ร่างกายของมนุษย์ ถือว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์อย่างมากสิ่งหนึ่ง โดยแทบไม่น่าเชื่อว่าร่างกายของเรา จะเต็มไปด้วยอวัยวะ เส้นเลือด ผิวหนังและส่วนประกอบอื่น ๆ อีกมากมายที่แม้จะมีการศึกษาวิจัยอยู่ตลอดเวลา ก็ยังมีการค้นพบข้อมูลและประเด็นความรู้ใหม่ ๆ เสมอและยังมีอีกหลายประเด็นที่เรายังไม่สามารถหาคำตอบได้ โดยหนึ่งในนั้นคืออาการ “หัวใจโต” ซึ่งกำลังเป็นอาการผิดปกติยอดฮิตของคนยุคนี้
“หัวใจโต” หรือที่เรียกกันในทางการแพทย์ “Cardiomegaly” เป็นภาวะหนึ่งไม่ใช่โรค ที่หัวใจมีขนาดใหญ่หรือหนากว่าปกติ ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่มาจาก ความดันโลหิตสูงหรือโรคหลอดเลือด ซึ่งทั้ง 2 เป็นโรคสุดฮิตของคนในปัจจุบัน ดังนั้น ในครั้งนี้เพื่อเป็นการเตรียมการสำหรับการดูแลและสังเกตตนเอง และคนรอบข้าง เพื่อให้มีความรู้และความเข้าใจโรคหัวใจโตมากยิ่งขึ้น เราจึงขอนำเสนอบทความ “โรคหัวใจโต อันตรายไหม ห้ามกินอะไร รักษาหายไหม” ซึ่งมีรายละเอียดและสาระ ดังนี้
โรคหัวใจโตเกิดจากอะไร คืออะไร
ภาวะหัวใจโต แท้จริงแล้วไม่ใช่โรคหัวใจโตอย่างที่กล่าวกันจนติดปาก แต่เนื่องจากอาการนี้เป็นอาการที่เกิดจากการตรวจพบว่า หัวใจของเรานั้นมีขนาดที่โตกว่าปกติ โดยเป็นผลมาจากอาการอื่น ๆ ซึ่งเป็นต้นเหตุ เช่น ความดันโลหิตสูง หรือลิ้นหัวใจตีบ ซึ่งอาการเหล่านี้จะทำให้กล้ามเนื้อหัวใจหนาขึ้นและอาจจะเป็นผลมาจากกล้ามเนื้อหัวใจทำงานไม่เต็มที่ หรือมีเลือดคงค้างอยู่ในห้องหัวใจมากเกินไป โดยทั้งหมดสามารถส่งผลและทำให้เกิดอาการโรคหัวใจโตนั่นเอง
ทั้งนี้โรคหัวใจโต หรือจะเรียกให้ถูกต้องตามหลักการทางการแพทย์คือ อาการหัวใจโตนั้น ในระยะแรกเริ่ม มักไม่มีอาการผิดปกติใด แต่หากปล่อยทิ้งไว้เป็นระยะเวลานาน ๆ หัวใจจะดำเนินการสูบฉีดเลือดได้ไม่ดี ก็อาจส่งผลให้เกิดอาการผิดปกติเหล่านี้ตามมา เช่น
- หายใจลำบาก เหนื่อยง่าย
- รู้สึกอ่อนเพลียง่าย
- มีอาการบวมตามเท้า ขา เปลือกตา
- มีอาการใจสั่น วิงเวียนศีรษะ
- หัวใจเต็มไม่สม่ำเสมอ
- มีอาการแน่นที่หน้าอก เมื่อนอนราบและอาจทำให้เกิดอาการไอตามมา
โรคหัวใจโต อันตรายไหม
จากข้อมูลเกี่ยวกับโรคหัวใจโตในข้างต้น ทุกท่านคงพอจะทราบความอันตรายและอาการผิดปกติที่อาจจะเกิดขึ้น สืบเนื่องมาจากโรคหัวใจโตกันบ้างแล้ว ดังนั้นหากจะกล่าวกันตามตรงที่นี่ว่า โรคหัวใจโต อันตรายไหม หรือควรรีบดำเนินการรักษาเลยหรือไม่ คำตอบง่าย ๆ โดยแทบจะไม่ต้องสงสัยเลยคือ “ใช่” โรคหัวใจโต หรืออาการหัวใจโตนั้นแม้ในระยะแรกเริ่มจะไม่มีความอันตรายหรือมีความรุนแรง แต่เมื่อปล่อยไว้หรือเมื่อเกิดอาการอื่น ๆ แทรกอาจจะส่งผลให้ร่างกาย โดยเฉพาะหัวใจไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ ซึ่งอาจจะนำโรคภัยไข้เจ็บอื่น ๆ ให้เกิดขึ้นได้
ดังนั้น หากคุณตรวจพบว่าตนเองหรือคนใกล้ตัวมีอาการหัวใจโต หรือกำลังเริ่มมีอาการโรคหัวใจโต โปรดรีบเข้าพบแพทย์เพื่อทำการรักษาโดยเร็ว ซึ่งการแพทย์ในปัจจุบันนั้น สามารถดำเนินการรักษาได้มากมาย หลากลายวิธีการ โดยไม่จำเป็นต้องเข้ารับการผ่าตัดอย่างเดียว อย่างที่หลาย ๆ ท่านมีความกังวล
โรคหัวใจโต รักษาหายไหม
การรักษาอาการหัวใจโต หรือการรักษาโรคหัวใจโตนั้น สามารถดำเนินการทางการแพทย์เพื่อให้การรักษาได้หลายวิธีการ โดยทั้งหมดจะขึ้นอยู่กับสาเหตุและอาการของการก่อให้เกิดอาการหัวใจโตนั้น ๆ โดยสามารถแบ่งออกเป็นวิธีการต่าง ๆ ดังนี้
- สาเหตุจาก โรคอ้วน โรคความดันโลหิตสูง โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคเบาหวาน โรคไขมันสูง สามารถดำเนินการรักษาได้ด้วยการใช้ยารักษาอาการตามโรคนั้น ๆ พร้อมทั้งต้องดำเนินการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต
- สาเหตุจาก โรคลิ้นหัวใจ สามารถรักษาได้ด้วย การผ่าตัดลิ้นหัวใจ
- สาเหตุจาก ภาวะหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ สามารถรักษาได้ด้วยการใช้เครื่องคุมจังหวะการเต้นของหัวใจ
- สาเหตุจาก อาการบวม สามารถรักษาอาการโรคหัวใจโตได้ด้วยการใช้ยาขับน้ำ
โดยอาการหัวใจโตหรือโรคหัวใจโต ที่มีสาเหตุมาจากการไอ การหายใจเร็วหรือเป็นโรคหอบนั้น สามารถดำเนินการรักษาด้วยวิธีการทั่วไป เช่น การพักผ่อนให้เพียงพอ การให้ออกซิเจน ทั้งนี้โรคหัวใจโตไม่ควรดำเนินการรักษาด้วยตนเอง ทุกท่านที่มีอาการดังกล่าว ควรเข้าพบและปรึกษาเพื่อขอคำแนะนำและคำวินิจฉัยจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง
โรคหัวใจโต ห้ามกินอะไร
อย่างที่เราพอจะทราบกันแล้วว่า อาการหัวใจโตหรือโรคหัวใจโตนั้น เป็นอาการผิดปกติที่มีสาเหตุมาจากโรคต่าง ๆ ที่ส่งผลกระทบมายังหัวใจ และทำให้หัวใจมีอาการโตขึ้น ยังนั้นเมื่อกล่าวถึงอาหารที่ผู้ป่วยเป็นโรคหัวใจโต ห้ามกินอะไรนั้น เราจึงต้องมุ่งเน้นไปที่อาหารและเครื่องดื่ม ที่อาจจะส่งผลต่ออาการที่เป็นสาเหตุของโรคเป็นอันดับแรก โดยมี ดังนี้
- อาหารที่ทำให้อ้วน
- อาหารที่มีปริมาณไขมันสูง และคอเลสเตอรอลสูง
- อาหารที่มีรสจัด ซึ่งอาจก่อให้เกิดอาการดันดันโลหิตสูงตามมา
- เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
- บุหรี่และสารเสพติดทุกชนิด
นอกจากการควบคุมการรับประทานอาหารซึ่งสามารถช่วยในการรักษาและลดอาการเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดผลต่อโรคหัวใจโตแล้วนั้น ทุกท่านยังสามารถออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และมั่นดูแลสุขภาพด้านการระมัดระวังอาหารการกิน ขนมและพักผ่อนให้เพียงพอ ซึ่งทั้งหมดจะสามารถช่วยให้ร่างกายที่เป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่มีอยู่กับตัวของเราทุกคนนั้น ยังคงแข็งแรงและสามารถดำเนินชีวิตอย่างปกติต่อไปได้