ความน่ากลัวของหนี้นอกระบบ
ภาวะเป็นหนี้หรือแม้แต่คำว่า “หนี้” เพียงคำเดียวนั้นเป็นสิ่งที่ทุกคนต่างทราบถึงพลังอานุภาพและพิษภัยกันเป็นอย่างดี และไม่มีผู้ใดต้องการที่จะต้องตกไปอยู่ในสถานะดังกล่าว โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ยากลำบากดังเช่นในปัจจุบัน ที่สภาพเศรษฐกิจตกต่ำ คนถูกให้ออกจากงาน เงินเดือนไม่ขึ้น ไม่มีโบนัส ราคาค่ารถโดยสารแพงกว่าข้าวราดแกง 1 มื้อ ไหนจะค่าใช้จ่ายประจำวันอื่น ๆ ค่าเทอมลูก ค่าผ่อนรถ ค่าเช่าบ้าน ยิ่งทำให้ชีวิตเต็มไปด้วยความตึงเครียด ซึ่งหลายคนที่ไม่สามารถหาทางออกได้จนต้องตกเป็นเยื่อของเงินกู้มากมายทั้งในและนอกระบบจนหนี้สินล้นพ้นท่วมตัวจนไม่อาจขึ้นจากหลุมได้สักที โดยเฉพาะหนี้นอกระบบ ซึ่งไม่มีมาตรการใด ๆ ออกมาเพื่อช่วยเหลือผู้กู้ยืมเงินช่วงระหว่างวิกฤตการณ์ดังเช่นในปัจจุบัน มีแต่จะตามจิกให้ชำระหนี้และอาจมีดอกเบี้ยสะสม หรือทวีคูณมากขึ้นหากมีการผิดชำระอีกด้วย ซึ่งยังไม่นับมาตรการติดตามทวงและเร่งรัดหนี้สินที่เกินจะบรรยาย ต้องย้ายบ้าน เปลี่ยนชื่อหนีกันเลยทีเดียว
ลิงก์ผู้สนับสนุน
เทคนิคการปลดหนี้นอกระบบ
แท้จริงแล้วหนี้สินไม่ว่าจะเป็นหนี้ในระบบหรือหนี้นอกระบบล้วนมีต้นดำเนิดมาจากแหล่งเดียวกัน นั่นคือ “ตัวเรา” หรือตัวผู้กู้นั่นเอง คำกล่าวที่ว่า “ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน” นั้นดูเหมือนจะเป็นความจริงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะต้นเหตุของปัญหาหนี้สินที่มากมายล้นพ้นตัวนั้น ก็มาจากการกู้ การใช้จ่ายเงินของตัวผู้กู้นั่นเอง ดังนั้น หากต้องการที่จะแก้ไขปัญหา อยากปลดหนี้นอกระบบที่ก่อขึ้นก็ต้องเริ่มต้นที่ตัวผู้กู้เองเป็นอันดับแรก ซึ่งบทความหนี้จึงขอนำเสนอแนวทางในการจัดการหนี้ด้วยตัวผู้กู้เองเพื่อนำไปสู่การปลดหนี้นอกระบบอย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ก่อให้เกิดหนี้สะสม หรือการโยกย้ายหนี้เก่าไปสู่หนี้ใหม่โดยที่ไม่ก่อให้เกิดสภาพคล่องแก่ตัวผู้กู้ ซึ่งมีเทคนิคและแนวทางดังนี้
9 เทคนิคการปลดหนี้นอกระบบ
1.ตั้งเป้าหมายและหาแรงจูงใจ
ภารกิจปลดหนี้นอกระบบนั้นถือว่าเป็นภารกิจความยากระดับ 5 ดาวเลยทีเดียว เพราะต้องใช้ความอดทนพยายาม ใช้แรงใจและแรงกายอย่างมากเพื่อทำให้ภารกิจนี้สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี ดังนั้นสิ่งแรกที่ควรทำคือการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน ว่าเรากำลังทำอะไร เราทำเพื่ออะไร ประกอบกับการสร้างแรงจูงใจหนุนนำ สร้างภาพความคิดในอนาคตว่าเราจะเป็นอย่างไรหากสามารถปลดหนี้ก้อนนี้ได้ เช่น เราจะมีเวลาให้ครอบครัวมากขึ้น ครอบครัวจะมีความสุข สุขภาพร่างกายแข็งแรงมากยิ่งขึ้นเพราะไม่มีสภาวะเครียด ซึ่งจะเป็นสิ่งที่สามารถโน้มนำในเรามีกำลังใจที่จะอดทน ต่อสู้กับความท้อแท้ ความเหน็ดเหนื่อยจากการทำภารกิจปลดหนี้นอกระบบนี้ได้เป็นอย่างดี
2.รวบรวมและทำความรู้จักหนี้ของคุณ
หลักจากตั้งเป้าหมายและหาแรงจูงใจในการปลดหนี้นอกระบบแล้ว สิ่งที่ควรทำลำดับต่อไปคือ การรวบรวมหนี้และศึกษารายละเอียดหนี้นอกระบบทั้งหมด เป็นสิ่งสำคัญอย่างมากที่เราควรจะต้องทราบยอดทั้งหมดของหนี้นอกระบบที่เรามี หากมีเพียงรายการเดียวก็ดีไป แต่หากมีหลายรายการหลายนัดชำระ เราจึงควรรวบรวมและจัดทำรายการหนี้ทั้งหมดเพื่อไม่ให้เกินการลืมหรือการผิดชำระ เพราะอาจนำมาซึ่งอัตราดอกเบี้ยมหาโหดที่เราไม่อาจคาดเดาได้ จากนั้นสิ่งที่ควรทำต่อคือ การศึกษารายละเอียดของหนี้นอกระบบที่เรามี ยิ่งหากมีหลายรายการจะต้องจดบันทึกและจัดทำรายการเพื่อไม่ให้ลืมและผิดนัดชำระ อีกทั้งยังเป็นการวางแผนล่วงหน้าว่าเราจะมีภาระหนี้นอกระบบไปนานกี่เดือน กี่ปี เพื่อคาดการณ์ล่วงหน้าหากมีเหตุการณ์พิเศษอื่น ๆ ที่จำเป็นต้องนำเงินไปใช้ เช่น กำหนดชำระค่าเล่าเรียนบุตร การครบกำหนดชำระรายปีของประกันต่าง ๆ ค่าใช้จ่ายจิปาถะอื่น ๆ เช่น ค่าซ่อมรถ ค่าตรวจสุขภาพประจำปีหรือแม้แต่ค่ากองกลางหมู่บ้านหรือคอนโด ซึ่งนั่นอาจจะก่อให้เกิดปัญหาได้หากเราไม่ได้วางแผนการเตรียมเงินล่วงหน้าไว้
3.ไม่โยกย้ายหนี้หรือไม่เพิ่มหนี้หากไม่ใช่เพื่อการปลดหนี้
ข้อนี้เป็นประเด็นที่ต้องพิจารณาอย่างละเอียดเพราะการกู้เงินเพิ่มหรือการกู้เงินก้อนใหม่มาปิดก้อนเก่าเป็นสิ่งที่อาจมีผลทั้งด้านดีและอาจก่อให้เกิดผลเสียตามมา การกู้เงินก้อนใหม่หากเป็นการกู้เงินในระบบจากสถาบันการเงินหรือธนาคารหรือการกู้เงินที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำกว่ามาเพื่อใช้ในการปลดหนี้นอกระบบที่เรามีย่อมเป็นสิ่งที่ดีกว่าการทนชำระหนี้นอกระบบไปจนหมด เพราะส่วนใหญ่เงินกู้ในระบบมักจะมีอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าและมาตรการในการทวงถามหนี้จะเป็นวิธีการที่อยู่ภายใต้กฎหมายการเร่งรัดหนี้สิน ซึ่งค่อนข้างปลอดภัยกว่ากระบวนการเร่งรัดหนี้สินของหนี้นอกระบบมากนัก เพราะแม้ว่าการกู้เงินนอกระบบจะอนุมัติง่าย ได้เงินสะดวกและไม่ต้องใช้เอกสารหรือบุคคลค้ำประกันมากนัก แต่กระบวนการเร่งรัดหนี้สินนั้นเป็นสิ่งที่เราทราบกันดีถึงความโหดและความน่ากลัว ทั้งจากหน้าข่าวหนังสือพิมพ์ไปจนถึงข่าวจากสื่อออลไลน์ ดังนั้นหากไม่ใช่เพื่อการปลดหนี้นอกระบบ เราจะต้องไม่ก่อหนี้เพิ่มเด็ดขาด!
4.ห้าม! ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย นะครับ
การผิดชำระหนี้สำหรับหนี้นอกระบบนั้นถือว่าเป็นความผิดร้ายแรงระดับโดนเครื่องประหารหัวสุนัขเลยทีเดียวนะครับ เพราะนอกจากอาจจะโดนค่าปรับ ค่าธรรมเนียม อัตราดอกเบี้ยสะสม ทวีคูณแล้ว เราจะโดนกระบวนการติดตามทวงหนี้ด้วยวิธีการที่เราคาดไม่ถึง ขนาดที่คนทั่วไปมากมายหลายคนที่เคยโดนถึงกับต้องเปลี่ยนชื่อ นามสกุล ย้ายที่อยู่หนีหนี้กันเลยทีเดียว ดังนั้น สิ่งที่ควรทำคือการชำระหนี้ให้ตรงเวลาหากไม่มีเงินที่จะจ่ายจริง ๆ ก็ต้องหายืมหรือต้องจำหน่ายทรัพย์สินอื่น ๆ มาชำระให้ได้ เพราะการผิดชำระหนี้นอกระบบนี้อาจส่งผลที่มากกว่าการสูญเสียที่เป็นแค่ตัวเงิน
5.คุยเจรจากับเจ้าหนี้
หลายคนอาจจะกังวลและอาจกลัวที่จะเจรจาพูดคุยกับเจ้าหนี้นอกระบบ เพราะอาจเคยได้ยินกิตติศัพท์คำลำลือของการทวงหนี้แต่หากเรามีความประสงค์ที่จะขอเจรจา โดยพูดคุยกันด้วยเหตุผลและความจริงเจ้าหนี้เงินกู้นอกระบบย่อมรับฟัง (อาจไม่ใช่ทุกคนนะครับ) โดยหากลูกหนี้คาดการณ์แล้วว่าตนจะประสบปัญหาแน่นอนในอนาคตทั้งจากผลกระทบด้านรายได้หรืออาจหมุนเงินไม่ทัน เราสามารถที่จะขอเจรจากับเจ้าหนี้ซึ่งอาจขอยืดระยะเวลาชำระหนี้ออกไปก่อน โดยขอคงอัตราดอกเบี้ยไว้เท่าเดิม หรืออาจขอชำระเฉพาะดอกเบี้ยพร้อมรับปากจะไม่ผิดนัดและจ่ายเงินที่เหลือตามกำหนด ซึ่งเจ้าหนี้อาจเข้าใจและยินยอมให้ดำเนินการดังกล่าว แต่ทั้งนี้นั้น การเจรจากับเจ้าหนี้ก็ขึ้นอยู่กับความสัมพันธ์ระหว่างลูกหนี้กับเจ้าหนี้นอกระบบและขึ้นอยู่กับประวัติการชำระหนี้ที่ดีของลูกหนี้ แต่ครั้งนี้มีปัญหาจริง ๆ ทำให้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด ดังนั้นอย่างที่เคยกล่าวในข้างต้นว่าลูกหนี้นั้นควรรักษาประวัติการชำระหนี้ให้ดีและไม่ควรผิดนัดชำระเด็ดขาดเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ เพราะแม้จะเป็นการกู้ยืมเงินนอกระบบ แต่ความน่าเชื่อถือหรือการรักษาเครดิตนั้นก็เป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมาก
6.ตัดใจขายทรัพย์สิน เมื่อได้เงินต้องรีบจ่ายไม่เหนี่ยวหนี้
ขั้นแรกให้เราลองตรวจสอบดูว่า เรามีทรัพย์สินหรือของมีค่าใดบ้างที่สามารถนำไปขาย ซึ่งแม้ต้องตัดใจขายของมีค่าเหล่านั้นออกไปก็ต้องทำ เพื่อนำเงินที่ได้จากการขายทรัพย์สินนั้นมาชำระหนี้นอกระบบโดยด่วน ซึ่งหลักการเลือกขายทรัพย์สินที่มีอยู่นั้นให้พิจารณาจากความสำคัญของทรัพย์สินเหล่านั้นเสียก่อน โดยควรทยอยขายทรัพย์สินที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ก่อนเป็นอันแรก เช่น เครื่องประดับต่าง ๆ กระเป๋า นาฬิกาหรือถ้าจำเป็นจริง ๆ ก็อาจจะต้องขายรถทั้งมอเตอร์ไซส์และรถยนต์ หากมีที่ดินก็ต้องตัดใจขายที่ดินผืนนั้นออกไปก่อน หรือแม้กระทั้งบ้านที่อาจจะมีขนาดใหญ่เกินไปสำหรับเราและครอบครัวเราก็ต้องตัดใจขาย เพราะอย่าลืมว่าเป้าหมายที่เราตั้งไว้ตั้งแต่ต้นคือภารกิจการปลดหนี้นอกระบบที่มีอยู่ให้หมดไปเป็นอันดับแรก หลังจากหายใจหายคอได้คล่องมากขึ้น ค่อยเก็บเงินซื้อทรัพย์สินเหล่านั้นใหม่ที่มีราคาและขนาดที่เหมาะสมกับตนเองมากกว่าในอนาคต
7.ปรึกษาธนาคาร เปลี่ยนหนี้นอกระบบเป็นในระบบ
เรื่องเงินถ้าหากไม่ปรึกษาธนาคารหรือสถาบันทางการเงินแล้วจะให้ไปปรึกษาใคร? ธนาคารและสถาบันทางการเงินถือว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญและเป็นผู้รู้ด้านการเงินซึ่งมีความพร้อมที่จะช่วยเหลือทั้งในด้านการให้คำปรึกษาและการออกสินเชื่อซึ่งเป็นเงินกู้ในระบบแก่ลูกหนี้ อีกทั้งปัจจุบันธนาคารหลายแห่งมีแนวทางและมาตรการในการช่วยเหลือผู้เป็นหนี้นอกระบบออกมาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นเทคนิคอีกประการที่ลูกหนี้ควรพิจารณาคือการเข้าไปขอคำปรึกษาจากธนาคาร ซึ่งอาจได้รับความช่วยเหลือ เช่น
- การขอกู้สินเชื่อส่วนบุคคล เป็นมาตรการที่ลูกหนี้สามารถทำได้ในกรณีที่ลูกหนี้ยังมีเครดิตหรือประวัติการชำระหนี้กับสถาบันการเงินที่ดี แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยสินเชื่อส่วนบุคคลอาจจะสูงพอสมควร แต่ก็ยังถือว่าถูกกว่าอัตราดอกเบี้ยของเงินกู้นอกระบบแน่นอน
- ใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน หากลูกหนี้ยังคงมีทรัพย์สินที่สามารถนำมาใช้ค้ำประกันได้ เรายังพอมีความหวังครับ!! ถ้าเรายังมีบ้าน ที่ดิน หรือรถยนต์ที่ปลอดภาระ สามารถนำใช้เป็นหลักทรัพย์เพื่อค้ำประกันการกู้ซึ่ง การกู้รูปแบบนี้จะมีอัตราดอกเบี้ยที่ถูกลงไปอีก และจะได้เงินเป็นก้อนซึ่งอาจเพียงพอที่จะใช้ปลดหนี้นอกระบบทั้งหมดได้
8.หารายได้เพิ่ม
หากไม่มีทรัพย์สินอื่นที่จะขาย เรายังมือ 2 มือ 2 เท้ากับอีก 1 ใจครับ!!! ลูกหนี้นอกระบบหลายคนสามารถบรรลุภารกิจปลดหนี้ได้ไม่ใช่เพราะจากการขายทรัพย์สินเพียงอย่างเดียว แต่สามารถปลดภาระหนี้ได้จากการทำงานและการหารายได้เพิ่มครับ โดยอาจจะเริ่มต้นจากการทำงานล่วงเวลา (OT) หรือการหางาน Part-Time ทำในวันหยุดจากงานประจำ หรือในปัจจุบันมีอาชีพอีกมากมายที่สามารถทำควบคู่ไปกับการทำงานประจำได้ เช่น การขับ Taxi, Grab Food, Food Panda หรือแม้แต่งานส่งของอื่น ๆ ซึ่งสามารถสร้างรายได้ที่ไม่น้อยทีเดียว หรือหากลูกหนี้มีความถนัดหรือความชอบด้านใดก็อาจลองมองหาอาชีพเสริมที่มีความเกี่ยวพันกับความชอบของตนก็เป็นได้ เพราะจะสามารถสร้างแรงจูงใจเพิ่มเติมให้ลูกหนี้มีแรงใจในการทำงานเพิ่มเติมจนอาจไม่เป็นเพียงแค่งานเสริม แต่อาจจะกลายเป็นงานหลักในอนาคตก็เป็นได้ เพราะในปัจจุบันทุก ๆ คนต่างก็ต้องดิ้นรนและต้องมีลักษณะ Muti-tasking
9.เปลี่ยนตัวเอง ฝึกวินัยทางการเงิน
เริ่มต้นด้วยตนเป็นที่พึ่งแห่งตนก็ต้องปิดท้ายด้วยตนเป็นที่พึ่งแห่งตนเช่นกันครับ นอกจากลูกหนี้นอกระบบจะดำเนินการบริหารหนี้ จำหน่ายทรัพย์สินที่มี ขอคำปรึกษาจากธนาคาร เจารจากับเจ้าหนี้แล้ว สิ่งสำคัญที่สุดอีกประการก็คือการเปลี่ยนตัวเองเพื่อเสริมสร้างวินัยทางการเงินที่ดีให้แก่ตนเอง โดยอาจจะเริ่มจากวิธีการง่าย ๆ เช่น การจัดทำบัญชีรายรับรายจ่าย แม้ว่าอาจจะดูว่าเป็นวิธีการที่โบราณแต่ยังคงมีประสิทธิภาพจนถึงปัจจุบัน ยิ่งไปกว่านั้นในขณะนี้เราต่างก็มีสมาร์ทโฟนที่สามารถโหลดแอปการทำบัญชีรายรับรายจ่ายซึ่งมีความสะดวกมากขึ้น โดยให้จดบันทึกรายรับและจดทุกครั้งที่จ่าย พอสรุปรายการรายเดือนเราจะเห็นพฤติกรรมการใช้เงินของเราเลยว่า ค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ของเราคืออะไร อะไรบ้างที่เป็นรายจ่ายที่สิ้นเปลืองซึ่งทำให้เราสามารถที่จะตัดและงดการจ่ายเหล่านั้นได้ในเดือนต่อไป ซึ่งจะนำไปสู่การปรับพฤติกรรมการใช้เงินของเราด้วย เช่น หาเงินให้ได้ก่อนค่อยคิดเรื่องใช้เงิน ลดการกินอาหารนอกบ้าน ลดชานมไข่มุก ลดภาษีสังคมต่าง ๆ เป็นต้น
จาก 9 เทคนิคการปลดหนี้นอกระบบที่กล่าวไปทั้งหมด น่าจะพอเป็นแนวทางสำหรับลูกหนี้ในการต่อสู้และทำภารกิจปลดหนี้เพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ครอบครัวมีความสุขมากยิ่งขึ้น มีวินัยทางการเงินที่ดีมากขึ้นเพราะชีวิตที่ปลอดหนี้นั้นคือ ลาภอันประเสริฐ
สำหรับใครที่สงสัยว่าเทคนิคปลดหนี้ การกู้เงินปลดหนี้มีอะไรบ้าง ก็สามารถแวะเวียนไปดูในบทความสินเชื่อรีไฟแนนซ์หนี้ที่เราได้เขียนเอาไว้แล้ว หรือหากใครอยากสมัครคลินิกแก้หนี้ของรัฐบาลก็สามารถอ่านวิธีการและเงื่อนไขได้เช่นกัน
ข้อมูลประกอบการเขียน: SCB, KBANK, MoneyGuru