางอย่างที่เมื่อพิจารณาประกอบกันแล้ว สามารถจะบอกได้ว่า เราท้องหรือเปล่า โดยเฉพาะสัญญาณในช่วง 1 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์ มีอะไรกันบ้าง ตามมาดูกัน
ลิงก์ผู้สนับสนุน
1.ปวดหลัง
จริงอยู่ คนเราอาจปวดหลังได้ด้วยหลายสาเหตุปัจจัย การปวดหลังก็เป็นหนึ่งในอาการคนท้องที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง โดยเป็นอาการปวดหลังบริเวณส่วนล่าง (lower back) ซึ่งอาจมีอาการตะคริวร่วมด้วยเช่นกัน สาเหตุของอาการปวดหลังมาจากการขยายตัวของกล้ามเนื้อส่วนกลาง อันเป็นผลมาจากมดลูกของเราขยายใหญ่ขึ้นเพื่อรองรับหนึ่งชีวิตที่กำลังเติบโตขึ้นภายในร่างกายของเรา
วิธีการรักษา: การปวดหลัง นับว่าเป็นอาการปกติของคนท้อง อย่างไรก็ตาม หากปวดหลังมากจนทนไม่ไหว ไม่ควรซื้อยาแก้ปวดมารับประทานเอง ควรปรึกษาแพทย์ หรือหาวิธีการแก้ไขเฉพาะหน้าด้วยการผ่อนการทำงานของกล้ามเนื้อหลังด้วยการนอนตะแคง ใช้หมอนข้างสำหรับวางขา และเลือกที่นอนที่แข็งพอดี ไม่นุ่มจนเกินไป
2.ปวดหัว
เช่นเดียวกับอาการปวดหลัง คนเราอาจปวดหัวได้ด้วยหลากหลายสาเหตุ ไหนจะภาระงาน ภาระครอบครัว ปัญหาบางอย่างชานมไข่มุกก็เยียวยาไม่ได้ ก็เลยมาลงเอยกับร่างกายของเราเอง แต่อาการปวดหัวที่เป็นผลมาจากการตั้งครรภ์ในสัปดาห์แรกนั้น จะมีลักษณะของอาการปวดหัวในช่วงมีประจำเดือน ความหนักเบาของอาการปวดหัวขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของคุณแม่เป็นสำคัญ บางคนอาจจะเครียดวิตกกังวล หรือ มีอาการภูมิแพ้ที่ทำให้อาการปวดหัวจากการตั้งครรภ์มีความรุนแรงกว่าปกติ แต่ก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะอาการปวดหัวเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนภายในร่างกาย รวมทั้งการปรับตัวตามธรรมชาติของร่างกายเพื่อต้อนรับเทวดาน้อย ๆ ที่มาจุติอยู่กับเรานั่นเอง
วิธีการรักษา: การปวดหัวที่เกิดจากอาการคนท้อง สามารถรักษาได้ด้วยการพักผ่อนเยอะ ๆ ทำจิตใจให้สงบ หลีกเลี่ยงการใช้งานโทรศัพท์มือถือติดต่อกันเป็นเวลานาน และพักอาศัยในที่ ๆ อากาศปลอดโปร่ง ลมถ่ายเท
3.มีเลือดออกที่บริเวณมดลูก
ไม่ต้องตกใจไป เพราะอาการเลือดซึมออกที่บริเวณมดลูก แต่ไม่ใช่ประจำเดือนนั้นเป็นสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่าร่างกายกำลังอยู่ในสภาวะปรับตัวเข้ากับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากการปฏิสนธิภายในมดลูกของเรา ด้วยเหตุนี้ จึงมีการขับไข่ที่ไม่ได้รับการปฏิสนธิออกมาเพื่อปรับสมดุลของร่างกายให้พร้อมกับสมาชิกใหม่นั่นเอง
วิธีการรักษา: สามารถรับมือได้ในวิธีการเดียวกับประจำเดือน เพราะอาการจะมีเฉพาะ 1 – 2 วัน
4.อารมณ์แปรปรวน
ถ้าเรารู้สึกว่าอารมณ์แปรปรวนขึ้น ๆ ลง ๆ โดยปราศจากสาเหตุ แล้วไม่ได้เกิดจากอาการโกรธแฟนหรือโมโหหิวแล้ว ก็มีความเป็นไปได้ว่าอารมณ์เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายของเรานั้นเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนภายในร่างกายของเรา เพื่อสร้างสมดุลในการทำงานต่าง ๆ ของร่างกายในช่วงเปลี่ยนผ่านเข้าสู่สภาวะการตั้งครรภ์ระยะแรก นั่นเอง
วิธีการรักษา: ทำใจให้สงบ นั่งสมาธิ พยายามงดการสูบบุหรี่หรือดื่มสุรา หากเลี่ยงไม่ได้จริง ชานมไข่มุกก็อาจทำให้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นได้ กินได้ แต่อย่าเยอะนะ เป็นห่วง
5.ท้องอืด หรือ ท้องผูก
อาการท้องอืด อาหารไม่ย่อย ลมในกระเพาะเยอะ อยากเรอ หรือท้องผูก ที่เป็นอาการคนท้องนั้นแตกต่างจากอาการที่เกิดจากสาเหตุอื่น ๆ ตรงที่ความเปลี่ยนแปลงของร่างกายเราเพื่อเข้าสู่สภาวะการตั้งครรภ์ โดยเฉพาะ การขยายตัวของมดลูกไปเบียดเข้ากับลำไส้ใหญ่ ส่งผลให้การบีบตัวของลำไส้ลดน้อยลง ทำให้อาหารย่อยยาก มีลมในกระเพาะมาก และมีอาการท้องผูก ซึ่งนับว่าเป็นสภาวะปกติของคนท้อง รักษาได้เหมือนอาการท้องผูกปกติ
วิธีการรักษา: เช่นเดียวกับอาการท้องอืด และ ท้องผูก แบบปกติ คนท้องที่เตรียมเป็นคุณแม่มือใหม่ควรต้องรับประทานที่มีส่วนประกอบของกากใยมาก ๆ อย่างผักใบเขียว ผลไม้ที่อุดมด้วยวิตามินซี และที่สำคัญเหนืออื่นใด คือ การดื่มน้ำเปล่ามาก ๆ และลดเครื่องดื่มอัดลม หรือ เครื่องดื่มที่มีส่วนประกอบของนมอย่างชานมไข่มุกนะจ๊ะ เพราะสิ่งสำคัญที่สุดของ คนท้อง ก็คือความปลอดภัยของลูกในท้องเรานั่นเอง
6.เจ็บหน้าอก
อาการเจ็บหรือไวต่อความรู้สึกบริเวณหน้าอก เป็นหนึ่งในสัญญาณที่บอกได้ว่าเรากำลังท้องหรือเข้าสู่สภาวะตั้งครรภ์ ในช่วง 1 สัปดาห์แรก แล้ว โดยอาการดังกล่าวมักจะเกิดขึ้นประมาณ 6 – 7 วัน หลังจากรู้ตัวว่าประจำเดือนไม่มาตามปกติ สาเหตุของอาการคัดดังกล่าวก็เกิดจากความเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกายนั่นเอง นอกจากนั้น เมื่อเวลาผ่านไป คุณแม่มือใหม่อาจจะพบว่าบริเวณหน้าอกมีความเปลี่ยนแปลงมากยิ่งขึ้น รวมทั้ง เส้นเลือดบริเวณดังกล่าวมีสีแดงเข้มและนูนมากยิ่งขึ้น อาจเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการทางชีววิทยาเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการผลิตน้ำนมนั่นเอง
วิธีการรักษา: อาการเจ็บปวดจะบรรเทาลงไปเองใน 2 – 3 วัน
7.ตกขาว
อย่าเพิ่งตกใจไป เพราะอาการตกขาวที่เกิดขึ้นไม่ได้แสดงว่าเราเป็นโรคร้ายแต่อย่างใด หากเป็นผลมาจากความเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกาย ทำให้มดลูกเหมือนคนที่วิ่งตลอดเวลา ส่งผลให้มีเหงื่อออก ซึ่งในกรณีนี้ก็คือเลือดซึมออกมาบริเวณมดลูก ซึ่งอาจมีแบคทีเรียหลงเหลืออยู่ทำให้เกิดปฏิกิริยาเป็นการตกขาว ซึ่งนับว่าเป็นสภาวะปกติ สามารถทำความสะอาดเพื่อรักษาได้ โดยไม่ต้อง Panic หรือตกใจว่าเป็นเรื่องผิดปกติแต่อย่างใด
วิธีการรักษา: ดูแลทำความสะอาดมดลูกให้ดี โดยเฉพาะช่วงตั้งครรภ์ ต้องดูแลพิถีพิถันเป็นพิเศษ
8.เหนื่อยล้า อ่อนเพลีย
คนเราทำงานหนัก ฝ่ารถติด เจอเจ้านายบ่น เพื่อนร่วมงานงี่เง่า ย่อมต้องมีอาการเหนื่อยล้าหรือ Burn Out เป็นธรรมดาสามัญ แต่อาการเหนื่อยล้าที่เป็นส่วนหนึ่งของ อาการคนท้อง ระยะแรก นั้น มักจะเกิดขึ้นอย่างไม่มีสาเหตุ ไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ไม่มีฟลุตไม่มีแคริเนต เราอาจนอนอยู่เฉย ๆ ทั้งวันแต่รู้สึกเหนื่อยล้าราวกับโหมงานหนักมาทั้งวันทั้งคืนก็ได้ ที่เป็นเช่นนี้ ก็เพราะว่าร่างกายของเรามีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน ที่ทำให้ร่างกายภายนอกของเราแม้ว่าจะไม่ได้ออกแรงหนัก แต่ภายในนี้ทำงานราวกับโรงงานนรกเลยทีเดียว อย่างไรก็ตาม การเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย จากอาการคนท้อง ตั้งครรภ์ จะเกิดขึ้นเฉพาะในช่วงสัปดาห์แรก ๆ หรือเดือนต้น ๆ เท่านั้น เพราะฉะนั้น ก็ไม่ต้องเป็นกังวลไปว่ามันจะส่งผลกระทบต่อหน้าที่การงานและไลฟ์สไตล์ของเรา
วิธีการรักษา: นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ งดจากโซเชียลมีเดียเสียบ้าง เปลี่ยนเป็นฟังเพลงเบา ๆ ก็ผ่อนคลายดีนะ
9.ปัสสาวะบ่อย ปวดฉี่บ่อย
หนึ่งในอาการสุดคลาสสิคของคนท้อง หรือ สาว ๆ ที่กำลังตั้งครรภ์ หากเราไม่ได้ดื่มชานมไข่มุกมากเกินไปจนต้องเข้าห้องน้ำทุกครึ่งชั่วโมงแล้ว นั่นแสดงว่าร่างกายของเรากำลังเปลี่ยนแปลงเข้าสู่โหมดตั้งครรภ์แล้ว เนื่องเพราะ เมื่อเราท้อง ร่างกายของเราจะสูบฉีดเลือดไปหล่อเลี้ยงอวัยวะต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้นเป็นสองเท่า เพราะในตัวเราไม่ได้มีแค่หนึ่งชีวิตแล้ว ยังมีเจ้าหญิงเจ้าชายน้อย ๆ ที่กำลังเติบโตขึ้นมาทุกวัน ซึ่งก็ทำให้ไตที่รับหน้าที่ขับของเสียต่าง ๆ ในรูปของเหลวหรือปัสสาวะ ต้องทำงานหนักไปด้วย เพราะฉะนั้น ช่วงตั้งท้อง เพลา ๆ ชานมไข่มุก ลงหน่อยก็ดีนะจ๊ะ หันมาดื่มน้ำสะอาดหรือน้ำผลไม้คั้นสดทีอุดมวิตามินซีย่อมดีกับตัวเราและลูกในท้องเรามากกว่าเยอะ
วิธีการรักษา: ภาษาอังกฤษว่า When you gotta go, gotta go เมื่อปวดแล้วก็ต้องไป ห้ามอั้นเด็ดขาด!
10.คลื่นไส้ อาเจียน
หนึ่งในสัญญาณคนท้องที่นางเอกในละครมักจะแสดงตัวอย่างให้เราเห็นเป็นประจำ แต่ความจริงแล้ว อาการคลื่นไส้อาเจียนที่เป็นผลจากอาการแพ้ท้องนั้นไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน รวมทั้งอาการเหม็นนั่นเหม็นนี่ด้วย คุณแม่บางคนอาจจะไม่มีอาการคลื่นไส้อาเจียนเลยจนกระทั่งลูกน้อยออกมาลืมตาดูโลกก็มีเหมือนกัน โดยสรุปแล้ว อาการแพ้ท้องคลื่นไส้อาเจียน ไม่มีกำหนดตายตัวว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่ถ้าเกิดว่าในช่วงสัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์ เรามีอาการคลื่นไส้อาเจียนโดยไม่ทราบสาเหตุ และอาจมีอาการคนท้องอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น อาการปวดหลัง ปวดหัว คัดเต้านม อารมณ์แปรปรวน หรือ ปัสสาวะบ่อยแล้ว ก็เป็นไปได้เหมือนกันว่าเราอาจจะแพ้ท้องเร็วกว่ากำหนด ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ อาจมองในแง่ดี ก็เป็นสัญญาณให้เราสามารถเตรียมตัว ทั้งร่างกายและสภาพจิตใจ เพื่อต้อนรับสมาชิกใหม่ได้รวดเร็วขึ้นนั่นเอง
วิธีการรักษา: รับประทานอาหารประเภทผักใบเขียว ธัญพืช ผลไม้ที่มีวิตามินซีสูง อาหารย่อยง่าย และดื่มน้ำสะอาดให้มาก ๆ และที่สำคัญที่สุด คือ พักผ่อนให้เพียงพอ เราไม่ได้มีตัวเองเพียงลำพังที่ต้องดูแลอีกแล้วนะ
ข้อควรปฏิบัติ เมื่อรู้ตัวว่าท้อง 1 สัปดาห์
– เพื่อความชัวร์ สาว ๆ สามารถตรวจสอบการตั้งครรภ์ได้ด้วยตนเอง ด้วยการซื้อ ชุดตรวจการตั้งครรภ์ มาตรวจหาฮอร์โมน Human chorionic gonadotropin: HCG ในปัสสาวะ ซึ่งมีความแม่นยำมากกว่า 90% โดยชุดตรวจการตั้งครรภ์ด้วยตนเอง มีทั้งหมด 3 ชุด ประกอบด้วย
1.ชุดตรวจการตั้งครรภ์ แบบแถบจุ่ม (Test Strip) ราคา 100 – 140 บาท
วิธีใช้: ให้เราเก็บตัวอย่างปัสสาวะของตนเองในภาชนะ จากนั้นให้นำแผ่นทดสอบการตั้งครรภ์ด้านที่มีลูกศรชี้ลง จุ่มลงไปในภาชนะ นับ 1 – 3 จากนั้นดึงนำแผ่นทดสอบออกมาวางไว้ในที่แห้ง รอประมาณ 5 นาที ก็จะทราบผลการตรวจการตั้งครรภ์
2.ชุดตรวจการตั้งครรภ์ แบบตลับหรือแบบหยด (Pregnancy Test Cassette) ราคา 140 – 180 บาท
วิธีใช้: เก็บตัวอย่างปัสสาวะในภาชนะ จากนั้นให้ใช้หลอดดูดปัสสาวะขึ้นมานิดเดียวก็พอ แล้วหยดลงไปบนตลับทดสอบ ประมาณ 3 หยด ทิ้งตลับบนที่แห้งประมาณ 5 นาที แล้วจึงอ่านผลการตรวจการตั้งครรภ์
3.ชุดตรวจการตั้งครรภ์ แบบปัสสาวะผ่าน (Pregnancy Midstream Tests) ราคา 180 – 200 บาท
วิธีใช้: หลายคนน่าจะเคยเห็นชุดตรวจแบบนี้ในหนังและละครจำนวนมาก วิธีใช้ง่าย ๆ ก็คือให้เราปัสสาวะผ่านแท่งตรงบริเวณที่มีลูกศรชี้ จากนั้นให้พักแท่งทดสอบไว้ประมาณ 5 นาที แล้วจึงค่อยเช็คผลการตรวจการตั้งครรภ์ หากตรวจแล้วผลลัพธ์พบว่ามีขีดขึ้นที่ขีด C อย่างเดียว แปลว่า ไม่น่าจะตั้งครรภ์ หากมีขีดขึ้น จำนวน 2 ขีดที่ขีด C และ T หมายความว่าน่าจะมีการตั้งครรภ์
– เมื่อแน่ใจประมาณหนึ่งว่าเรากำลังตั้งท้องแล้ว ให้เราไปฝากครรภ์ให้เร็วที่สุด เพื่อความปลอดภัยของเราและลูกในท้อง ทางที่ดี ควรว่าที่คุณแม่ควรรีบไปฝากครรภ์ภายใน 12 สัปดาห์ หลังจากที่รู้ตัวเองว่าตั้งครรภ์ เพื่อให้สามารถยืนยันอายุครรภ์ที่แน่นอน ช่วยให้แพทย์ติดตามการเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ได้อย่างถูกต้อง ทำให้คำนวณกำหนดการคลอดได้ แพทย์จะตรวจหาความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ สามารถรักษาความผิดปกติได้เร็วทันควัน รวมทั้งได้รับความรู้เกี่ยวกับการดูแลรักษาตนเองในช่วงตั้งครรภ์ได้อย่างถูกต้อง
เอกสารที่ต้องใช้ในการฝากครรภ์
– บัตรประชาชน
– ประวัติการรักษา โรคประจำตัว ภูมิแพ้ ยาที่แพ้
– ข้อมูลการมีประจำเดือนครั้งล่าสุด
หลักในการเลือกสถานที่ฝากครรภ์
– ใกล้บ้าน เนื่องจากสามารถเดินทางไปได้สะดวก
– มีชื่อเสียง เพื่อให้ได้รับการบริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพ
– สามารถใช้สิทธิเบิกจ่ายประกันสังคม หรือเบิกจ่ายตรงโดยใช้สิทธิข้าราชการได้