หมดลงไปแล้วสำหรับการยื่นภาษีประจำปี 2562 ซึ่งคำถามต่อไปที่คุณต้องคิดทันทีหลังจากยื่นภาษีปีนี้ คือ คุณพร้อมสำหรับการยื่นภาษีปี 2563 แล้วหรือยัง แม้ว่าจะยังมีเวลาอีกเยอะสำหรับการหาวิธี ลดหย่อนภาษี ปีภาษี 2563 เพิ่มเติมมากยิ่งขึ้น ทั้งการซื้อประกัน ลงทุน การบริจาค เป็นต้น แต่นั่นก็อาจไม่เพียงพอ ต่อการนำมาลดหย่อนภาษีปี 2563 ดังนั้นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ล่าสุด จากภาครัฐ “ช้อปดีมีคืน” อาจเป็นทางออกให้คุณสำหรับการ ลดหย่อนภาษีในปี 2563 เพิ่มเติมจากวิธีการดังที่ได้กล่าวไป
ลิงก์ผู้สนับสนุน
ช้อปดีมีคืน คือ
ช้อปดีมีคืน คือ มาตรการการกระตุ้นการใช้จ่ายสำหรับบุคคลที่เสียภาษีเงินได้ ด้วยการนำค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้าและบริการมาใช้เป็น ช่องทางในการขอลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามจำนวนจ่ายจริง รวมกันไม่เกิน 30,000 บาทต่อคน ซึ่งนอกจาก มาตรการ ช้อปดีมีคืนเงื่อนไข และรายละเอียดได้ถูกกำหนดมา โดยมีข้อมูลที่หลากหลายแล้ว หากคุณมีความสนใจที่จะขอรับการลดหย่อนภาษีเงินได้ จากมาตรการช้อปดีมีคืน คุณต้องดำเนินการศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม ซึ่งมีการกำหนดเงื่อนไขของมาตรการ ไว้ว่าการจับจ่ายซื้อสินค้าที่จะนำมาลดหย่อนภาษีปี 2563 ตามมาตรการ ช้อปดีมีคืน นั้น มีการยกเว้นการซื้อสินค้าและบริการดังต่อไปนี้ สุรา/ เบียร์ และไวน์ค่าน้ำมัน และก๊าซ ค่าหนังสือพิมพ์ และนิตยสาร ค่าบริการธุรกิจนำเที่ยว ยาสูบ ค่าโดยสารรถยนต์/ มอเตอร์ไซค์ และเรือ ค่าบริการ E – Book ค่าที่พักโรงแรม
ทั้งนี้ ผู้ที่จะขอรับสิทธิ์ลดหย่อนภาษี 2563 จากมาตรการ ช้อปดีมีคืน ผู้ใช้สิทธิ์ต้องซื้อสินค้ากับผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษี และต้องมีใบกำกับภาษีมูลค่าเพิ่มเต็มรูปแบบจากการซื้อสินค้าเป็นหลักฐาน และที่สำคัญคือ ผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน) หรือผู้ที่เข้าร่วมโครงการ คนละครึ่ง ไม่สามารถใช้สิทธิ์นี้ได้ ดังนั้น ในเบื้องต้น จะพอทราบรายละเอียดและเงื่อนไขของมาตรการช้อปดีมีคืนแล้ว ว่ามีข้อยกเว้นและมีการจำกัดสิทธิ์ สำหรับผู้ที่ขอรับสิทธิ์จากโครงการ คนละครึ่ง และสำหรับผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อไม่ให้เกิดการใช้สิทธิ์ซ้อน ซึ่งอาจจะนำไปสู่ปัญหาและการทุจริตได้ โดยหากคุณเป็นผู้ที่สามารถใช้สิทธิ์ได้ทั้ง 2 มาตรการ คุณควรพิจารณาและศึกษาถึงผลดี และผลเสียของทั้ง 2 มาตรการก่อนการลงทะเบียนและใช้สิทธิ์
ช้อปดีมีคืนเงื่อนไขเป็นอย่างไร
โดยทั่วไปแล้ว ผู้ที่มีรายได้ ตั้งแต่ 0 – 150,000 บาทนั้น จะได้รับการยกเว้นภาษี ดังนั้น สำหรับมาตรการ ช้อปดีมีคืน ก็จะไม่ได้รับสิทธิ์ด้วยเช่นกัน แม้ว่าจะดำเนินการจับจ่ายซื้อสินค้าเต็มจำนวน 30,000 บาทก็ตาม ดังนั้นหากคุณจัดว่าอยู่ในข่ายของผู้ที่มีรายได้ต่อปี ไม่เกิน 150,000 บาทก็จะไม่สามารถรับสิทธิ์การลดหย่อนภาษีนี้ได้ เพราะในที่สุดแล้ว คุณก็ไม่ต้องจ่ายภาษีอยู่แล้วนั่นเอง
แต่สำหรับผู้ที่มีรายได้ต่อปี มากกว่า 150,000 บาทต่อปี หากมีการจับจ่ายใช้สอยหรือ ช็อปเต็มจำนวน 30,000 บาท ก็จะมีสิทธิ์ได้รับเงินคืน จากมาตรการ ช้อปดีมีคืน โดยจะอยู่ที่ 1,500 บาท และจะได้รับเงินคืน จากมาตรการ ช้อปดีมีคืนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แบบขั้นบันได
ทั้งนี้ ประเด็นที่สำคัญอีกประการสำหรับช้อปดีมีคืน ก็คือ การจับจ่ายใช้สอยนั้นจะต้องอยู่ในช่วงเวลาตั้งแต่ 23 ตุลาคม 2563 – 31 ธันวาคม 2563 โดยจะสามารถนำการใช้จ่ายและหลักฐาน ไปลดหย่อยภาษีปี 2563 ณ เดือนมีนาคม 2564 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เราต้องยื่นภาษีปี 2563 โดยมีการยกเว้นรายการสินค้าและบริการที่ไม่สามารถนำมารวมในการลดหย่อนภาษีกับมาตรการ ช้อปดีมีคืนได้ เช่น
- สุรา/ เบียร์ และไวน์
- ค่าน้ำมัน และก๊าซ
- ค่าหนังสือพิมพ์ และนิตยสาร
- ค่าบริการธุรกิจนำเที่ยว
- ยาสูบ
- ค่าโดยสารรถยนต์/ มอเตอร์ไซค์ และเรือ
- ค่าบริการ E – Book
- ค่าที่พักโรงแรม
ทั้งนี้ ผู้ที่จะขอรับสิทธิ์ลดหย่อนภาษี 2563 จากมาตรการ ช้อปดีมีคืน ผู้ใช้สิทธิ์ต้องซื้อสินค้ากับผู้ประกอบการที่จดทะเบียนภาษี และต้องมีใบกำกับภาษีมูลค่าเพิ่มเต็มรูปแบบจากการซื้อสินค้าเป็นหลักฐาน และที่สำคัญคือ ผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ (บัตรคนจน) หรือผู้ที่เข้าร่วมโครงการ คนละครึ่ง ไม่สามารถใช้สิทธิ์นี้ได้
การเตรียมเอกสารเพื่อขอ ลดหย่อยภาษี กับ ช้อปดีมีคืน
แม้ว่าการเข้าร่วมโครงการและมาตรการ ช้อปดีมีคืน ไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนล่วงหน้าหรือกดเข้าร่วมโครงการแต่อย่างใด แต่ ในการจับจ่ายซื้อสินค้าและบริการเพื่อเข้าร่วมมาตรการ ช้อปดีมีคืนนี้ คุณจะต้องดำเนินการเก็บเอกสารหรือขอเอกสารใบกำกับภาษีไว้ทั้งหมด เพราะในการขอลดหย่อนภาษีนั้น มีความจำเป็นที่จะต้องแสดงรายการลดหย่อนพร้อมแนบหลักฐานต่าง ๆ เพื่อยืนยันการจับจ่ายตามมาตรการ ช้อปดีมีคืน ซึ่งต้องเป็นเอกสารและใบกำกับภาษีมูลค่าเพิ่มเต็มรูปแบบเท่านั้น
ดังนั้น หากคุณกำลังวางแผนการจับจ่ายใช้ส่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าเป็นการใช้จ่ายที่เป็นสินค้าและบริการนอกรายการยกเว้นของมาตรการ ช้อปดีมีคืน คุณจะต้องดำเนินการขอและเก็บรักษาใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ ที่มีการระบุรายละเอียดของบริษัทผู้ขาย รายละเอียดสินค้า ราคา และข้อมูลอื่น ๆ ให้พร้อมสำคัญการขอลดหย่อนภาษี เพื่อความสะดวก และความถูกต้องของการเตรียมเอกสาร และเพื่อไม่ให้การช้อปตามมาตรการนี้ ไม่เสียเปล่า
อ้างอิง 1