ฟิล์มรถยนต์หรือฟิล์มกรองแสงนั้น ถือเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นอย่างมากต่อการใช้รถและการใช้งาน โดยเฉพาะในประเทศไทยของเรา ซึ่งเป็นประเทศเขตร้อนที่มีแสงแดดที่แรงและมีอย่างสม่ำเสมอไม่ว่าจะเป็นช่วงใดก็ตามของปี ดังนั้นในครั้งนี้ เราจึงมาพร้อมกับบทความสาระที่จะมาเป็นส่วนช่วยให้ทุกท่านสามารถดำเนินการตรวจสอบและเช็คสภาพของฟิล์มรถยนต์ได้ด้วยตัวท่านเอง ด้วยวิธีเช็คอาการฟิล์มรถยนต์ หมดอายุ หรือ เสื่อมสภาพ มาดูกัันเลย
- โอนรถที่ไหน ใช้เอกสารอะไรบ้าง
- เมืองไทยลิสซิ่ง ต้องใช้คนค้ำไหม ใช้เอกสารอะไรบ้าง
- ใบขับขี่หมดอายุ ต้องต่อภายในกี่วัน
- อบรมใบขับขี่ออนไลน์ กี่วัน ใช้เอกสารอะไรบ้าง
การติดฟิล์มรถยนต์
ฟิล์มรถยนต์หรือฟิล์มกรองแสงส่วนใหญ่นั้น มักจะมีอายุการใช้งานอยู่ที่ประมาณ 5 – 10 ปี ซึ่งมีอยู่บ่อยครั้งที่การใช้งาน เช่น การจอดรถตากแดดบ่อย ๆ การใช้รถบ่อย ทั้งหมดนั้น ย่อมส่งผลต่อสภาพและอายุการใช้งานของฟิล์ม ซึ่งจะส่งผลให้ฟิล์มเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกตินั่นเอง โดยในครั้งนี้เพื่อเป็นการช่วยให้ทุกท่านทราบถึงหลักการและวิธีการตรวจสอบฟิล์มเสื่อมสภาพ เราจึงได้ศึกษาและรวบรวมแนวทางการตรวจเช็คสภาพฟิล์มรถยนต์มานำเสนอให้ทุกท่านลองนำกลับไปปรับใช้ โดยมีรายละเอียดดังนี้
เช็คอาการฟิล์มรถยนต์ เสื่อมสภาพ หรือ หมดอายุ
ฟิล์มเริ่มเปลี่ยนสี
การติดตั้งฟิล์มกรองแสงนั้น โดยปกติทั่วไปแล้วหลังจากที่ดำเนินการติดตั้งและผ่านการใช้งานไปสักระยะ สีของฟิล์มและการป้องกันแสงจะยังไม่ลดลงมากนัก โดยเฉพาะหากการใช้งานนั้นยังไม่เกินระยะเวลา 5 – 10 ปี สีของฟิล์มจะต้องไม่ค่อยจางหรือบางลง แต่ถ้าฟิล์มเสื่อมสภาพเริ่มต้นขึ้น สีของฟิล์มจะเริ่มจางลง และไม่ได้มีความเข้มเหมือนแต่ก่อนอย่างเห็นได้ชัดเจน โดยส่วนใหญ่แล้วฟิล์มเสื่อมสภาพจะเริ่มไม่ทึบ โปร่งแสงมากขึ้นและจะเปลี่ยนสีไปเป็นสีโทนม่วงมากกว่าโทนดำ ซึ่งนั่นคือสิ่งบ่งชี้ว่าฟิล์มเสื่อมสภาพแล้ว
มีฟองอากาศเกิดขึ้น
การเกิดฟองอากาศภายในฟิล์มกรองแสงนั้น จะเป็นสัญญาณบ่งบอกที่ชัดเจนมาก ๆ ว่าฟิล์มเสื่อมสภาพแล้ว ทั้งนี้โดยปกติฟิล์มกรองแสงจะเริ่มมีฟองอากาศแทรกตัวเข้ามาเมื่อสภาพของฟิล์มเริ่มเก่า กาวเริ่มไม่สามารถป้องกันอากาศเข้า และในที่สุดฟิล์มทั้งหมดก็จะมีอากาศเข้าไปแทรกอยู่ทั่วพื้นที่ ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าท่านควรเปลี่ยนหรือควรถอดฟิล์มออกนั่นเองเพราะถ้าปล่อยให้มีอากาศแทรกเข้ามามากเกินไป ฟิล์มทั้งหมดจะหลุดออกและเกิดเป็นรอยยับได้
มีภาพซ้อนและมองไม่ชัด
ฟิล์มเสื่อมสภาพนั้น ส่วนใหญ่จะส่งผลให้เกิดภาพซ้อน หรือมัว โดยทั่วไปนั้น ฟิล์มกรองแสงที่มีคุณภาพดี หรือฟิล์มกรองแสงที่ยังไม่เสื่อมสภาพ จะต้องสามารถมองเห็นภาพด้านหน้าและด้านใน (กรณีไม่ทึบมาก) ได้อย่างชัดเจน ซึ่งถ้าหากฟิล์มกรองแสงใช้อยู่เริ่มเปลี่ยนไปสู่ฟิล์มเสื่อมสภาพ มองเห็นจะเริ่มมีภาพซ้อน หรือเริ่มมองแล้วไม่ชัด ซึ่งสัญญาณนี้จะบ่สามารภเป็นเครื่องงบอกได้ทันทีว่าฟิล์มเริ่มจะเสื่อมสภาพ ส่งผลให้ทุกท่านควรดำเนินการเปลี่ยนและแก้ไข เพราะหากยังใช้งานต่อไปนั้น อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุขณะขับขี่ได้
ฟิล์มเริ่มมีกลิ่น
จากการศึกษาและเก็บข้อมูลเกี่ยวกับฟิล์มเสื่อมสภาพนั้น สามารถระบข้อมูลได้ชัดเจนว่า 80 – 90% ของฟิล์มเสื่อสภาพนั้น จะส่งกลิ่นหรือมีกลิ่นสารเคมีที่รุนแรง ซึ่งอาจจะเกิดจากแสงแดดที่แรง และสภาพการป้องกันความร้อนของฟิล์มที่ลดลง ดังนั้นหากรถของท่านเริ่มมีกลิ่นเหม็นของสารเคมีที่ไม่ทราบสาเหตุ ให้ทดลองเข้าตรวจสอบที่ฟิล์มกรองแสงดูว่าเป็นกลิ่มที่มาจากฟิล์มเสื่อมสภาพหรือไม่ ซึ่งถ้าใช้ ท่านควรดำเนินการเปลี่ยนฟิล์มทันทีเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถของท่าน
อุณหภูมิในรถสูงกว่าปกติ
ข้อสังเกตประเด็นนี้ เป็นสิ่งที่สามารถตรวจสอบได้ทันทีในขณะที่ท่านใช้รถ เพราะหากฟิล์มกรองแสงของท่านยังมีสภาพดีพร้อมใช้งานนั้น เมื่อท่านใช้รถ เปิดแอร์หรือจอดในที่ต่าง ๆ ฟิล์มกรองแสงนั้น ควรจะเป็นตัวช่วยในการกรองแสงและช่วยทำให้อุณหภูมิภายในห้องโดยสารของท่านไม่สูงเกิดไป ซึ่งหากท่านใช้งานแล้วกลับรู้สึกว่าอุณหภูมิในรถกลับสูงขึ้นแม้จะเปิดแอร์ นั่นแสดงว่าฟิล์มเสื่อมสภาพแล้วนั่นเอง
ฟิล์มเสื่อมสภาพ/หมดอายุ ทำยังไง
ทั้งนี้เมื่อทุกท่านได้ดำเนินการทดลองตรวจสอบตามคำแนะนำที่เราได้ให้ไวแล้วพบว่าฟิล์มเสื่อมสภาพ ทุกท่านสามารถนำรถเข้าติดต่อเจ้าหน้าที่ศูนย์ให้บริการประจำของท่านเพื่อขอทำแนะนำหรือสอบถามรายการค่าใช้จ่ายสำหรับการเปลี่ยนฟิล์มกรองแสงได้ทันที หรือท่านอาจจะนำรถเข้าติดต่อที่ร้านผู้ให้บริการเปลี่ยนฟิล์มกรองแสงโดยตรง ซึ่งทุกท่านควรพิจารณาและเลือกร้านที่มีความน่าเชื่อถือและที่สำคัญ ควรเป็นร้านที่มีศักยภาพในการรับประกันสินค้าและการติดตั้ง เนื่องจากฟิล์มเสื่อมสภาพนั้นเป็นปัญหาใหญ่ ที่มีค่าใช้จ่ายสำหรับการแก้ไขและอาจจะเกิดผลเสียอื่น ๆ ตามมาได้หากท่านยังคงใช้งานรถต่อไปในขณะที่ฟิล์มเสื่อมสภาพแล้วนั่นเอง