การนั่งรถไฟเที่ยว หรือการหาสถานที่ท่องเที่ยว รถไฟในประเทศไทยจะเป็นไปได้หรือไม่? นั่นอาจจะเป็นคำถามคาใจของเหล่านักท่องเที่ยวชาวไทย ที่ไม่ค่อยคุ้นเคยกับการเดินทางท่องเที่ยวด้วยรถไฟ เพราะรถไฟไทยนั้นมีชื่อเสียงเรื่องความช้า และไม่ตรงเวลา ถึงขนาดมีการนำไปแต่งเป็นวลีล้อเลียนเสียงของรถไฟ ดังเช่น “ถึงก็ช่าง ไม่ถึงก็ช่าง” แต่หากคุณเป็นแฟนรายการโทรทัศน์ “NEXT STOP, DISCOVERY” จากช่อง Nippon TV แล้วหล่ะก็ คุณจะตกหลุมรักการนั่งรถไฟเที่ยวทันที แม้รายการนี้จะเป็นรายการจากประเทศญี่ปุ่น ที่ขึ้นชื่อเรื่องความทันสมัยและมีการขนส่งทางระบบรางดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก แต่ความเพลิดเพลินจากการนั่งรถไฟเที่ยวนั้น สามารถนำมาปรับให้เกิดขึ้นจริง ๆ กับสถานที่ท่องเที่ยว รถไฟในประเทศไทย
แม้ว่าจะมีข้อจำกัดอยู่บ้างสำหรับสถานที่ท่องเที่ยว รถไฟที่บางแห่งหรือบางสาย รถไฟอาจจะวิ่งผ่านไม่ตรงตามตารางเดินรถอยู่บ้าง แต่หากเรามองให้เป็นเสน่ห์และใช้เวลาแบบ Slow Life นั่งรถไฟเที่ยวไปตามสถานที่ต่าง ๆ ทำจิตใจให้ผ่อนคลาย คุณจะสามารถพบกับการท่องเที่ยวที่สามารถเปิดประสบการณ์ใหม่ให้กับการท่องเที่ยวของคุณเลยทีเดียว เพราะการนั่งรถไฟเที่ยวนั้น มีทั้งสถานที่เที่ยวรถไฟค้างคืน และคุณยังสามารถนั่งรถไฟเที่ยวทะเลได้อีกด้วย ซึ่งแม้จะใช้เวลานาน แต่หากเราปรับวิธีคิด และดื่มด่ำกับช่วงเวลานั้น ๆ คุณก็จะเพลิดเพลินกับการนั่งรถไฟเที่ยวแบบไม่มีวันลืม
ดังนั้นเราจึงขอนำเสนอ เส้นทางการนั่งรถไฟเที่ยว ไปตามสถานที่ท่องเที่ยว รถไฟ ที่มีทั้งการท่องเที่ยวรถไฟค้างคืน การนั่งรถไฟเที่ยวแบบไป – กลับ และการนั่งรถไฟเที่ยวทะเล ซึ่งให้บริการโดยการรถไฟแห่งประเทศไทย โดยมีข้อมูลและรายละเอียดดังนี้
ลิงก์ผู้สนับสนุน
แบบไปเช้า เย็นกลับ
นั่งรถไฟเที่ยวทะเลหัวหิน และสวนสนประดิพัทธ์
เส้นทางการนั่งรถไฟเที่ยวสายนี้ เป็นการนั่งรถไฟเที่ยวทะเลหัวหิน โดยเป้าหมายปลายทางจะเป็นที่สวนสนประดิพัทธ์ สถานที่ท่องเที่ยว รถไฟวิ่งผ่านซึ่งมีความสวยงามและมีชื่อเสียงอย่างมากของอำเภอหัวหิน โดยเริ่มนั่งรถไฟเที่ยวตั้งแต่เช้าและเดินทางกลับตอนเย็น โดยการรถไฟไทยพร้อมให้บริการเดินรถในวัน เสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เดินทางด้วยรถไฟไปชมทะเลสวย ๆ ได้ภายในวันเดียว แถมก่อนถึงยังได้แวะนมัสการพระปฐมเจดีย์ด้วย
- การนั่งรถไฟเที่ยว เริ่มต้นที่สถานีกรุงเทพ โดยขบวนรถไฟพิเศษนำเที่ยวสวนสนประดิพัทธ์ ขบวนที่ 911 ออกขบวนที่เวลา 06.30 น.
- 40 น. สถานที่ท่องเที่ยว รถไฟแห่งแรกคือ นมัสการองค์พระปฐมเจดีย์และเดินเลือกซื้อของตลาดเช้าเป็นเวลาประมาณ 40 นาที ที่จังหวัดนครปฐม
- 20 น. ออกเดินทางจากสถาณีนครปฐม
- 30 น. เดินทางถึงสถานที่ท่องเที่ยว รถไฟแห่งที่สอง สถานีหัวหิน (รถไฟจะจอดเพียง 10 นาที หากคุณต้องการเที่ยวทะเล สามารถนั่งรถสองแถวต่อได้ หากคุณต้องการนั่งรถไฟเที่ยวต่อไปสวนสนประดิพัทธ์ให้รอรถออก)
- 40 น. เดินทางถึงสถานที่ท่องเที่ยว รถไฟสวนสนประดิพัทธ์ ซึ่งทะเลอยู่ห่างจากสถานีเพียง 100 เมตร
- 31 น. เตรียมพร้อมเดินทางกลับจากนั่งรถไฟเที่ยวทะเล ที่สถานีสวนสนประดิพัทธ์
- 39 น. นั่งรถไฟเที่ยวถึงสถานีหัวหิน
- 25 น. เดินทางกลับถึงกรุงเทพมหานคร สิ้นสุดการนั่งรถไฟเที่ยวทะเล กรุงเทพ – สวนสนประดิพัทธ์
อัตราค่าบริการรถนั่งธรรมดาสำหรับ นั่งรถไฟเที่ยวทะเลชั้น 3 ผู้ใหญ่/ เด็ก คนละ 120 บาท
อัตราค่าบริการรถนั่งปรับอากาศสำหรับ นั่งรถไฟเที่ยวทะเลชั้น 2 ผู้ใหญ่/ เด็ก คนละ 240 บาท
นั่งรถไฟเที่ยวน้ำตกไทรโยคน้อย
เส้นทางนั่งรถไฟเที่ยวสายน้ำตกไทรโยคน้อย เป็นการนั่งรถไฟเที่ยวแบบไปเช้ากลับเย็น โดยการรถไฟให้บริการรถไฟทุกวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ซึ่งจุดมุ่งหมายปลายทางของการเดินทางไปสถานที่ท่องเที่ยว รถไฟสายนี้ คือ น้ำตกไทรโยคน้อย โดยเริ่มเดินทางนั่งรถไฟเที่ยวกันตั้งแต่เช้า
- 30 น. เริ่มต้นการเดินทางนั่งรถไฟเที่ยว ออกจากสถานีกรุงเทพ โดยรถขบวนพิเศษขบวนที่ 909
- 40 น. เดินทางมาถึงจังหวัดนครปฐม แวะนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์สถานที่ท่องเที่ยว รถไฟประจำจังหวัดนครปฐม จากนั้นสามารถเดินทางจับจ่ายซื้อของได้ประมาณ 40 นาที
- 20 น. ออกเดินทางนั่งรถไฟเที่ยวต่อ ออกจากนครปฐม
- 00 น. ขบวนรถไฟเดินทางมาถึงถ้ำกระแช ชมสถานที่ท่องเที่ยว รถไฟสายประวัติศาสตร์สำคัญ ที่ยังเปิดใช้งานมาจนถึงปัจจุบันซึ่งถูกสร้างขึ้นโดยเชลยศึกพันธมิตร ซึ่งเป็นอีกเส้นทางนั่งรถไฟเที่ยวที่มีความสวยงาม ลัดเลาะไปตามหน้าผาและป่าโปร่ง ย้อนเวลากลับสู่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
- 30 น. การเดินทางนั่งรถไฟเที่ยวเส้นทางนี้มาถึง น้ำตกไทรโยคน้อย สถานที่ท่องเที่ยว รถไฟที่หมาย โดยสามารถพักผ่อนและเล่นน้ำได้ประมาณ 3 ชั่วโมง ก่อนออกเดินทางกลับเวลาประมาณ 14.25 น. ระหว่างทางสามารถแวะชมสุสารทหารสัมพันธมิตร
- 35 น. เดินทางกลับจากสถานที่ท่องเที่ยว รถไฟสายน้ำตกไทรโยคน้อย
- 25 น. ถึงสถานีกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ สิ้นสุดทริปนั่งรถไฟเที่ยว สายไทรโยคน้อย
อัตราค่าบริการรถนั่งธรรมดาสำหรับ นั่งรถไฟเที่ยวทะเลชั้น 3 ผู้ใหญ่/ เด็ก คนละ 120 บาท
อัตราค่าบริการรถนั่งปรับอากาศสำหรับ นั่งรถไฟเที่ยวทะเลชั้น 2 ผู้ใหญ่/ เด็ก คนละ 240 บาท
นั่งรถไฟเที่ยวเขือนป่าสักชลสิทธิ์
เส้นทางการนั่งรถไฟเที่ยวสายนี้ เป็นการนั่งรถไฟเที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ โดยเป้าหมายที่เป็นไฮไลท์ของการนั่งรถไฟเที่ยวสายนี้คือ “รถไฟลอยน้ำ” ระหว่างการเดินทางไปยัง สถานที่ท่องเที่ยว รถไฟทางธรรมชาติ เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ โดยเริ่มนั่งรถไฟเที่ยวตั้งแต่เช้าและเดินทางกลับตอนเย็น โดยการรถไฟแห่งประเทศไทยพร้อมให้บริการเดินรถในวัน เสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ โดยช่วงเวลาในการเปิดให้บริการแต่ละปี โปรดตรวจสอบก่อนเดินทางได้ตั้งแต่ช่วงเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไป
- 10 น. เริ่มต้นการเดินทางนั่งรถไฟเที่ยว สายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ด้วยขบวนรถไฟพิเศษนำเที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ออกจากสถานีกรุงเทพ
- 00 น. เดินทางมาถึงสถานที่ท่องเที่ยว รถไฟเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
- 10 – 10.40 น.ขบวนรถหยุดประมาณ 30 นาที ณ สถานที่ท่องเที่ยว รถไฟจุดชมวิว เพื่อให้นักท่องเที่ยวชมทิวทัศน์ และถ่ายภาพบริเวณเหนือเขื่อน และสามารถชม “รถไฟลอยน้ำ”
- 30 น. ขบวนรถหยุดที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์สถานที่ท่องเที่ยว รถไฟที่หมายเพื่อให้นักท่องเที่ยวรับประมานอาหาร กลางวันตามอัธยาศัย หรือจะใช้บริการของรถไฟเล็กพาชมวิวทิวทัศน์โดยรอบ และซื้อของฝาก ของที่ระลึก จนถึงเวลาประมาณ 15.30 น.
- 30 น. ขบวนรถไฟออกเดินทางจากสถานที่ท่องเที่ยว รถไฟเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
- 20 น. ขบวนรถไฟเดินทางมาถึงสถานีกรุงเทพโดยสวัสดิภาพ จบทริปนั่งรถไฟเที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์
อัตราค่าบริการนั่งรถไฟเที่ยวอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับชนิดของรถโดยสารที่ให้บริการ ดังนั้นโปรดติดต่อสอบถาม ราคาค่าโดยสารได้ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน
สายด่วน 1690 หรือ 0 2220 4254, 0 2220 4243
นั่งรถจักรไอน้ำย้อนรอยวันวาน
การนั่งรถไฟเที่ยวด้วยขบวนรถจักรไอน้ำย้อนรอยวันวาน สายนี้จะมีการให้บริการเพียงปีละ 5 ครั้งเท่านั้น โดยจะมีการจัดการนั่งรถไฟเที่ยวรถจักรไอน้ำ 5 ครั้งในโอกาส
- วันคล้ายวันสถาปนากิจการรถไฟ 26 มีนาคม ของทุก ๆ ปี
- วันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร 28 กรกฎาคม
- วันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม
- วันคล้ายวันสวรรคต พระบามสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว 23 ตุลาคม
- วันคล้ายวันพระราชสมภพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร วันชาติ และวันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม
ก่อนการนำหัวรถจักรดีเซลมาใช้ การรถไฟแห่งประเทศได้นำหัวรถจักรไอน้ำมาใช้ช่วงปี พ.ศ.2454 – 2493 หลังจากนั้นได้ทยอยปลดระวาง และคงเหลือไว้เพียงการนำขบวนเพื่อเฉลิมฉลองในวันสำคัญ ๆ และเพื่อการนั่งรถไฟเที่ยวซึ่งมีการให้บริการเพียงแค่ปีละ 5 ครั้งดังที่กล่าวไป ซึ่งการนั่งรถไฟเที่ยวสายนี้จะเป็นการเดินรถนำเที่ยวเส้นทางต่าง ๆ ตามสถานที่ท่องเที่ยว รถไฟซึ่งหมุนเวียนไป เช่น จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ฉะเชิงเทรา นรปฐม และสถานที่ท่องเที่ยว รถไฟที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ โดยการนั่งรถไฟเที่ยวนี้ จะออกเดินทางที่สถานีกรุงเทพ เวลา 8.00 น. และเดินทางไปตามสถานที่ท่องเที่ยว รถไฟพร้อมมีมัคคุเทศก์ และมีกิจกรรมพิเศษตลอดเส้นทาง
อัตราค่าบริการนั่งรถไฟเที่ยวอาจจะมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับชนิดของรถโดยสารที่ให้บริการ และเส้นทางนั่งรถไฟเที่ยวที่ขบวนรถเดินทางไป ดังนั้นโปรดติดต่อสอบถาม ราคาค่าโดยสารล่วงหน้า 60 วันก่อนทางเดินทาง
สายด่วน 1690 หรือ 0 2220 4254, 0 2220 4243
นั่งรถไฟเที่ยวอุทยานประวัติศาสตร์ปราสาทเมืองสิงห์
เส้นทางนั่งรถไฟเที่ยวสายอุทยานประวัติศาสตร์ปราสาทเมืองสิงห์ เป็นการนั่งรถไฟเที่ยวแบบไปเช้ากลับเย็น โดยการรถไฟให้บริการรถไฟทุกวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ซึ่งจุดมุ่งหมายปลายทางของการเดินทางไปสถานที่ท่องเที่ยว รถไฟสายนี้ คือ อุทยานประวัติศาสตร์ปราสาทเมืองสิงห์ โดยเริ่มเดินทางนั่งรถไฟเที่ยวกันตั้งแต่เช้า ผ่านสถานที่ท่องเที่ยว รถไฟทั้งสะพานข้ามแม่น้ำแคว รีสอร์ทบ้านริมแคว แพริมน้ำและสุสารทหารสัมพันธมิตร โดยมีโปรแกรมการเดินทางนั่งรถไฟเที่ยวดังนี้
- 30 น. เริ่มเดินทางนั่งรถไฟเที่ยว ออกจากสถานีกรุงเทพ ด้วยขบวนรถไฟพิเศษนำเที่ยวน้ำตก ขบวนที่ 909
- 40 น. ถึงสถานีนครปฐม นมัสการองค์พระปฐมเจดีย์สถานที่ท่องเที่ยว รถไฟ หรือเดินซื้อของที่ตลาดนครปฐม ประมาณ 40 นาที
- 20 น. ขบวนรถไฟพิเศษนำเที่ยวออกเดินทางไปสถานที่ท่องเที่ยว รถไฟแห่งต่อไปคือสะพานข้ามแม่น้ำแคว
- 35 น. นั่งรถไฟเที่ยวถึงสถานที่ท่องเที่ยว รถไฟสะพานข้ามแม่น้ำแคว ให้นักท่องเที่ยวชมและถ่ายภาพตามอัธยาศัย
- 00 น. ขบวนรถไฟออกเดินทางจากสะพานข้ามแม่น้ำแคว และนั่งรถไฟเที่ยวถึงสถานีท่ากิเลน นั่งรถยนต์เข้าสู่อุทยานประวัติศาสตร์ปราสาทเมืองสิงห์ และชมโครงกระดูกมนุษย์โบราณ 12.00 น. รับประทานอาหารกลางวัน ณ ศาลาอาหารดุสิตรีสอร์ท บ้านริมแคว แพริมน้ำ และเล่นน้ำได้ตามอัธยาศัย
- 50 น. เดินทางกลับจากป้ายหยุดรถสะพานถ้ำกระแช
- 50 น. ถึงสถานที่ท่องเที่ยว รถไฟสุสารทหารสัมพันธมิตรที่เสียชีวิตระหว่างการสร้างรถไฟสายมรณะ และแวะซื้อของฝากกลับบ้าน
- 00 น. พร้อมเดินทางนั่งรถไฟเที่ยวกลับ
- 25 น. ถึงสถานีกรุงเทพ โดยสวัสดิภาพ
อัตราค่าบริการนั่งรถไฟเที่ยวรถนั่งธรรมดาชั้น 3 ผู้ใหญ่ คนละ 900 บาท/ เด็ก คนละ 570 บาท
อัตราค่าบริการนั่งรถไฟเที่ยวรถนั่งปรับอากาศชั้น 2 ผู้ใหญ่ คนละ 1,020 บาท/ เด็ก คนละ 690 บาท
นักท่องเที่ยวต่างชาวชาติ เพิ่มค่าเข้าชมอุทยานแห่งชาติ อีกท่านละ 100 บาท
เที่ยวรถไฟค้างคืน
นั่งรถไฟเที่ยวบ้านริมแคว แพริมน้ำ รีสอร์ท
การเดินทางเที่ยวรถไฟค้างคืน เส้นทางนี้เราจะพาคุณนั่งรถไฟเที่ยวไปที่สถานที่ท่องเที่ยว รถไฟคือบ้านริมแควแพริมน้ำ รีสอร์ทซึ่งเป็นจุดหมายปลายทาง โดยเราสามารถพักค้างคืนที่นี่ได้เป็นเวลา 2 วัน 1 คืน โดยออกเดินทางนั่งรถไฟเที่ยวด้วยขบวนรถไฟพิเศษนำเที่ยวน้ำตก ขบวนที่ 909
วันเสาร์
- 30 น. ออกเดินทางเที่ยวรถไฟค้างคืน
- 40 น. ถึงสถานีนครปฐม นมัสการองค์พระปฐมเจดีย์หรือเดินเลือกซื้อของได้ประมาณ 40 นาที
- 20 น. ขบวนรถไฟออกเดินทางไปสถานที่ท่องเที่ยว รถไฟแห่งถัดไป
- 35 น. เดินทางมาถึงสะพานข้ามแม่น้ำแคว รถหยุดเพื่อให้นักท่องเที่ยวชมและถ่ายภาพสะพานข้ามแม่น้ำ ตามอัธยาศัย
- 00 น. ขบวนรถออกจากสถานที่ท่องเที่ยว รถไฟสะพานข้ามแม่น้ำแคว ผ่านเส้นทางรถไฟสายประวัติศาสตร์ลัดเลาะไปตามหน้าผาและป่าโปร่ง ตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
- 30 น. นั่งรถไฟเที่ยวถึงน้ำตกไทรโยคน้อย รับประทานอาหารตามอัธยาศัย
- 30 น. ขบวนรถไฟพิเศษนำเที่ยวออกจากสถานีน้ำตก
- 00 น. เที่ยวรถไฟค้างคืนเดินทางถึงป้ายหยุดรถสะพานถ้ำกระแช และข้ามแม่น้ำแควน้อยเพื่อเข้าที่พัก “บ้านริมแคว แพริมน้ำ” พักผ่อนตามอัธยาศัย โดยมีกิจกรรมมากมายที่สถานที่ท่องเที่ยว รถไฟเช่น เล่นน้ำ ตกปลา ล่องแพ
- 30 น. รับประทานอาหารค่ำที่ศาลาอาหาร “ดุสิต” ระหว่างการรับประทานอาหารฟังบรรยายประวัติความเป็นมาของสะพานรถไฟ ถ้ำกระแช และความเป็นมาและเรื่องราวการสร้างสะพานสายมรณะ
- 30 น. สนุกกับการเล่นแคมป์ไฟและเกมส์ต่าง ๆ ร่วมกับข้าวต้มรอบดึก
วันอาทิตย์
- 00 น. รับประทานอาหารเช้า ที่ศาลาอาหาร “ดุสิต”
- 30 น. นำเที่ยวรถไฟค้างคืนที่ถ้ำกระแช และสะพานรถไฟสายมรณะ โดยการนั่งเรือข้ามฝั่งแม่น้ำไปนมัสการพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ภายในถ้ำ และจุดชมวิวที่สวยที่สุดในลำน้ำแควน้อย
- 00 น. เดินทางกลับมาพักผ่อนที่รีสาร์ท
- 00 น. รับประทานอาหารกลางวัน
- 30 น. เดินทางนั่งรถไฟเที่ยวกลับกรุงเทพ ด้วยขบวนรถไฟธรรมดาที่ 258 น้ำตก – ธนบุรี
- 00 น. ถึงสถานีธนบุรี โดยสวัสดิภาพ สิ้นสุดการเดินทางเที่ยวรถไฟค้างคืน 2 วัน 1 คืน
อัตราค่าบริการเที่ยวรถไฟค้างคืน รถนั่งธรรมดาชั้น 3 ผู้ใหญ่ คนละ 1,535 บาท/ เด็ก คนละ 940 บาท
อัตราค่าบริการเที่ยวรถไฟค้างคืน รถนั่งปรับอากาศ ชั้น 2 ผู้ใหญ่ คนละ 1,655 บาท/ เด็ก คนละ 1,060 บาท