
การสมัครสินเชื่อส่วนบุคคล “Xpress Loan” ของธนาคารกสิกรไทย (KBank) นับว่าเป็นหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมสำหรับคนที่ต้องการเงินก้อนแบบเร่งด่วน ด้วยจุดเด่นที่อนุมัติง่าย วงเงินสูงสุดถึง 1.5 ล้านบาท และไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน แต่ก็มีไม่น้อยที่สมัครแล้ว “ไม่ผ่าน” ซึ่งอาจทำให้หลายคนรู้สึกท้อใจ
วันนี้เราจะพาคุณมาวิเคราะห์ว่า ทำไมถึง สมัคร Xpress Loan ไม่ผ่าน พร้อมวิธีแก้เกมเพื่อให้มีโอกาสผ่านในครั้งถัดไป
สาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้สมัคร Xpress Loan ไม่ผ่าน
1. รายได้ไม่เข้าเกณฑ์
สินเชื่อ Xpress Loan กำหนดคุณสมบัติขั้นต่ำของผู้สมัครไว้ เช่น
- พนักงานประจำ รายได้ขั้นต่ำ 15,000 บาทต่อเดือน
- เจ้าของกิจการ รายได้ขั้นต่ำ 20,000 บาทต่อเดือน
หากรายได้ที่คุณแจ้งไว้ไม่ถึงเกณฑ์หรือมีความไม่ชัดเจน เช่น รายรับไม่สม่ำเสมอ หรือไม่มีเอกสารแสดงรายได้ชัดเจน โอกาสอนุมัติก็จะลดลง
2. ประวัติเครดิตบูโรไม่ดี
หากคุณเคยผิดนัดชำระหนี้ หรือมีประวัติชำระล่าช้าในอดีต ไม่ว่าจะกับธนาคารไหน ระบบเครดิตบูโรจะบันทึกไว้ ทำให้ธนาคารพิจารณาว่าคุณมีความเสี่ยงสูงในการผิดนัดชำระหนี้ซ้ำ
3. ภาระหนี้เดิมสูงเกินไป
ธนาคารจะคำนวณอัตราส่วนหนี้สินต่อรายได้ (Debt Service Ratio – DSR) หากคุณมีหนี้บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล หรือผ่อนของหลายรายการอยู่แล้ว จนภาระหนี้เกิน 40%-50% ของรายได้ โอกาสจะถูกปฏิเสธสินเชื่อมีสูง
4. เอกสารไม่ครบถ้วนหรือข้อมูลไม่ตรงกัน
หลายครั้งที่การกรอกข้อมูลผิดพลาด หรือแนบเอกสารไม่ครบถ้วน เช่น สลิปเงินเดือน/หนังสือรับรองเงินเดือน/รายการเดินบัญชีไม่ตรงกับรายได้ที่แจ้ง อาจทำให้ธนาคารไม่สามารถตรวจสอบข้อมูลได้ชัดเจน
5. สถานภาพทางการงานไม่มั่นคง
- เพิ่งเริ่มงานใหม่ ทำงานไม่ถึง 6 เดือน
- ไม่มีรายได้ประจำ เช่น ฟรีแลนซ์ที่ไม่มีหลักฐานรายได้สม่ำเสมอ
ธนาคารอาจมองว่าคุณมีความเสี่ยงเรื่องรายได้ไม่แน่นอน จึงไม่อนุมัติสินเชื่อ
สมัคร Xpress Loan ไม่ผ่าน ควรทำยังไงต่อ?
1. ตรวจสอบเครดิตบูโร
ควรเช็กประวัติเครดิตของตัวเองก่อนว่ามีหนี้เสียหรือไม่ เช่น มีหนี้ค้างชำระนานกว่า 90 วันหรือไม่ วิธีเช็กเครดิตบูโรง่าย ๆ คือ:
- ใช้บริการของเครดิตบูโร ผ่านแอป “เครดิตบูโรเช็กง่าย”
- หรือขอเช็กกับธนาคารที่ร่วมรายการ
หากพบว่ามีประวัติเสีย ควรปิดหนี้เก่าให้หมด และรอประมาณ 6-12 เดือน เพื่อให้ข้อมูลเครดิตดีขึ้นก่อนสมัครใหม่
2. ลดภาระหนี้เดิม
ถ้ามีภาระหนี้สูง แนะนำให้เริ่มจาก:
- ปิดบัตรเครดิตบางใบหรือรีไฟแนนซ์เพื่อลดดอกเบี้ย
- เคลียร์ยอดหนี้สินเชื่อส่วนบุคคลหรือสินเชื่อผ่อนชำระก่อน เมื่อภาระหนี้ต่อเดือนลดลง DSR ของคุณจะดีขึ้น และมีโอกาสได้รับการอนุมัติในครั้งถัดไป
3. เพิ่มรายได้หรือแนบหลักฐานรายได้เสริม
หากคุณมีรายได้เสริม เช่น รับจ๊อบพิเศษ ขายของออนไลน์ หรือมีรายได้จากการลงทุน ควรแนบเอกสารแสดงรายได้เหล่านั้น เช่น สเตทเมนต์ บัญชีรับรายได้อื่น ๆ เพื่อเพิ่มน้ำหนักให้ธนาคารเห็นว่าคุณมีศักยภาพในการผ่อนชำระสูงขึ้น
4. รอให้คุณสมบัติด้านงานมั่นคงขึ้น
หากเพิ่งเริ่มงาน หรือเพิ่งเปลี่ยนงาน ควรรอให้อายุงานมากกว่า 6 เดือนหรือ 1 ปี และมีเงินเดือนเข้าบัญชีธนาคารสม่ำเสมอ ก่อนยื่นขอสินเชื่อใหม่
5. เลือกสมัครวงเงินที่เหมาะสม
หากขอวงเงินที่สูงเกินไป เทียบกับรายได้และภาระหนี้เดิม โอกาสไม่ผ่านจะมากขึ้น ลองสมัครสินเชื่อในวงเงินที่เหมาะสมกับรายได้ เช่น ไม่เกิน 3-5 เท่าของรายได้ต่อเดือนก่อน
6. สมัครสินเชื่อผ่านช่องทางที่ช่วยเพิ่มโอกาส
- สมัครผ่านแอป K PLUS ของธนาคารกสิกรไทย สำหรับลูกค้าที่มีบัญชีเงินเดือนหรือใช้บริการกับธนาคารสม่ำเสมอ
- ติดต่อเจ้าหน้าที่ที่สาขา เพื่อขอคำปรึกษาและแนะนำวิธีการยื่นเอกสารที่เหมาะสม
- บางช่วงมี “สินเชื่อพิเศษ” หรือ “แคมเปญ” สำหรับลูกค้ากลุ่มเฉพาะ เช่น ลูกค้าสวัสดิการ ลูกค้ารับเงินเดือนผ่าน KBank จะช่วยเพิ่มโอกาสผ่านมากขึ้น
ถ้ายังไม่ผ่าน จะมีทางเลือกอื่นไหม?
1. สินเชื่อส่วนบุคคลจากธนาคารอื่น
คุณสามารถลองเปรียบเทียบสินเชื่อจากธนาคารอื่น ๆ เช่น SCB Speedy Loan, Krungsri Personal Loan หรือสินเชื่อจาก ttb หรือ UOB ซึ่งบางธนาคารมีเกณฑ์พิจารณาที่ต่างกันบ้าง เช่น รายได้ขั้นต่ำ หรืออายุงาน
2. สินเชื่อ Nano Finance / Pico Finance
เหมาะสำหรับผู้ที่มีรายได้ไม่แน่นอน เช่น ฟรีแลนซ์ หรือเจ้าของกิจการรายย่อย โดยสินเชื่อกลุ่มนี้อาจมีเงื่อนไขง่ายกว่า แต่ต้องระวังเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่อาจสูงกว่าสินเชื่อทั่วไป
3. รีไฟแนนซ์/รวมหนี้
หากคุณมีหนี้หลายรายการ สามารถลองขอรีไฟแนนซ์รวมหนี้กับธนาคารอื่น เพื่อจัดระเบียบหนี้ ลดภาระดอกเบี้ยรายเดือน และลดความเสี่ยงการผิดนัดชำระ
สรุป
สมัคร Xpress Loan ไม่ผ่านไม่ใช่เรื่องผิดหวังถึงขั้นถอดใจ เพราะธนาคารจะพิจารณาจากข้อมูลด้านการเงิน ความสามารถในการชำระหนี้ และเครดิตของคุณ หากคุณกลับไปแก้ไขจุดอ่อน เช่น ลดภาระหนี้ ปรับปรุงประวัติเครดิต เพิ่มรายได้ หรือเลือกวงเงินที่เหมาะสม จะช่วยเพิ่มโอกาสให้สินเชื่อผ่านในครั้งถัดไปได้แน่นอน
คำแนะนำเพิ่มเติม:
- ควรเว้นระยะ 3-6 เดือนก่อนยื่นใหม่ เพื่อให้ประวัติเครดิตมีโอกาสปรับปรุง
- อย่าสมัครสินเชื่อหลาย ๆ ที่พร้อมกัน เพราะอาจส่งผลเสียต่อเครดิตบูโร
- ใช้จ่ายอย่างมีวินัย อย่าปล่อยให้เกิดหนี้เสียอีกครั้ง