ยืมเงินทางไลน์ เก็บหลักฐานฟ้องได้ จากข้อมูลของ สำนักงานปลัดกระทรวงยุติธรรม สำนักงานกิจการยุติธรรมและสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (องค์กรมหาชน) เปิดเผยว่า ยืมเงินทางไลน์ สามารถใช้เป็นหลักฐานแทนสัญญากู้ยืมเงินได้ โดย ข้อกฏหมายกำหนดว่า ข้อความสนทนาในการขอกู้ยืมเงินเกิน 2,000 บาท ผ่านการ แชท (Chat) บนระบบอิเล็กทรอนิกส์หรือสื่อออนไลน์นั้นสามารถใช้เป็นหลักฐานสำหรับการกู้ยืมเงิน เป็นหนังสือหรือเอกสารหลักฐานในการฟ้องคดีตามกฎหมายได้ โดยให้รวบรวมหลักฐานให้ครบถ้วน ดังนี้
ลิงก์ผู้สนับสนุน
เก็บข้อความสนทนา (Chat) กู้ยืมเงิน
ในปัจจุบันมี Application หรือสื่อออนไลด์มากมายหลายตัวที่เปิดให้บริการระบบการสนทนาแก่ผู้ใช้ ซึ่งหลายครั้งที่มีการใช้ระบบการสนทนาในการติดต่อเรื่องส่วนตัว เรื่องธุรกิจ เรื่องงานและที่สำคัญคือ กู้ยืมเงิน ซึ่งการสนทนานี้สามารถใช้เป็นหลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อนำไปใช้ในการฟ้องร้องคดีความตามกฎหมายได้ โดยจะต้องเป็นการสนทนาระหว่างผู้กู้ยืมและผู้ให้ยืม โดยจะต้องมีรายละเอียดของบัญชีผู้ใช้ (User Account) ของผู้กู้ยืมที่ชัดเจน เช่น ระบุชื่อ รูปภาพโปรไฟล์
หลักฐานการโอนเงิน
รายละเอียดที่สำคัญที่ขาดไม่ได้สำหรับการให้ข้อความสนทนาเป็นหลักฐานในการฟ้องร้องคดีตามกฎหมาย ก็คือหลักฐานการโอนเงิน หลังจากมีข้อความที่สนทนาเกี่ยวกับกู้ยืมแล้ว การกระทำจะสมบูรณ์ตามกฎหมายได้ก็คือจะต้องมีการให้ยืมที่เกิดขึ้นจริง โดยจะต้องมีการโอนเงินให้ผู้ขอกู้ยืม ซึ่งหลักฐานที่สามารถใช้ในข้อนี่คือ การเก็บหลักฐานการโอนเงิน หรือ Slip ธนาคาร นั้นเอง คล้ายคลึงกับการโอนเงินซื้อสินค้าออนไลน์ประเภทอื่น ๆ ที่จะต้องมีการยืนยันหลักฐานการชำระเงิน ซึ่งในหลักฐานการโอนจะต้องมีรายละเอียดครบถ้วนเช่นกันคือ บัญชีของผู้ขอกู้ยืมและจำนวนเงินที่ชัดเจน
ลักษณะข้อมูลที่ใช้เป็นหลักฐานการพิจารณาคดีได้
มีข้อมูลที่ระบุบัญชีของผู้ยืมเงิน เป็นประเด็นที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการยืนยันตัวบุคคลผู้กู้ยืมเงิน คล้ายคลึงกับการยืนยันผู้ต้องหาในคดีความอื่นๆ เลยทีเดียว ข้อความสนทนาที่บันทึกไว้นั้นจะต้องมีรายละเอียดของผู้กู้ยืมที่ชัดเจน เช่น ชื่อบัญชีผู้ใช้ รูปภาพโปรไฟล์ เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ สถานที่ทำงาน อีเมล อาจไม่จำเป็นต้องมีครบทั้งหมดแต่ขอให้มีเพียงพอสำหรับการยืนยันตัวตนของผู้กู้ยืม
ข้อมูลต้องอยู่ในระบบที่ปลอดภัยและเชื่อถือได้ เช่น แอพพลิเคชั่น Line Facebook เป็นต้น ซึ่งการสนทนาบนระบบหรือแอพพลิเคชั่นดังกล่าวนั้น มีระบบรักษาความปลอดภัยของแอพพลิเคชั่นรับรองในระดับหนึ่ง ซึ่งเป็นการยากที่จะมีการแอบอ้างหรือแฮคบัญชีผู้ใช้ แล้วแอบอ้างเป็นบุคคลอื่นเพื่อมาขอกู้ยืมเงิน ทำให้หลักฐานการสนทนานี้มีความน่าเชื่อถือเพียงพอที่จะใช้เป็นหลักฐานในการฟ้องร้องคดีตามกฎหมายได้
ต้องเก็บหลักฐานทันที เมื่อมีการขอกู้ยืมเงิน และรักษาข้อมูลให้อยู่ในสภาพเดิม ไม่มีการแก้ไข วัน เวลา ที่มีการรับส่งข้อความ โดยมีการระบุวันเวลาที่ชัดเจนและไม่มีการปรับแก้ไขหลักฐานนั้นๆ ซึ่งในปัจจุบันมีโปรแกรมที่สามารถตรวจการปรับแก้ของไฟล์ทั้งเอกสารและรูปภาพ ดังนั้น ข้อความสนทานาที่จะสามารถนำมาใช้เป็นหลักฐานการขอกู้ยืมเงินได้นั้นควรเป็นไฟล์ต้นฉบับ (Original) เท่านั้น
อายุความฟ้องคดีกู้ยืมเงิน
การฟ้องร้องคดีความตามกฎหมายจะต้องดำเนินการภายใน 10 ปี นับแต่วันถึงกำหนดชำระเงินกู้ยืมคืน ตัวอย่างเช่น การกู้ยืมเงิน ระหว่าง A และ B มีการคุยสนทนาขอกู้ยืมเงิน จำนวน 5,000 บาท มีกำหนดชำระคืนเงิน วันที่ 1 มกราคม 2564 แต่ไม่ชำระ ดังนั้นจะต้องมีการฟ้องร้องภายในวันที่ 1 มกราคม 2574 ภายในระยะเวลา 10 ปี
ส่วนการกู้ยืมเงินที่มีการระบุเป็นสัญญาที่มีการกำหนดให้ผู้กู้ยืมเงินชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยเป็นงวด ๆ นั้นมีอายุความเพียง 5 ปี