
การเป็นนักเรียนหรือมหาวิทยาลัยถือเป็นช่วงเวลาที่สำคัญในชีวิต แต่ก็เป็นช่วงเวลาที่ท้าทายด้านการเงินเช่นกัน เพราะต้องจัดการรายจ่ายทั้งค่าเล่าเรียน ค่าเดินทาง ค่าอาหาร และค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่น ๆ การบริหารเงินอย่างมีระบบจึงเป็นทักษะสำคัญที่ช่วยให้นักเรียนอยู่ได้อย่างสบายใจโดยไม่ต้องพึ่งพาหนี้สิน วันนี้เราจะพามาอัพเดตเทคนิคการออมเงินสำหรับนักเรียนในปี 2025 ที่เข้าใจง่ายและทำได้จริง
วางแผนงบประมาณให้ชัดเจน
จุดเริ่มต้นของการออมเงินคือ การทำงบประมาณ (Budgeting) นักเรียนควรเริ่มจากการจดบันทึกรายรับและรายจ่ายทั้งหมดในแต่ละเดือน ไม่ว่าจะเป็นเงินค่าเล่าเรียน เงินจากครอบครัว ทุนการศึกษา หรือรายได้จากการทำงานพาร์ทไทม์ เครื่องมือที่ช่วยได้ เช่น แอปบริหารการเงินอย่าง Blackbullion Money Manager หรือแม้แต่การทำตาราง Excel ก็เป็นทางเลือกที่ดี
เมื่อรู้รายรับและรายจ่ายแล้ว ให้นักเรียนจัดลำดับความสำคัญของค่าใช้จ่าย เช่น ค่าเช่าห้อง ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเทอร์เน็ต และค่าเดินทาง จากนั้นแยกส่วนสำหรับค่าอาหาร อุปกรณ์การเรียน และเงินสำหรับกิจกรรมสังคมหรือท่องเที่ยว ถ้าพบว่าใช้จ่ายเกินรายได้ ต้องรีบหาทางแก้ไข เช่น ลดรายจ่ายฟุ่มเฟือยหรือหางานเสริมเพิ่มรายได้
ประหยัดค่าอาหารด้วยการทำอาหารเอง
ค่าอาหารถือเป็นหนึ่งในรายจ่ายที่สูงที่สุดของนักเรียน โดยเฉพาะหากกินอาหารนอกบ้านหรือสั่งเดลิเวอรีบ่อย ๆ เทคนิคง่าย ๆ คือ ซื้อวัตถุดิบแบบประหยัดและทำอาหารเอง ควรซื้อของใช้พื้นฐานจากซูเปอร์มาร์เก็ตช่วงลดราคา เช่น ช่วงใกล้ปิดร้าน หรือเลือกสินค้ายี่ห้อบ้าน ๆ ที่ราคาถูกกว่าแบรนด์ดัง
อีกวิธีคือทำอาหารกินร่วมกับเพื่อนร่วมห้องหรือเพื่อนร่วมหอ เพื่อประหยัดทั้งค่าใช้จ่ายและเวลา ตัวอย่างเช่น วางแผนเมนูทั้งสัปดาห์ ทำกับข้าวเผื่อมื้อกลางวันในวันรุ่งขึ้น จะช่วยลดค่าใช้จ่ายจากการซื้อกาแฟหรือแซนด์วิชระหว่างวันได้มาก
ลดค่าเดินทางแบบชาญฉลาด
หลายมหาวิทยาลัยตั้งอยู่ใจกลางเมืองหรือมีระบบขนส่งสาธารณะที่สะดวก นักเรียนไม่จำเป็นต้องมีรถยนต์ส่วนตัว เพราะจะทำให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่ม เช่น ค่าน้ำมันและค่าซ่อมบำรุง ควรใช้บัตรโดยสารรายเดือนหรือรายสัปดาห์ที่มีส่วนลดสำหรับนักเรียน เช่น บัตรนักเรียนสำหรับรถไฟหรือรถเมล์ ซึ่งจะช่วยประหยัดค่าเดินทางได้หลายพันบาทต่อปี
สำหรับนักศึกษาต่างจังหวัดหรือที่ต้องเดินทางไกล ควรสมัครสมาชิกบัตรส่วนลด เช่น Railcard สำหรับส่วนลดค่าโดยสาร หรือใช้แอปเช็กโปรโมชั่นขนส่ง เช่น Grab, LINE MAN, Bolt เพื่อให้ได้ราคาที่คุ้มค่าที่สุด
ใช้สิทธิ์ส่วนลดนักเรียนให้คุ้มค่า
ในปี 2025 นักเรียนสามารถเข้าถึงสิทธิพิเศษและส่วนลดมากมายผ่านระบบออนไลน์ เช่น TOTUM Student+ หรือ UNiDAYS ที่มีส่วนลดตั้งแต่ร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้า ไปจนถึงซอฟต์แวร์การเรียน เช่น Grammarly Premium หรือ Microsoft Office บางโปรโมชั่นอาจลดสูงสุดถึง 50% เช่น ส่วนลดพิซซ่าจาก Domino’s หรือลดราคา Gadget
นอกจากนี้ยังมีเว็บไซต์รวมดีลและของแจกฟรี เช่น HotUKDeals หรือแพลตฟอร์มในไทยอย่าง Shopee, Lazada ที่มักจัดโปรโมชั่นพิเศษสำหรับนักเรียน อย่าลืมตรวจสอบสิทธิ์และรีเฟรชข้อมูลทุกปีเพื่อคงสถานะนักเรียนไว้
ประหยัดค่าอุปกรณ์การเรียน
ตำราหรือหนังสือเรียนมักมีราคาสูง แต่จริง ๆ แล้วไม่จำเป็นต้องซื้อใหม่ทุกเล่ม สามารถหาหนังสือมือสองจากเว็บไซต์ เช่น Amazon หรือกลุ่มนักศึกษาในมหาวิทยาลัย รวมถึงยืมจากห้องสมุดเพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย อีกทั้งยังสามารถขายหนังสือที่ไม่ใช้แล้วต่อให้รุ่นน้องเพื่อหมุนเวียนเงินทุน
สำหรับอุปกรณ์อื่น ๆ เช่น แล็ปท็อปหรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ควรเลือกซื้อรุ่นที่มีส่วนลดการศึกษาหรือใช้เวอร์ชันฟรีที่ถูกกฎหมาย เช่น Google Docs, Canva และ GIMP
บริหารค่าใช้จ่ายในบ้านอย่างมีระบบ
สำหรับนักเรียนที่อยู่หอพักรวม ควรจัดการค่าใช้จ่ายส่วนกลาง เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเทอร์เน็ต ด้วยความโปร่งใส ใช้การโอนเงินผ่านแอปธนาคารและจดบันทึกทุกครั้ง เพื่อลดความเข้าใจผิดและความขัดแย้ง
การตั้ง ระบบหักเงินอัตโนมัติ (Direct Debit) จะช่วยให้ไม่พลาดกำหนดชำระและหลีกเลี่ยงค่าปรับจากการจ่ายล่าช้า พร้อมทั้งควรเลือกใช้เว็บไซต์เปรียบเทียบราคาค่าไฟหรืออินเทอร์เน็ต เพื่อหาบริการที่คุ้มค่าที่สุด
หารายได้เสริม
นอกจากการประหยัดแล้ว การเพิ่มรายได้ก็สำคัญเช่นกัน นักเรียนสามารถทำงานพาร์ทไทม์ เช่น งานร้านกาแฟ ร้านสะดวกซื้อ หรืองานในมหาวิทยาลัย อีกทางเลือกคือ Side Hustle ออนไลน์ เช่น รับถ่ายรูป ขายของออนไลน์ ดูแลสัตว์เลี้ยง หรือทำคอนเทนต์โซเชียลมีเดีย
ในยุคดิจิทัลยังมีช่องทางหารายได้ใหม่ ๆ เช่น สอนพิเศษออนไลน์ หรือรับงานฟรีแลนซ์ผ่านแพลตฟอร์มอย่าง Fastwork และ Fiverr
เปิดบัญชีธนาคารสำหรับนักเรียน
หลายธนาคารมีบัญชีสำหรับนักเรียนโดยเฉพาะ พร้อมสิทธิพิเศษ เช่น ดอกเบี้ยต่ำหรือ Overdraft (วงเงินเบิกเกินบัญชี) ที่ไม่คิดดอกเบี้ยในช่วงเวลาที่กำหนด การมีบัญชีนี้จะช่วยให้จัดการเงินง่ายขึ้นและมีเงินสำรองยามฉุกเฉิน
ควรแยกบัญชีสำหรับค่าใช้จ่ายประจำ เช่น ค่าเช่าห้อง และบัญชีสำหรับการออม เพื่อสร้างวินัยทางการเงิน และเลือกบัญชีที่มีระบบ ออมอัตโนมัติ (Auto-Saving) ที่จะปัดเศษเงินจากการใช้จ่ายและเก็บเข้าบัญชีออมโดยอัตโนมัติ
จัดการหนี้ตั้งแต่เนิ่น ๆ
หลายคนเผชิญปัญหาหนี้สินตั้งแต่วัยเรียน หากปล่อยไว้จะส่งผลกระทบต่อทั้งผลการเรียนและสภาพจิตใจ หากเริ่มมีหนี้ ควรปฏิบัติดังนี้
-
อย่าตกใจและอย่าหลีกเลี่ยง เปิดจดหมายหรืออีเมลทุกฉบับและจัดการปัญหาทันที
-
แยกประเภทหนี้ เช่น หนี้สำคัญ (ค่าเช่าห้อง ค่าไฟฟ้า) และหนี้ทั่วไป (บัตรเครดิต เงินยืมจากเพื่อน)
-
ขอคำปรึกษา จากที่ปรึกษาทางการเงินของมหาวิทยาลัย หรือองค์กรที่ให้คำแนะนำฟรี เช่น มูลนิธิด้านการเงิน
-
หลีกเลี่ยงการกู้เงินด่วนหรือสินเชื่อที่ดอกเบี้ยสูง เพราะจะยิ่งทำให้ปัญหาหนี้รุนแรงขึ้น
สรุป
การออมเงินสำหรับนักเรียนในปี 2025 ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของการใช้จ่ายให้น้อยที่สุด แต่เป็นเรื่องของ การวางแผน การสร้างรายได้ และการใช้สิทธิ์อย่างชาญฉลาด ด้วยเครื่องมือดิจิทัลและสิทธิพิเศษมากมายที่มีอยู่ในปัจจุบัน นักเรียนสามารถบริหารการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างพื้นฐานที่มั่นคงเพื่อก้าวสู่อนาคตที่มั่นใจยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเรียนต่อ การหางาน หรือการเริ่มต้นชีวิตหลังเรียนจบ