สเตทเม้น (Statement) ทำบัตรเครดิต กู้เงิน เตรียมยังไง

การเดินบัญชีหรือ สเตทเม้น (Statement) คือ?

ในการทำธุรกรรมทางการเงินข้อมูลบันทึกรายการเคลื่อนไหวของบัญชีธนาคาร หรือที่เรียกกันติดปากว่า สเตทเมนต์หรือสเตทเม้น (Statement) นั้นเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากข้อมูลนี้จะเป็นหลักฐานที่สามารถใช้ในการยืนยันขอมูลการฝากและการถอนทั้งหมดของเจ้าของบัญชี โดยทั่วไปแล้วจะมีการขอเรียกดูข้อมูลเริ่มต้นตั้งแต่ 3เดือน 6 เดือน 12 เดือนหรืออาจจะมากกว่านั้นในบางกรณี ซึ่งมีความสำคัญต่อการทำธุรกรรมทาการเงินรายการใหญ่ ๆ เนื่องจากธนาคารและสถาบันการเงินต้องการแน่นอนใจว่าผู้ที่จะดำเนินการธุรกรรมนั้นมีเงินพอในการรับผิดชอบค่าใช้จ่ายหรือหนี้ที่อาจจะเกิดขึ้นได้หรือไม่ เช่น การขอกู้ การทำวีซ่าเพื่อไปเรียนต่อต่างประเทศหรือกาสมัครบัตรเครดิต

 

ลิงก์ผู้สนับสนุน

ช่องทางในการขอสเตทเม้น (Statement)

ในปัจจุบัน สามารถขอข้อมูลการเดินบัญชีได้หลากหลายวิธี โดยส่วนใหญ่แล้วทุกธนาคารที่มีบริการ E-Banking หรือมีการให้บริการการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ก็จะสามารถขอ Statement ผ่านช่องทางออลไลน์ได้ ซึ่งสามารถส่งเป็นไฟล์เอกสารเข้าในอีเมลของผู้ขอได้อย่างรวดเร็วและสะดวกสบาย และอีกช่องทางนึงก็คือการขอตามแบบปกติ คือ การเข้าไปทำเรื่องขอกับเจ้าหน้าที่ธนาคารโดยตรงหรือการนสมุดบัญชีของตนไปถ่ายสำเนาเป็นเอกสารด้วยตนเองอีกเช่นกัน

เทคนิคการเตรียมสเตทเมนต์ให้พร้อมกู้

การเดินบัญชีหรือการเตรียมสเตทเมนต์ให้สวยงามเพื่อพร้อมแก่การกู้หรือการทำธุรกรรมทางการเงิน ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด โดยสามารถดำเนินการได้ทั้งในฐานะบุคคลและในฐานะผู้ประกอบการ ซึ่งมีเทคนิคและวิธีการง่าย ๆ ดังนี้

 

สเตทเม้น (Statement) ทำบัตรเครดิต กู้เงิน เตรียมยังไง

เช็คเครดิตบูโร

ถือว่าเป็นการเริ่มต้นเตรียมการเดินบัญชีก็ว่าได้ สำหรับการเช็คและตรวจสอบประวัติทางการเงินของตนเองกับบริษัทศูนย์ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ (National Credit Bureau) หรือเครดิตบูโร ที่เรียกกันติดปากในวงการเงิน สิ่งแรกที่ควรทำคือการตรวจสอบหนี้คงค้างชำระหรือการจ่ายล่าช้าจนมีชื่อเข้าไปติดอยู่ในแบล็คลิสต์ของเครดิตบูโรหรือไม่? ซึ่งหากพบว่ามีรายชื่อเข้าไปติดอยู่ในบัญชีรายชื่อแบล็คลิสต์ให้รีบดำเนินการติดต่อกับบริษัทศูนย์ข้อมูลเครดิตแห่งชาติและเจ้าหน้าที่โดยทันที เพราะหากเดินบัญชีไปก็จะไม่เกิดผลใดเพราะการมีชื่อติดอยู่ในแบล็คลิสต์เป็นสิ่งยืนยันว่าบุคคลนั้นหรือผู้ประกอบการนั้นไม่มีความพร้อมและความสามารถในการชำระหนี้หรือรับผิดชอบธุรกรรมนั้น ๆ ได้

นำเงินฝากเข้าบัญชีเป็นประจำ

หลังจากการตรวจสอบรายชื่อในบัญชีแบล็คลิสต์ของเครดิตบูโรแล้ว เราจึงสามารถดำเนินการเดินบัญชีได้ โดยเริ่มจากการฝากเงิน ซึ่งเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างมากต่อการพิจารณาของสถาบันทางการเงินและธนาคาร เพราะสถาบันทางการเงินและธนาคารนั้นจะมุ่งเน้นการให้วามสำคัญต่อการนำเงินเข้าฝากในบัญชีเป็นหลัก เพราะเงินที่นำมาฝากนั้นเป็นสิ่งที่แสดงถึงรายได้ของบุคคลหรือผู้ประกอบการนั้น ๆ ดังนั้นเมื่อมีรายได้ เงินเดือน โบนัสหรือรายรับอื่น ๆ จึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องดำเนินการเอาเงินเข้าฝาก เพื่อให้ยอดเงินเดินอยู่ตลอดเวลา ตามหลักการเดินสเตทเมนต์

 

สเตทเม้น (Statement) ทำบัตรเครดิต กู้เงิน เตรียมยังไง

ถอดเงินได้ แต่ห้ามหมดบัญชี

ในความเป็นจริงแล้ว ยังมีความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนอยู่มากว่า สเตทเมนต์ที่ดีนั้น จะต้องเป็นบัญชีที่ต้องไม่มีการถอนเงินออกจากบัญชีเลย ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เป็นความผิดปกติอย่างมากต่อการเดินบัญชีของบุคคลหรือผู้ประกอบการเองที่จะไม่มีการถอนเงินออกจากบัญชี สิ่งที่ควรกระทำคือ เราสามารถดำเนินการเบิก ถอนเงินได้ตามปกติ เนื่องจากการถอนเงินเป็นการแสดงถึงความเคลื่อนไหวของบัญชีที่เป็นปกติ เพียงแต่ การถอนเงินแต่ละครั้งไม่ควรถอนเงินออกจนยอดเงินคงเหลือต่ำหรือไม่เหลือเงินเลยแม้แต่บาทเดียว ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงการเดินบัญชีที่ไม่สวยงามและยังเป็นการบ่งบอกสถานะทางการเงินที่ย่ำแย่ของบุคคลนั้น ๆ อีกด้วย

ยอดเงินคงเหลือสะสมควรเพิ่มมากขึ้น

การเดินบัญชีหรือการเตรียมสเตทเมนต์ที่ดี และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ทางการเงินได้มีประสิทธิภาพมากที่สุด คือ การมียอดเงินคงเหลือในบัญชีที่มีอัตราการสะสมเพิ่มมากขึ้น การดำเนินกิจกรรมภายในบัญชีที่มีการสะสมมากขึ้นเป็นสิ่งที่มีความสำคัญต่อการพิจารณาของธนาคาร เนื่องจาก การนำฝากมากกว่าการถอนเงินนั้น เป็นเครื่องบ่งบอกว่าสถาณะทางการเงินของบุคคลหรือผู้ประกอบการธุรกิจนั้นมีสภาพคล่องและมีความสามารถในการสะสม ซึ่งควรมีจำนวนหรืออัตราที่เพิ่มมากขึ้นในทุก ๆ เดือน โดยธนาคารและสถาบันทางการเงินมักจะเรียกดูรายการการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือนซึ่งเราควรดำเนินการเดินบัญชียาวนานกว่ากว่าระยะเวลาดังกล่าวและฝึกให้เป็นวินัยทางการเงินที่ดี ซึ่งจะนำมาซึ่งเป็นค่านิยมการออมนั่นเอง

พยายามอย่าให้บัญชีตาย

หากบัญชีถูกแช่แข็งหรือไม่มีการเคลื่อนไหวเป็นเวลานาน ถือว่าบุคคลหรือผู้ประกอบการนั้นมีสถาพล้มเหลวโดยสิ้นเชิงในการเดินบัญชี ดังนั้น จึงควรพยายามทำให้บัญชีมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา เพื่อเป็นการสร้างความพร้อมสำหรับสเตทเมนต์ในการทำธุรกรรมทางการเงินในอนาคต โดยอาจ ย้ายเงินหรือรายรับทั้งหมดของตนมาปรากฏเป็นการเคลื่อนไหวในบัญชีที่ต้องการเดินบัญชี เช่น การรับเงินรายรับ โบนัสหรือรายได้อื่น ๆ ด้วยวิธีการโอนเงินผ่านบัญชีธนาคาร และให้มีการชำระเงินต่าง ๆ ด้วยบัญชีเดียวกัน

ไม่ใช่มนุษย์เงินเดือนก็เดินบัญชีได้

ส่วนใหญ่แล้วอาชีพพนักงานประจำหรือที่เราเรียกกันว่ามนุษย์เงินเดือนนั้นมักจะไม่มีปัญหากับการเดินบัญชี เนื่องจาก บริษัทหรือนายจ้างมักใช้วิธีการโอนเงินเดือนเข้าที่บัญชีของแต่ละบุคคลเป็นปกติ ซึ่งก็จะเป็นการเดินบัญชีโดยอัตโนมัติ แต่สำหรับอาชีพอิสระหรืออาชีพค้าขาย เช่น แม่ค้า พ่อค้า ที่มีรายได้ไม่แน่นอนและรับเงินรายได้จากการว่าจ้างและการขายสินค้าโดนตรงจากลูกค้า ซึ่งอาชีพเหล่าก็สามารถดำเนินการเดินบัญชีได้เช่นกัน โดยทั่วไปธนาคารมักจะมีเงื่อนไขพิเศษสำหรับบุคคลที่ประกอบอาชีพกลุ่มนี้ โดยมักจะต้องการ รายการเดินบัญชีที่เยอะกว่าอาชีพพนักงานประจำ ดังนั้นหากท่านประกอบอาชีพอิสระหรือค้าขาย ก็ควรนำเงินรายได้เข้าบัญชีเพื่อดำเนินการเดินบัญชีให้บ่อยครั้งที่สุด อย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการหารายรับเพื่อสร้างความมั่นใจต่อการเดินบัญชีให้มีความน่าเชื่อถือเพื่อใช้เตรียมสเตทเมนต์สำหรับการทำธุรกรรมทางการเงินต่อไป โดยไม่จำเป็นต้องมีสลิปเงินเดือนหรือเป็นพนักงานประจำ

 

ดังนั้นหากเรามั่นให้ความสนใจและสร้างระเบียบวินัยที่ดีในการเดินบัญชีอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอแล้ว นอกจากจะเสริมสร้างความพร้อมของสเตทเมนต์หรือการเดินบัญชีที่สวยงามแล้ว แต่ยังสามารถเสริมสร้างระเบียบวินัยทางการเงินที่ดีซึ่งสามารถส่งผลให้เรามีเงินสะสม เงินออมเพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน