กู้เงินลาซาด้า (Lazada Loan) 2568

กู้เงินลาซาด้า (Lazada Loan) คืออะไร?

ในยุคที่ “ตลาดออนไลน์” เติบโตแบบก้าวกระโดด โดยเฉพาะแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่าง Lazada ทำให้ทั้งผู้ขาย (Seller) และผู้ซื้อ ต่างมองหาตัวช่วยเสริมสภาพคล่องหรือเงินทุนหมุนเวียนมากขึ้น หนึ่งในตัวช่วยที่หลายคนให้ความสนใจ คือ สินเชื่อ Lazada หรือที่บางคนเรียกว่า กู้เงินลาซาด้า ซึ่งออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือผู้ค้าในระบบและลูกค้าที่ต้องการเครดิตในการชำระเงิน

บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ “สินเชื่อ Lazada” หรือ “Lazada Loan” ว่าคืออะไร? มีคุณสมบัติแบบไหน? วิธีสมัครและข้อดี-ข้อควรระวัง พร้อมแนะนำ สินเชื่ออื่น ๆ ที่คล้ายกัน อย่างน้อย 5 แหล่งเงินกู้ ที่เหมาะกับสายออนไลน์หรือต้องการใช้สินเชื่อในช่องทางดิจิทัล


1. กู้เงินลาซาด้า (Lazada Loan) คืออะไร?

1.1 สินเชื่อสำหรับ “ผู้ค้า” Lazada

  • Lazada Seller Loan เป็นสินเชื่อสำหรับ “ผู้ขาย” (Seller) บนแพลตฟอร์ม Lazada โดยเฉพาะ เพื่อช่วยเสริมสภาพคล่องและขยายกิจการ
  • เป็นสินเชื่อที่ Lazada ร่วมมือกับพันธมิตรทางการเงิน เช่น ธนาคารกรุงศรีฯ (Krungsri) หรือสถาบันการเงินอื่น ๆ ที่ Lazada จัดหาให้ในแต่ละช่วง
  • ผู้ขายที่ได้รับเชิญหรือมีสิทธิ์เข้าร่วมจะได้รับข้อเสนอสินเชื่อภายใน Seller Center หรือแอป Lazada Seller

1.2 สินเชื่อสำหรับ “ลูกค้า” Lazada

  • Lazada Wallet PayLater หรือ LazPayLater คือบริการ “สินเชื่อซื้อก่อน จ่ายทีหลัง” สำหรับลูกค้าทั่วไปที่ซื้อของผ่าน Lazada
  • สามารถเลือกผ่อนสินค้าแบบดอกเบี้ย 0% หรือผ่อนชำระรายงวด (สูงสุด 6 เดือน หรือแล้วแต่ช่วงโปรโมชัน)
  • LazPayLater ร่วมมือกับ SCB Abacus (ผู้ให้บริการเดียวกับแอปสินเชื่อฟินนิกซ์) และอยู่ภายใต้การกำกับของ ธปท.

2. ข้อดีของการกู้เงินหรือใช้ Lazada Loan

  1. สมัครง่ายผ่านระบบออนไลน์
    • ไม่ต้องไปธนาคารหรือกรอกเอกสารซับซ้อน สามารถสมัครในระบบ Seller Center หรือแอปลาซาด้าได้เลย
  2. อนุมัติไว
    • กรณีสินเชื่อสำหรับลูกค้า (LazPayLater) อาจอนุมัติวงเงินภายในวันเดียว ส่วนสินเชื่อผู้ขายอาจใช้เวลาไม่กี่วัน
  3. เหมาะกับกลุ่มออนไลน์
    • ทั้งผู้ค้าและลูกค้าสามารถขอวงเงินหรือผ่อนสินค้าได้ง่ายขึ้น เหมาะกับคนที่ต้องการความรวดเร็ว
  4. โปรโมชันดอกเบี้ย 0%
    • LazPayLater มักมีโปรโมชันดอกเบี้ย 0% ในสินค้าหรือร้านค้าที่ร่วมรายการ
  5. ช่วยเสริมสภาพคล่องธุรกิจ
    • สำหรับผู้ค้าบน Lazada สามารถใช้เงินทุนจาก Seller Loan ไปเพิ่มสินค้า, ทำแคมเปญโฆษณา หรือบริหารคลังสินค้า

3. วิธีสมัครสินเชื่อ Lazada Loan (Seller & ลูกค้าทั่วไป)

3.1 สำหรับ ลูกค้า (LazPayLater)

  1. เข้าแอปลาซาด้า
  2. ไปที่หน้า Lazada Wallet > LazPayLater
  3. อ่านเงื่อนไขและกดยอมรับ
  4. กรอกข้อมูลส่วนตัวและยืนยันตัวตน (e-KYC) ผ่านระบบที่ลาซาด้ากำหนด
  5. รออนุมัติวงเงินภายในไม่กี่ชั่วโมงหรือวันเดียว (ในบางกรณี)
  6. ใช้ LazPayLater เมื่อเลือกซื้อสินค้าที่ร่วมรายการได้ทันที

3.2 สำหรับ ผู้ค้า (Lazada Seller Loan)

  1. เข้าสู่ระบบ Seller Center ของ Lazada
  2. ไปที่เมนู “สินเชื่อ” หรือ Lazada Loan Program
  3. อ่านเงื่อนไขสินเชื่อและข้อเสนอจากธนาคารพันธมิตร
  4. กดยื่นสมัคร และกรอกข้อมูล/ส่งเอกสารประกอบ เช่น รายได้ร้านค้า สถานะ Seller
  5. รอพิจารณาวงเงิน
  6. เมื่ออนุมัติ สามารถถอนเงินเข้าสู่บัญชีธนาคารได้ทันที

4. ข้อควรระวัง

  1. LazPayLater เหมือนบัตรเครดิตออนไลน์
    • แม้ใช้ง่าย แต่ควรวางแผนการผ่อนให้รอบคอบ เพราะดอกเบี้ยจะถูกคิดหากเกินระยะโปรโมชัน 0%
  2. สินเชื่อผู้ขายเป็นสินเชื่อมีภาระผูกพัน
    • ต้องชำระเงินคืนตามเงื่อนไขที่ตกลง เช่น การหักเงินจากยอดขายบางส่วน หรือการผ่อนชำระรายเดือน
  3. ตรวจสอบค่าธรรมเนียมและดอกเบี้ย
    • อาจมีค่าธรรมเนียมบางรายการ หรือดอกเบี้ยที่ปรับตามโปรโมชัน ควรอ่านสัญญาและข้อเสนอให้ครบถ้วน
  4. ไม่ได้เปิดให้ทุกคนสมัคร
    • โดยเฉพาะ Seller Loan ซึ่งต้องได้รับคำเชิญ (Invitation) จาก Lazada ตามเกณฑ์ที่กำหนดเท่านั้น เช่น ยอดขายถึงเกณฑ์, ประวัติการค้าดี

5. สินเชื่ออื่น ๆ ที่คล้าย Lazada Loan

นอกจากสินเชื่อของ Lazada แล้ว ยังมีสินเชื่อออนไลน์และ Buy Now Pay Later (BNPL) อีกหลายเจ้าที่ให้บริการคล้ายกัน ดังนี้


5.1 Shopee SPayLater (ช้อปปี้ ผ่อนก่อน จ่ายทีหลัง)

  • สำหรับลูกค้า Shopee
  • สมัครง่ายผ่านแอป Shopee ใช้เป็นวงเงินซื้อก่อนจ่ายทีหลังหรือผ่อนสินค้าได้
  • อัตราดอกเบี้ย: ประมาณ 1-2% ต่อเดือน (ขึ้นกับสินค้าและโปรโมชัน)
  • ผ่อนได้สูงสุด 3-6 เดือน
  • ข้อดี: สมัครง่ายผ่านแอป ดอกเบี้ยต่ำในบางโปร, ใช้สะดวกกับสินค้า Shopee

5.2 KBank Xpress Loan (สินเชื่อบุคคลกสิกรไทย)

  • สำหรับบุคคลทั่วไป
  • สมัครสินเชื่อส่วนบุคคลออนไลน์ผ่านแอป K PLUS
  • วงเงินสูงสุด 1.5 ล้านบาท ผ่อนสูงสุด 60 งวด
  • ข้อดี: ไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน, อนุมัติไว, วงเงินสูงกว่า LazPayLater
  • เหมาะสำหรับคนต้องการเงินก้อนจริง ๆ มากกว่าผ่อนสินค้ารายย่อย

5.3 LINE BK (วงเงินให้ยืม)

  • สำหรับลูกค้า LINE BK
  • วงเงินพร้อมใช้สูงสุด 800,000 บาท หรือ 5 เท่าของรายได้
  • ใช้เป็นวงเงินหมุนเวียนหรือผ่อนชำระรายเดือนได้
  • ข้อดี: สมัครผ่านแอป LINE ง่าย รู้ผลไว
  • เหมาะกับผู้ที่ต้องการวงเงินสำรองเพื่อใช้ในชีวิตประจำวันหรือลงทุน

5.4 Dolfin Money (โดย KBank)

  • วงเงินพร้อมใช้ผ่านแอป Dolfin Money
  • วงเงินสูงสุด 1.5 ล้านบาท
  • โอนเงินเข้าบัญชีหรือใช้สแกนจ่าย QR Code
  • ข้อดี: เหมาะกับนักช้อปออนไลน์ และกลุ่มที่ต้องการเบิกเงินผ่านแอป Dolfin Wallet
  • ดอกเบี้ยประมาณ 18-25% ต่อปี

5.5 TrueMoney Micro Credit (ทรูมันนี่ไมโครเครดิต)

  • สำหรับลูกค้าทรูมูฟ เอช รายเดือน
  • สมัครผ่าน TrueMoney Wallet
  • วงเงินสินเชื่อสูงสุด 5,000-50,000 บาท
  • ข้อดี: ใช้จ่ายใน TrueMoney หรือ Lazada ได้ (บางโปรร่วมกับ Lazada)
  • เหมาะสำหรับผู้ใช้บริการทรูที่มีประวัติการชำระค่าบริการดี

6. สรุป

สินเชื่อ Lazada ทั้งในฝั่ง Seller Loan (สำหรับร้านค้า) และ LazPayLater (สำหรับลูกค้า) เป็นทางเลือกที่ดีในยุค e-Commerce บูม ช่วยเพิ่มสภาพคล่องในการทำธุรกิจและการจับจ่าย แต่ควรใช้อย่างระมัดระวังและคำนวณค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยอย่างรอบคอบ

สำหรับผู้ที่ต้องการตัวเลือกสินเชื่ออื่น ๆ ยังมี Shopee SPayLater, KBank Xpress Loan, LINE BK, Dolfin Money และ TrueMoney Micro Credit ที่ให้บริการลักษณะคล้ายกัน เหมาะสำหรับคนที่เน้นความสะดวกและเข้าถึงวงเงินได้ง่ายผ่านระบบออนไลน์