
แม้จะติดแบล็คลิส (หรือมีประวัติค้างชำระในเครดิตบูโร) แต่ในปี 2568 ยังมีทางเลือกกู้เงินได้อยู่จริง เพียงแต่ต้องเลือกแหล่งที่เข้าใจความเสี่ยง และมีนโยบายรับลูกค้ากลุ่มนี้โดยตรง นี่คือทางเลือกที่ยังเข้าถึงได้
ติดแบล็คลิส กู้เงินที่ไหนได้บ้าง
1. กู้ผ่าน “สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์” และ “พิโกไฟแนนซ์”
-
นาโนไฟแนนซ์ (Nano Finance) และ พิโกไฟแนนซ์ (Pico Finance) บางแห่งอนุมัติให้ผู้ติดแบล็คลิสกู้ได้
-
ตัวอย่าง: เมืองไทยแคปปิตอล, ศักดิ์สยามลิสซิ่ง, เฮงลิสซิ่ง, ธนาคารออมสินโครงการสินเชื่อสู้ภัย
-
วงเงินเริ่มต้นตั้งแต่ 2,000 – 100,000 บาท แล้วแต่รายได้และประวัติลูกค้า
-
ใช้บัตรประชาชน+ทะเบียนบ้าน และในบางที่อาจขอคนค้ำประกัน
ข้อดี: ยืดหยุ่น อนุมัติเร็ว
ข้อเสีย: ดอกเบี้ยสูงกว่าสินเชื่อธนาคารปกติ
2. กู้เงินผ่านแอปพลิเคชันถูกกฎหมายที่ไม่เน้นเครดิตบูโร
บางแอปเงินด่วนพิจารณาจาก “พฤติกรรมการใช้จ่าย” หรือ “ข้อมูลมือถือ” มากกว่าเครดิตบูโร เช่น
-
FINNIX (สินเชื่อถูกกฎหมาย): เน้นพฤติกรรมการเงินในโทรศัพท์
-
เงินทันเด้อ: ใช้ข้อมูลธุรกรรมมือถือพิจารณา
-
LINE BK วงเงินให้ยืม: สำหรับคนที่มีบัญชีเงินเดือนเข้า LINE BK สม่ำเสมอ ถึงติดบูโรแต่บัญชีสวยก็ยังมีโอกาสผ่านได้
ข้อดี: ไม่เน้นตรวจบูโรลึก ๆ
ข้อเสีย: วงเงินเริ่มต้นไม่สูงนัก และดอกเบี้ยจะสูงกว่าสินเชื่อบุคคลปกติ
3. กู้เงินกับ “โรงรับจำนำ” หรือ “ร้านทอง”
-
โรงรับจำนำของรัฐและเอกชนยังเป็นทางเลือกคลาสสิก
-
นำทรัพย์สิน เช่น ทองคำ นาฬิกา มือถือ ไปจำนำเพื่อแลกเงินสด
-
ไม่มีการตรวจเครดิต ไม่สนใจประวัติการค้างหนี้ ขอแค่มีของมีค่า
ข้อดี: ได้เงินสดทันที
ข้อเสีย: ต้องไถ่คืนตามกำหนด มิฉะนั้นทรัพย์จะถูกขายทอดตลาด
4. กู้ผ่าน “ผู้ให้บริการเงินกู้รายย่อย” ที่ได้รับอนุญาต
-
ผู้ให้บริการเงินกู้ถูกกฎหมายระดับจังหวัด เช่น บริษัทในกลุ่มพิโกไฟแนนซ์ หรือรายย่อยที่ขึ้นทะเบียนกับกระทรวงการคลัง
-
ตัวอย่างในบางจังหวัด เช่น บจก.โพธิ์ทอง พิโกไฟแนนซ์, บจก.ซีเนียร์ ลิสซิ่ง ฯลฯ
-
บางที่ยินดีรับลูกค้าติดบูโร แต่ต้องมีคนค้ำหรือหลักทรัพย์
ข้อดี: มีสัญญาถูกกฎหมาย คุ้มครองโดยกฎหมายไทย
ข้อเสีย: เงื่อนไขอาจเข้มงวด เช่น ขอหลักทรัพย์ หรือมีค่าธรรมเนียมเพิ่ม
5. กู้จากโครงการช่วยเหลือรัฐ (เฉพาะช่วงเปิดโครงการ)
บางช่วงรัฐบาลมีโครงการกู้พิเศษ เช่น
-
สินเชื่อสู้ภัยโควิด จากธนาคารออมสิน (เปิดในบางช่วง)
-
สินเชื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ สำหรับคนรายได้น้อย หรือไม่มีหลักฐานรายได้ชัดเจน
-
กรณีเหล่านี้ รัฐมักผ่อนคลายเกณฑ์เรื่องบูโร
ข้อดี: ดอกเบี้ยต่ำมาก
ข้อเสีย: ต้องติดตามข่าวโครงการและสมัครทันเวลาที่กำหนด
ข้อควรระวังเมื่อกู้เงินขณะติดแบล็คลิส
-
อย่าใช้บริการเงินกู้นอกระบบ: ถึงแม้ดูง่าย แต่ดอกเบี้ยโหด และเสี่ยงอันตรายมาก
-
อ่านสัญญาให้ชัดเจน: ดูเรื่องดอกเบี้ยจริง ค่าใช้จ่ายแฝง ค่าธรรมเนียมการผิดนัด
-
เริ่มวางแผนล้างประวัติค้างชำระ: แม้จะกู้ได้ในภาวะติดแบล็คลิส แต่ถ้าจะกู้ในวงเงินที่ใหญ่ขึ้นในอนาคต การเคลียร์หนี้เก่าเป็นสิ่งสำคัญมาก
รายชื่อแอปกู้เงินที่ไม่เช็กบูโร 2568
1. FINNIX (ฟินนิกซ์)
-
เจ้าของ: บริษัท มันนิกซ์ จำกัด (เครือธนาคารไทยพาณิชย์ SCB)
-
จุดเด่น: ใช้พฤติกรรมทางการเงินและข้อมูลมือถือในการวิเคราะห์ ไม่เน้นเครดิตบูโร
-
วงเงิน: เริ่มต้น 2,000 – 100,000 บาท
-
ดอกเบี้ย: 2.75% ต่อเดือน (ลดต้นลดดอก)
-
อนุมัติไวสุดใน 5 นาที
2. เงินทันเด้อ (Ngern Tid Lor App)
-
เจ้าของ: บริษัท เอสซีบี อบาคัส จำกัด (เครือ SCB)
-
จุดเด่น: พิจารณาข้อมูลจากมือถือ, บัญชีเดินเงินแทนบูโร
-
วงเงิน: สูงสุด 50,000 บาท
-
ดอกเบี้ย: ไม่เกิน 25% ต่อปี
3. LINE BK วงเงินให้ยืม
-
เจ้าของ: LINE Financial Asia + กสิกรไทย
-
จุดเด่น: สำหรับลูกค้าที่มีรายได้เข้า LINE BK สม่ำเสมอ แม้มีประวัติบูโรไม่สวยก็มีสิทธิ์ผ่าน
-
วงเงิน: เริ่มต้น 1,000 – 800,000 บาท
-
ดอกเบี้ย: 18–25% ต่อปี
4. TrueMoney WeCard (ทรูมันนี่ วงเงินพร้อมใช้)
-
เจ้าของ: บริษัท แอสเซนด์ นาโน จำกัด (ในกลุ่ม True Corporation)
-
จุดเด่น: วงเงินเล็ก ๆ ยืดหยุ่น ไม่เน้นตรวจบูโร
-
วงเงิน: เริ่มต้น 500 – 10,000 บาท
-
ดอกเบี้ย: 25% ต่อปี
5. ฟินนิกซ์
-
เจ้าของ: บริษัท มันนิกซ์ จำกัด
-
จุดเด่น: เป็นโปรแกรมสินเชื่อผ่านแอป ไม่เน้นเครดิตบูโร เน้นการยืนยันตัวตนและบัญชีเดินเงิน
-
วงเงิน: 2,000 – 100,000 บาท
-
หมายเหตุ: ปัจจุบันอาจมีบางพื้นที่ที่หยุดให้บริการ ต้องเช็กอีกครั้งในแอป
6. ป๋า (Pa Digital Loan)
-
เจ้าของ: บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด (เครือ Jaymart)
-
จุดเด่น: อนุมัติไว ไม่เน้นเช็กเครดิตบูโรหนัก
-
วงเงิน: สูงสุด 20,000 บาท
-
ดอกเบี้ย: 2.5% ต่อเดือน
7. Flash Money (แฟลชมันนี่)
-
เจ้าของ: บริษัท แฟลช เอกซ์เพรส จำกัด (ในเครือ Flash Group)
-
จุดเด่น: ให้บริการสินเชื่อบุคคลวงเงินเล็กถึงกลางโดยไม่เน้นประวัติเครดิต
-
วงเงิน: เริ่มต้น 1,000 – 20,000 บาท
-
ดอกเบี้ย: 24–25% ต่อปี
หมายเหตุสำคัญ:
-
แม้หลายแอปจะ “ไม่เน้นเช็กบูโร” แต่หากมีหนี้เสียจำนวนมาก อาจต้องใช้วิธีส่งเอกสารเสริม เช่น statement หรือบันทึกการเงินในมือถือ
-
แอปทั้งหมดข้างต้น ถูกกฎหมาย มีใบอนุญาต ไม่ใช่เงินกู้นอกระบบ
-
ก่อนสมัคร อ่านเงื่อนไขและดอกเบี้ยให้ละเอียด และวางแผนการผ่อนชำระด้วย
สรุป
ในปี 2568 แม้จะติดแบล็คลิส ก็ยังสามารถกู้เงินได้จากหลายทาง เช่น พิโกไฟแนนซ์ นาโนไฟแนนซ์ แอปเงินด่วนที่ถูกกฎหมาย โรงรับจำนำ หรือผู้ให้บริการรายย่อยที่มีใบอนุญาต เลือกทางที่เหมาะกับตัวเอง อ่านเงื่อนไขให้ดี และวางแผนชำระหนี้เพื่อโอกาสการเงินที่ดีขึ้นในอนาคต